ปอร์เช่ 718 เคย์แมน จีที4 คลับสปอร์ต ใหม่ (The new Porsche 718 Cayman GT4 Clubsport) สายพันธุ์แรง ที่มาพร้อมตัวถัง natural-fibre

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

          ด้วยระยะเวลา 3 ปี หลังการเปิดตัวครั้งแรกของ ปอร์เช่ เคย์แมน จีที4 คลับสปอร์ต (Porsche Cayman GT4 Clubsport) ถึงเวลาแล้วที่ยนตรกรรมผู้รับหน้าที่สืบทอดความแรงลำดับต่อไปจะเผยโฉมที่แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น: ปอร์เช่ 718 เคย์แมน จีที4 คลับสปอร์ต (Porsche 718 Cayman GT4 Clubsport) อีกหนึ่งความภาคภูมิใจในฐานะ ตัวแทนของความก้าวหน้า และความสำเร็จอันยอดเยี่ยมจากโรงงาน Weissach นับเป็นครั้งแรกที่รถแข่งเครื่องยนต์ วางกลาง ซึ่งได้รับการออกแบบพัฒนาให้มีประสิทธิภาพเทียบเคียงรถสนามพันธุ์แท้ที่สุด โดยเพิ่มทางเลือกถึง 2 รูปแบบ ของตัวถังภายนอก: เวอร์ชันแรกคือ "Trackday" ตอบสนองความต้องการของผู้ขับขี่เพื่อการลงสนามแข่งขันในระดับเริ่มต้น และอีกหนึ่งเวอร์ชั่น "Competition" รองรับการประลองความเร็วบนสนามแข่งขันระดับประเทศและระดับนานาชาติ
          แนวคิดในการออกแบบพัฒนา ปอร์เช่ 718 เคย์แมน จีที4 คลับสปอร์ต รุ่นล่าสุด (The new Porsche 718 Cayman GT4 Clubsport) ไม่เพียงมุ่งเน้นไปที่การเพิ่มสมรรถนะการขับขี่และศักยภาพในการทำความเร็วต่อรอบสนามให้ดีเยี่ยมยิ่งขึ้น แต่ยังครอบคลุมไปถึงการเลือกใช้วัสดุในการผลิตที่คงทนถาวร รวมทั้งเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ปอร์เช่ 718 เคย์แมน จีที4 คลับสปอร์ต (Porsche 718 Cayman GT4 Clubsport) คือรถแข่งจากสายการผลิตคันแรกที่ได้รับการติดตั้ง ชิ้นส่วนตัวถังที่ผลิตขึ้นจากวัสดุ natural-fibre ประตูรถฝั่งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร รวมทั้งปีกหลังทรงสูงผลิตขึ้นด้วย วัสดุธรรมชาติ organic fibre mix ซึ่งวัตถุดิบดังกล่าวมีแหล่งกำเนิดจากผลผลิตต่างๆ ในภาคgdK9idii, อาทิ เส้นใยจากต้นปอหรือต้นป่าน ซึ่งมีคุณสมบัติหลายประการใกล้เคียงกับวัสดุ carbon fibre ทั้งในแง่ของน้ำหนักที่เบาและมี ความแข็งแกร่งสูง 
          ขุมพลังที่ประจำการอยู่ในปอร์เช่ 718 เคย์แมน จีที4 คลับสปอร์ต (Porsche 178 Cayman GT4 Clubsport) คือเครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบนอน ขนาดความจุ 3.8-ลิตร ให้พละกำลังสูงสุดถึง 425 แรงม้า (313 กิโลวัตต์) หรือมีกำลังเพิ่มขึ้นถึง 40 แรงม้า เมื่อเปรียบเทียบประสิทธิภาพกับรุ่นก่อนหน้า พลังมหาศาลได้รับการถ่าย ทอดต่อไปจนถึงล้อขับเคลื่อนคู่หลัง ผ่านระบบเกียร์อัจฉริยะ 6 จังหวะคลัทช์คู่ รวมทั้งชุดเฟืองท้ายแบบ differential lock ชิ้นส่วนสตรัทและสปริงของระบบช่วงล่างด้านหน้าถอดแบบจากตัวแข่งรุ่นพี่ ปอร์เช่ 911 จีที3 คัพ (Porsche 911 GT3 Cup) ระบบเบรกสมรรถนะสูงสำหรับการแข่งขัน ประกอบด้วยจานเบรกเหล็กหล่อขนาดใหญ่ เส้นผ่านศูนย์กลาง 380-มิลลิเมตรสามารถรับมือกับน้ำหนักตัวรถเพียง 1,320 กิโลกรัม ได้อย่างไร้ข้อกังขาใดๆ ปอร์เช่ 718 เคย์แมน จีที4 คลับสปอร์ต (Porsche 718 Cayman GT4 Clubsport) เพิ่มเติมความปลอดภัยให้แก่ตัวถังและห้องโดย สารด้วยการเชื่อมยึดโครงสร้างนิรภัยอย่างแน่นหนา เบาะนั่ง racing bucket seat สำหรับการแข่งขัน พร้อมเข็มขัดนิรภัย แบบจุดยึด 6 ตำแหน่ง ทั้งหมดนี้ส่งผลดีต่อน้ำหนักรวมของตัวรถที่เบาอย่างเหลือเชื่อ 
