บลจ.กสิกรไทย สบโอกาสส่งกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ไทย 25 เดือน A เน้นลงทุนในหุ้นกู้เอกชน เสนอขาย 22-28 ม.ค.นี้

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

          บลจ.กสิกรไทย ชวนผู้ลงทุนพักเงินยาวขึ้น ได้จังหวะส่งกองทุนตราสารหนี้อายุโครงการประมาณ 25 เดือน ชูโอกาสรับผลตอบแทน 2.30% ต่อปี รับซื้อคืนอัตโนมัติทุก 6 เดือน เน้นลงทุนในหุ้นกู้เอกชน เสนอขาย 22-28 ม.ค.นี้ ลงทุนขั้นต่ำ 500 บาท
          นายชัชชัย สฤษดิ์อภิรักษ์ Chief Investment Officer (รองกรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการลงทุน) บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ. กสิกรไทย) เปิดเผยว่า ในวันที่ 22-28 มกราคม 2562 บลจ. กสิกรไทย จะเสนอขายกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ไทย 25 เดือน A (KTF25MA) ประมาณการผลตอบแทนที่ผู้ถือหน่วยลงทุนคาดว่าจะได้รับที่ 2.30% ต่อปี โดยจะลงทุนในตราสารหนี้ไทย และกองทุนมีอายุโครงการประมาณ 25 เดือน เหมาะเป็นทางเลือกสำหรับผู้ลงทุนที่สามารถลงทุนได้ยาวขึ้น เพื่อเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงขึ้น โดยกองทุนดังกล่าวจะเน้นการลงทุนในหุ้นกู้ของบริษัทในประเทศไทย ซึ่งได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ในอันดับที่สามารถลงทุนได้ (Investment Grade) และบางส่วนจะลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล และ/หรือพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ทั้งนี้กองทุนจะมีการจ่ายผลตอบแทนโดยการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติทุกๆ 6 เดือน
          ด้านมุมมองตลาดตราสารหนี้ไทย นายชัชชัยกล่าวว่า แนวโน้มตลาดตราสารหนี้ในปี 2562 นี้ คาดว่าจะมีความผันผวนเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งปัจจัยหลักน่าจะมาจากการคาดการณ์การปรับขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ขณะที่แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยน่าจะมีการปรับขึ้นอีก 1 ครั้งในปีนี้ ซึ่งเป็นการปรับขึ้นเพื่อรักษา Policy Space อย่างไรก็ตามปัจจัยเสี่ยงทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นทำให้การขึ้นดอกเบี้ยน่าจะมีแนวโน้มอย่างค่อยเป็นค่อยไป นอกจากนี้อัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ไทย ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ ค่อนข้างจำกัดและน้อยกว่าประเทศอื่นๆในภูมิภาค ประกอบกับสภาพคล่องภายในประเทศ รวมถึงดุลการค้าและดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล และเงินเฟ้อในประเทศยังไม่มีทิศทางเร่งตัว เหล่านี้ยังเป็นปัจจัยบวกที่ทำให้การลงทุนในตราสารหนี้ไทยมีความน่าสนใจ อย่างไรก็ตามปัจจัยที่ต้องจับตาต่อเนื่องคือ จังหวะการปรับขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ความไม่แน่นอนของนโยบายสหรัฐฯ ตลอดจนความขัดแย้งระหว่างภูมิภาค ที่อาจส่งผลต่อความผันผวนของตราสารหนี้ในระยะสั้น บลจ.