          ในส่วนของเวอร์ชั่นเริ่มต้น "Trackday" ออกแบบพัฒนาขึ้น เพื่อวัตถุประสงค์สำหรับการใช้งานโดยนักแข่งในระดับพื้นฐาน ผู้ซึ่งต้องการเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์การขับขี่บนสนามแข่งขันความเร็วและการเข้าร่วมกิจกรรม clubsport ต่างๆ ได้โดยไม่ต้องการทีมงานหรืออุปกรณ์สนับสนุนเพิ่มเติม ตัวรถได้รับการติดตั้งโช๊คอัพที่ผ่านการปรับแต่งมาแล้ว รวมทั้ง ระบบเบรก ABS ระบบช่วยเหลือการขับขี่ ESC และ traction control เพื่อความมั่นใจในประสิทธิ ภาพการบังคับควบคุม ทั้งนี้ระบบดังกล่าวสามารถปิดการใช้งานได้ตามความต้องการ นอกจากนี้ยังสามารถเลือกติดตั้ง ระบบปรับอากาศระบบ หลังคานิรภัย rescue hatch อุปกรณ์ดับเพลิงแบบมือถือ และถังน้ำมันเชื้อเพลิงนิรภัย FT3 safety fuel cell ขนาดความจุ 80 ลิตร ทั้งนี้รถแข่งแบบ non-road-homologated ทุกคันสามารถเข้ารับการซ่อมบำรุงได้ที่ศูนย์บริการ Porsche Centre ทุกแห่ง 
          เวอร์ชัน "Competition" ได้รับการเพิ่มเติมอุปกรณ์และฟังก์ชันการใช้งานที่คำนึงถึง การเข้าร่วมแข่งขันกีฬาความเร็ว ในระดับอาชีพ โช๊คอัพสามารถปรับแต่งได้ถึง 3 ระดับ ติดตั้งถังน้ำมันเชื้อเพลิงนิรภัยขนาดความจุสูงถึง 115 ลิตร เพื่อรองรับกิจกรรมการแข่งขันที่มีระยะทางยาวไกล ระบบเบรกที่สามารถปรับความสมดุล ระหว่างเบรกคู่หน้าและเบรกคู่ หลังได้อย่างอิสระ พร้อมระบบแม่แรงลม air jack เพื่อความรวดเร็วของงานบริการในพิท พวงมาลัยสำหรับการแข่งขันแบบ quick-release ที่ยกมาจาก 911 จีที3 อาร์ (911 GT3 R) เพื่อให้มั่นใจได้ว่า นักแข่งทุกคนสามารถปรับตำแหน่งที่เหมาะสม ที่สุดได้ตามต้องการ เสริมด้วยระบบดับเพลิงอัตโนมัติเพิ่มความปลอดภัยเต็มพิกัด 
          "ปอร์เช่ 718 เคย์แมน จีที4 คลับสปอร์ต (Porsche 718 Cayman GT4 Clubsport) แสดงออกอย่างชัดเจน ในฐานะตัวตนของยนตรกรรมสายสนามซึ่งถูกถ่ายทอดพันธุกรรมความแรงจากความสำเร็จอันยอดเยี่ยมของรุ่นก่อนหน้ามาอย่างเต็มที่" ข้างต้นคือคำกล่าวของ Fritz Enzinger หัวหน้าส่วนงานมอเตอร์สปอร์ตของปอร์เช่ "พละกำลังจากเครื่องยนต์ได้รับการปรับแต่งเพิ่มขึ้นมาก พร้อมกับการเพิ่มประสิทธิภาพด้านแรงกดตัวถังและห้องโดยสาร ที่เหมาะสมกับความต้องการของผู้ขับขี่มากขึ้นไปอีกระดับ ผมมั่นใจว่าเราจะทำยอดจำหน่ายที่ดีเยี่ยมเช่นเดียวกับรุ่นที่ ผ่านมาซึ่งมีจำนวนรถที่ส่งมอบถึง 421 คัน" 
          ปอร์เช่ 718 เคย์แมน จีที4 คลับสปอร์ต (Porsche 718 Cayaman GT4 Clubsport) เปิดรับคำสั่งซื้อทั้ง 2 เวอร์ชันแล้ววันนี้ และมีกำหนดส่งมอบไปยังทีมแข่งและนักขับทั่วทุกมุมโลกตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นไป ติดต่อสอบถามราคาจำหน่าย และรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โชว์รูมรถยนต์ปอร์เช่ บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส ทุกสาขา