กสิกรไทยจึงแนะนำให้ผู้ลงทุนที่สามารถลงทุนได้ในระยะยาว และสามารถรับความเสี่ยงได้ในระดับปานกลางถึงต่ำ อาจเลือกล็อกผลตอบแทนกับกองทุนตราสารหนี้ประเภทกำหนดอายุโครงการที่มีกำหนดระยะเวลาลงทุนยาวนานขึ้น เพื่อสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงขึ้น
          นายชัชชัยกล่าวต่อไปว่า นอกเหนือจากกองทุน KTF25MA ดังกล่าวแล้ว เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนในระยะเวลา 3 - 6 เดือน ในระหว่างวันที่ 22-28 มกราคม 2562 บลจ.กสิกรไทยยังเปิดเสนอขายกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ต่างประเทศ 6 เดือน GF (KFF6MGF) ประมาณการผลตอบแทนที่ผู้ถือหน่วยลงทุนคาดว่าจะได้รับที่ 1.70% ต่อปี และกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ต่างประเทศ 3 เดือน BJ (KFF3MBJ) ประมาณการผลตอบแทนที่ผู้ถือหน่วยลงทุนคาดว่าจะได้รับที่ 1.50% ต่อปี โดยทั้ง 2 กองทุนดังกล่าวมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน และสำหรับผู้ลงทุนบุคคลธรรมดาไม่ต้องเสียภาษี ซึ่งผู้ลงทุนสามารถลงทุนด้วยเงินขั้นต่ำเพียง 500 บาท 
          สำหรับกองทุน KFF3MBJ ที่มีอายุโครงการ 3 เดือน และ KFF6MGF ที่มีอายุโครงการ 6 เดือน เบื้องต้นคาดว่าจะเข้าไปลงทุนในเงินฝาก Bank of China และเงินฝาก China Construction Bank, ประเทศจีน, เงินฝาก Commercial Bank of Qatar และบัตรเงินฝาก Qatar National Bank, ประเทศกาตาร์ รวมถึงจะลงทุนในเงินฝาก Union National Bank และเงินฝาก Abu Dhabi Commercial Bank, ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ นอกจากนี้ยังคาดว่าจะลงทุนในเงินฝาก PT Bank Rakyat Indonesia, ประเทศอินโดนีเซีย
          ทั้งนี้ บลจ.กสิกรไทย ยังได้เพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนต่อเนื่องให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนกับกองทุนตราสารหนี้แบบที่มีกำหนดอายุโครงการ (Fixed Term Fund) ของบลจ.กสิกรไทย ซึ่งเมื่อกองทุนครบกำหนดอายุโครงการ บริษัทจัดการจะนำเงินค่าขายคืนอัตโนมัติไปซื้อหน่วยลงทุนที่ผู้ลงทุนเลือกได้กองทุนใดกองทุนหนึ่งใน 3 กองทุน คือ กองทุนเปิดเค ตลาดเงิน (K-MONEY) กองทุนเปิดเค ตราสารรัฐระยะสั้น (K-TREASURY) หรือกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ระยะสั้น (K-SF) ของบลจ.กสิกรไทย 
          ผู้ที่สนใจสามารถลงทุนกับกองทุน KTF25MA, กองทุน KFF6MGF และกองทุน KFF3MBJ ได้ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 500 บาท และสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและขอรับหนังสือชี้ชวนเสนอขายได้ที่ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา หรือสอบถาม KAsset Contact Center 0 2673 3888