          รายละเอียดด้านเทคนิคของปอร์เช่ 718 Cayman GT4 Clubsport (Type 982)
          แนวคิดในการพัฒนา
          - รถแข่งความเร็วสูงที่นั่งเดี่ยวจากสายการผลิตปกติ ที่ได้รับการออกแบบให้มีสมรรถนะพื้นฐานใกล้เคียงกับรถแข่งเหนือข้อกำหนด Homologation

          ระบบเครื่องยนต์
          - เครื่องยนต์อะลูมิเนียม 6 สูบนอน บ๊อกเซอร์ วางกลางตัวถัง
          - ปริมาตรความจุกระบอกสูบ 3,800 ซีซี; ความสูงการขึ้นลงของลูกสูบ 77.5 มิลลิเมตร ความกว้างกระบอกสูบ 102 มิลลิเมตร 
          - พละกำลังสูงสุด: 425 แรงม้า (313 กิโลวัตต์) ที่ 7,500 รอบต่อนาที 
          - รอบการทำงานสูงสุด: 7,800 รอบต่อนาที
          - แรงบิดสูงสุด: 425 นิวตันเมตร ที่ 6,600 รอบต่อนาที 
          - อัตราส่วนกำลังอัด: 12.5:1 
          - ระบบระบายความร้อนด้วยน้ำออกแบบสำหรับการแข่งขันโดยเฉพาะ พร้อมระบบควบคุมอุณหภูมิ สำหรับเครื่องยนต์และชุดเกียร์ 
          - เทคโนโลยี 4 วาล์วต่อสูบ พร้อมระบบแปรผันการทำงานของเพลาลูกเบี้ยว adjustable camshaft phasing และระบบวาล์วแปรผัน VarioCam Plus 
          - น้ำมันเชื้อเพลิง: Super Plus ไร้สารตะกั่ว ค่าออกเทนขั้นต่ำ 98 
          - ระบบควบคุมการทำงานของเครื่องยนต์ด้วยอิเล็กทรอนิกส์ออกแบบสำหรับการแข่งขันโดยเฉพาะ (Continen-tal SDI 9) 
          - ระบบน้ำมันหล่อลื่นแบบ Integrated dry sump 
          - ระบบกรองไอเสีย 100-cell metal catalytic converter ตามมาตรฐาน DMSB 

          ระบบส่งกำลัง
          - ขับเคลื่อนล้อหลัง
          - เกียร์อัตโนมัติอัจฉริยะ 6-จังหวะ PDK ควบคุมการทำงานด้วยอิเลกทรอนิกส์ออกแบบสำหรับการแข่งขันโดยเฉพาะ
          - ล้อช่วยแรงแบบ Reinforced dual mass 
          - ระบบหล่อลื่นแบบ Internal pressure พร้อมระบายความร้อนด้วย active oil cooling 
          - ระบบเฟืองท้าย Differential lock ออกแบบสำหรับการแข่งขันโดยเฉพาะ

          ระบบตัวถัง
          - โครงสร้างตัวถังน้ำหนักเบา ผลิตจากอะลูมิเนียมและเหล็กกล้า
          - โครงสร้างห้องโดยสารนิรภัย Welded-in roll-cage ได้รับการรับรองมาตรฐาน FIA Art. 277 
          - ฝากระโปรงหน้าติดตั้งจุดยึดแบบ quick release 
          - ฝากระโปรงหลังติดตั้งจุดยึดแบบ quick release 
          - ปีกหลังทรงสูงพร้อมขายึดแบบ "swan neck" ผลิตจากวัสดุ natural-fibre รวมถึง ช่องระบายอากาศด้านข้าง และ ปีกรถที่ผลิตจากวัสดุ carbon-fibre รูปแบบ Gurney flap
          - ประตูรถฝั่งผู้ขับขี่และผู้โดยสารผลิตจากวัสดุ natural-fibre
          - หลังคารถติดตั้งระบบนิรภัย ได้รับการรับรองมาตรฐาน FIA Art. 275a 
          - เบาะนั่งสำหรับการแข่งขัน Recaro race bucket seat ปรับระดับความสูง พร้อมระบบ padding สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการของผู้ขับขี่ (ตามมาตรฐาน FIA Standard 8862/2009 – ข้อกำหนดล่าสุดของ FIA)
          - ระบบแม่แรงลม three-piston air jack (เฉพาะเวอร์ชัน "Competition") 
          - จุดติดตั้งเพิ่มเติมเพื่อรองรับระบบแม่แรงลม three-piston air jack (เฉพาะเวอร์ชั่น "Trackday") 
          - รองรับการติดตั้งตาข่ายนิรภัย 
          - ห่วงเกี่ยวสำหรับลากจูงด้านหน้าและด้านหลัง รับรองมาตรฐาน FIA 
          - คอนโซลกลางแบบ Motorsport สำหรับการแข่งขัน แสดงข้อมูลฟังก์ชันการทำงานและสามารถปรับแต่งได้ 
          - เข็มขัดนิรภัยแบบจุดยึด 6 ตำแหน่ง 
          - ถังน้ำมันเชื้อเพลิงนิรภัย ขนาดความจุ 115 ลิตร FT3 safety fuel cell พร้อมระบบตัดการจ่ายเชื้อเพลิง "Fuel Cut Off" ชุดวาล์วนิรภัยเป็นไปตามข้อกำหนดของ FIA (เฉพาะ เวอร์ชั่น "Competition") 
          - ถังน้ำมันเชื้อเพลิงนิรภัย ขนาดความจุ 80 ลิตร FT3 safety fuel cell with "Fuel Cut Off" พร้อมระบบตัดการจ่ายเชื้อเพลิง "Fuel Cut Off" ชุดวาล์วนิรภัยเป็นไปตามข้อกำหนดของ FIA (เฉพาะ เวอร์ชั่น "Trackday") 