บลจ.กสิกรไทย สบโอกาสส่งกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ไทย 25 เดือน A เน้นลงทุนในหุ้นกู้เอกชน เสนอขาย 22-28 ม.ค.นี้

 

ตราสารที่กองทุน  KTF25MA  คาดว่าจะลงทุน

อันดับเครดิต

สัดส่วน

การลงทุน

ประมาณการผลตอบแทน 

(ต่อปี)

ของตราสาร

ของกองทุน

หุ้นกู้ บริษัท ดีแทค ไตรเน็ต จำกัด

AA+/TRIS

9.00%

2.45%

0.22%

หุ้นกู้ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน)

AA/TRIS

9.00%

2.50%

0.23%

หุ้นกู้ บริษัท ซีพีเอฟ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)

A+/TRIS

9.00%

2.50%

0.23%

หุ้นกู้ บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน)

A/TRIS

8.50%

2.50%

0.21%

หุ้นกู้ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน)

A/TRIS

8.50%

2.50%

0.21%

หุ้นกู้ บริษัท เอสพีซีจี จำกัด (มหาชน)

A/TRIS

8.50%

2.45%

0.21%

หุ้นกู้ บริษัท ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น จำกัด (มหาชน)

A/TRIS

8.50%

2.50%

0.21%

หุ้นกู้ บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน)

A-/TRIS

8.00%

2.60%

0.21%

หุ้นกู้ บริษัท ราชธานีลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน)

A-/TRIS

8.00%

2.60%

0.21%

หุ้นกู้ บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) 

BBB+/TRIS

8.00%

3.00%

0.24%

หุ้นกู้ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)

AAA/TRIS

5.50%

2.25%

0.12%

หุ้นกู้ บริษัท อีซี่ บาย จำกัด (มหาชน)

AA+(tha)/Fitch(Thailand)

5.50%

2.40%

0.13%

พันธบัตรรัฐบาล และ/หรือพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย

Government

4.00%

1.88%

0.07%

รวม

 

2.50%

ประมาณการค่าใช้จ่ายกองทุน

0.20%

ประมาณการผลตอบแทนที่ผู้ถือหน่วยลงทุนจะได้รับ

2.30%


 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

 

ตราสารที่กองทุน   KFF6MGF   คาดว่าจะลงทุน

อันดับเครดิต

สัดส่วน

การลงทุน

ประมาณการผลตอบแทน (ต่อปี)

ของตราสาร

ของกองทุน

เงินฝาก China Construction Bank, ประเทศจีน

A1/Moody's

19.00%

1.95%

0.37%

เงินฝาก Commercial Bank of Qatar, ประเทศกาตาร์

A3/Moody's

19.00%

2.25%

0.43%

บัตรเงินฝาก Qatar National Bank, ประเทศกาตาร์

Aa3/Moody's

19.00%

2.35%

0.45%

เงินฝาก Union National Bank, ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

A1/Moody's

19.00%

2.00%

0.38%

เงินฝาก PT Bank Rakyat Indonesia, ประเทศอินโดนีเซีย

Baa2/Moody's

19.00%

1.95%

0.37%

เงินฝาก Bank of China, ประเทศจีน

A1/Moody's

5.00%

1.90%

0.10%

รวม

 

2.10%

ประมาณการค่าใช้จ่ายกองทุน

0.40%

ประมาณการผลตอบแทนที่ผู้ถือหน่วยลงทุนจะได้รับ

1.70%

 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

ตราสารที่กองทุน   KFF3MBJ  คาดว่าจะลงทุน

อันดับเครดิต

สัดส่วน

การลงทุน

ประมาณการผลตอบแทน (ต่อปี)

ของตราสาร

ของกองทุน

เงินฝาก Bank of China, ประเทศจีน

A1/Moody's

19.00%

1.95%

0.37%

เงินฝาก Commercial Bank of Qatar, ประเทศกาตาร์

A3/Moody's

19.00%

2.00%

0.38%

บัตรเงินฝาก Qatar National Bank, ประเทศกาตาร์

Aa3/Moody's

19.00%

2.20%

0.42%

เงินฝาก Union National Bank, ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

A1/Moody's

19.00%

2.10%

0.40%

เงินฝาก PT Bank Rakyat Indonesia, ประเทศอินโดนีเซีย

Baa2/Moody's

19.00%

2.00%

0.38%

เงินฝาก Abu Dhabi Commercial Bank, ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

A1/Moody's

5.00%

1.80%

0.09%

รวม

 

2.04%

ประมาณการค่าใช้จ่ายกองทุน

0.54%

ประมาณการผลตอบแทนที่ผู้ถือหน่วยลงทุนจะได้รับ

1.50%

 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
           ผู้ลงทุนโปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน หากไม่สามารถลงทุนให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้เนื่องจากสภาวะตลาดมีการเปลี่ยนแปลงไป ผู้ถือหน่วยลงทุนอาจไม่ได้รับผลตอบแทนตามที่ระบุไว้ ทั้งนี้ตราสารที่จะลงทุน สัดส่วนการลงทุน ประมาณการผลตอบแทนและค่าใช้จ่ายของกองทุน อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน ทั้งนี้กองทุน KFF3MBJ และ KFF6MGF มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน ผู้ลงทุนไม่สามารถขายคืนหน่วยลงทุนของกองทุน KFF3MBJ ในช่วงเวลา 3 เดือนและหน่วยลงทุนของกองทุน KFF6MGF ในช่วงเวลา 6 เดือน และหน่วยลงทุนของกองทุน KTF25MA ในช่วงเวลา 25 เดือนได้ ดังนั้น หากมีปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบต่อการลงทุนดังกล่าว ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก
 