          ระบบช่วงล่าง
          ช่วงล่างด้านหน้า:
          - MacPherson สตรัท สามารถปรับระดับความสูง มุม camber และระยะฐานล้อได้
          - ชิ้นส่วนช่วงล่างแบบ Forged: ให้ความแข็งแรงสูงด้วยจุดยึดแบบ double shear mounting และ high-performance spherical bearings 
          - ดุมล้อแบบ 5 ตำแหน่ง 
          - โช๊คอัพสำหรับการแข่งขันปรับได้ 3-ระดับ rebound และ 2-stage compression สำหรับความเร็วสูงและความเร็วต่ำ (เฉพาะเวอร์ชั่น "Competition") 
          - โช๊คอัพปรับแต่งสำเร็จจากโรงงาน (เฉพาะเวอร์ชั่น "Trackday") 
          - ระบบพวงมาลัยแปรผันอัตราทดแบบ Electromechanical 
          - เหล็กกันโคลง anti-roll bar ดีไซน์แบบ 3-hole 

          ช่วงล่างด้านหลัง:
          - MacPherson สตรัท สามารถปรับระดับความสูง มุม camber และระยะฐานล้อได้
          - ชิ้นส่วนช่วงล่างแบบ Forged: ให้ความแข็งแรงสูงด้วยจุดยึดแบบ double shear mounting และ high-performance spherical bearings 
          - ดุมล้อแบบ 5-ตำแหน่ง 
          - โช๊คอัพสำหรับการแข่งขันปรับได้ 3-ระดับ rebound และ 2-stage compression สำหรับความเร็วสูงและความเร็วต่ำ (เฉพาะเวอร์ชั่น "Competition") 
          - โช๊คอัพปรับแต่งสำเร็จจากโรงงาน (เฉพาะเวอร์ชั่น "Trackday") 
          - เหล็กกันโคลง anti-roll bar แบบ blade-type ปรับตั้งได้ 

          ระบบเบรก
          ช่วงล่างด้านหน้า:
          - คาลิเปอร์เบรกอะลูมิเนียม 6 ลูกสูบ โมโนบลอก สำหรับการแข่งขัน พร้อมสปริงลูกสูบแบบ "Anti Knock Back" 
          - จานเบรกเหล็กหล่อเซาะร่องแบบ multi-piece พร้อมครีบระบายความร้อน ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 380 มิลลิเมตร 
          - ผ้าเบรกสำหรับการแข่งขันโดยเฉพาะ 
          - ระบบปรับสมดุลย์แรงเบรกด้วย balance bar system (เฉพาะ เวอร์ชั่น "Competition") 
          - หม้อลมเบรก (เฉพาะ เวอร์ชั่น "Trackday") 

          ช่วงล่างด้านหลัง:
          - คาลิเปอร์เบรกอะลูมิเนียม 6 ลูกสูบ โมโนบลอก สำหรับการแข่งขัน พร้อมสปริงลูกสูบแบบ "Anti Knock Back" 
          - จานเบรกเหล็กหล่อเซาะร่องแบบ multi-piece พร้อมครีบระบายความร้อน ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 380 มิลลิเมตร 
          - ผ้าเบรกสำหรับการแข่งขันโดยเฉพาะ 
          - ระบบปรับสมดุลแรงเบรกด้วย balance bar system (เฉพาะ เวอร์ชั่น "Competition") 
          - หม้อลมเบรก (เฉพาะเวอร์ชั่น "Trackday") 