 


ข่าวบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน+หลักทรัพย์จัดการกองทุนวันนี้

บลจ. ไทยพาณิชย์ มองโอกาสลงทุนธีม AI Adoption แนะนำ 2 กองทุนเด่น SCBUSAA และ SCBSEMI(A) พร้อมแคมเปญพิเศษ ฟรีค่าธรรมเนียมซื้อ/สับเปลี่ยนเข้า* ระหว่างวันที่ 1 ส.ค. 68 - 29 ส.ค. 68 เมื่อลงทุนผ่านแอปฯ SCBAM Fund Click

นางสาวศุภรัตน์ อารีย์วงศ์ Executive Director กลุ่มกลยุทธ์การตลาดและผลิตภัณฑ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด หรือ SCBAM เปิดเผยว่า ในปี 2568 คาดว่าจะเห็นการปรับตัวขึ้นต่อของกลุ่มธุรกิจที่ได้รับประโยชน์จากการเติบโตของ AI จากแนวโน้มกำไรที่ยังถูกปรับคาดการณ์ขึ้นอย่างต่อเนื่อง และแรงหนุนจากอุปสงค์ที่ขยายตัว หลากหลายธุรกิจมีผลประกอบการที่ดีจากการนำ AI มาประยุกต์ใช้ ทั้งกลุ่มหุ้น Big Tech ที่ให้บริการ Cloud Computing เช่น Microsoft, Amazon และ Google ที่มีรายงานการเติบโตระดับสูง

บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็กซ์สปริง ... บลจ.เอ็กซ์สปริง จัดสัมมนา "Thematic Edge 2H2025" ชี้กลยุทธ์ลงทุนฝ่าวิกฤตครึ่งปีหลัง — บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็กซ์สปริง จำกัด จัดงานสัมมนา "Themati...

บลจ.ทิสโก้เสนอขายกองทุน ทิสโก้ โกลบอล สมา... บลจ.ทิสโก้พร้อมเสิร์ฟกองทุนใหม่ TGSMART ชูจุดเด่น กระจายสินทรัพย์ลงทุน - ปรับสัดส่วนตามภาวะตลาด — บลจ.ทิสโก้เสนอขายกองทุน ทิสโก้ โกลบอล สมาร์ท แอลโลเคชั่น...

BBLAM เสนอขาย IPO กองทุนรวมบัวหลวงธนรัฐ 9... BBLAM เสนอขาย IPO 'กองทุนรวมบัวหลวงธนรัฐ 9/25' วันที่ 24-29 ก.ค. 2568 — BBLAM เสนอขาย IPO กองทุนรวมบัวหลวงธนรัฐ 9/25 หรือ Bualuang Thanarat 9/25 เน้นลงทุน...

บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เกียรตินาคิน... บลจ.เกียรตินาคินภัทร ส่งกองทุนใหม่ KKP VIETNAM ลุยตลาดดาวรุ่งแห่งเอเชีย IPO วันที่ 23 - 31 ก.ค. นี้ — บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เกียรตินาคินภัทร จำกัด ...

นางสาวปานชีวา สุวัณณะปุระ (กลาง) ประธานสา... AUCT รับรางวัล TISCO PVD Best Employer Award 2025 — นางสาวปานชีวา สุวัณณะปุระ (กลาง) ประธานสายงานทรัพยากรบุคคลและวัฒนธรรมองค์กร บริษัท สหการประมูล จำกัด ...

บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกั... KTAM โชว์ผลงานบริหารกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ คว้ารางวัลกองทุนยอดเยี่ยมปี 2568 — บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เข้ารับรางวัลกองทุนยอ...