          ระบบอิเล็กทรอนิกส์
          - แผงหน้าปัทม์ COSWORTH instrument cluster ICD พร้อมหน้าจอแสดงข้อมูล integrated data logger 
          - ตรวจจับรหัสข้อผิดพลาดด้วยเครื่องมือพิเศษ PIWIS motorsport tester 
          - สามารถใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชัน Porsche Track Precision Race App 
          - จับเวลารอบสนามด้วย Integrated lap trigger ผ่านสัญญาณ GPS 
          - ลิ้นบังคับควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิกส์ 
          - แบตเตอรี่ lithium-ion (LiFePo) น้ำหนักเบา ขนาด 60 Ah ทนทานต่อการรั่วซึม ติดตั้งภายในบริเวณที่วางเท้า ฝั่งผู้โดยสาร (เฉพาะ เวอร์ชั่น "Competition") 
          - แบตเตอรี่ 12 โวลต์ ขนาด 70 Ah (AGM) ทนทานต่อการรั่วซึม ติดตั้งภายในบริเวณที่วางเท้า ฝั่งผู้โดยสาร (เฉพาะเวอร์ชั่น "Trackday") 
          - สวิทช์ตัดการจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงฉุกเฉินติดตั้งภายในห้องโดยสาร และภายนอกห้องโดยสารบริเวณฝั่งซ้ายของกระจกบังลมหน้า 
          - ระบบควบคุมเสถียรภาพการขับขี่ PSM (Porsche Stability Management) พร้อมระบบ ABS, traction Control (TC) และ Electronic Stability Control (ESC) สามารถปิดการทำงานได้ทั้งหมด 
          - ระบบตรวจสอบแรงดันลมยาง Tyre pressure monitoring system (TPMS)
          - ระบบดับเพลิงฉุกเฉิน ตามข้อกำหนดของ FIA (เฉพาะเวอร์ชั่น "Competition") 
          - ถังดับเพลิงแบบมือถือ (เฉพาะเวอร์ชั่น "Trackday") 
          - ระบบปรับอากาศ 
          - กระจกมองข้างปรับไฟฟ้า
          - พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นแบบสปอร์ต CFRP พร้อมระบบจำกัดความเร็ว pit speed limiter และคอพวงมาลัยแบบ quick release coupling (เฉพาะ เวอร์ชั่น "Competition") 
          - พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นแบบสปอร์ต พร้อมระบบจำกัดความเร็ว pit speed limiter (เฉพาะเวอร์ชั่น "Trackday") 
          - คอนโซลกลางพร้อมสวิทช์ปรับตั้งการทำงานของระบบ ABS, ESC, TC และสวิทช์ปรับขนาดยางรถยนต์ที่ใช้งาน 

          น้ำหนัก/มิติตัวถัง:
          - น้ำหนักรวม: 1,320 กิโลกรัม 
          - ความยาวรวม: 4,456 มิลลิเมตร 
          - ความกว้างรวม: 1,778 มิลลิเมตร 
          - ความสูงรวม: 1,238 มิลลิเมตร 
          - ระยะฐานล้อ: 2,456 มิลลิเมตร 

          ล้อ/ยางรถยนต์: 
          ล้อและยางคู่หน้า: 
          - ล้ออัลลอยน้ำหนักเบาแบบ forged ชิ้นเดียว ขนาด 9J x 18 offset 28 น็อตล้อ 5-ตำแหน่ง 
          - ยาง Michelin transportation สำหรับการเคลื่อนย้ายและขนส่ง ขนาด: 25/64-18 
          - ยาง Michelin สลิก/ยาง wet สำหรับการแข่งขัน ขนาด: 25/64-18 

          ล้อและยางคู่หลัง: 
          - ล้ออัลลอยน้ำหนักเบาแบบ forged ชิ้นเดียว ขนาด 10.5J x 18.5 offset 53 น็อตล้อ 5-ตำแหน่ง
          - ยาง Michelin transportation สำหรับการเคลื่อนย้ายและขนส่ง ขนาด: 27/68-18 
          - ยาง Michelin สลิก/ยาง wet สำหรับการแข่งขัน ขนาด: 27/68-18 

          สีตัวถัง
          - สีน้ำ Water-based 
          - สีตัวถังภายนอก: สีขาว C9A 
          - สีตัวถังภายใน: สีขาว filler-coat ไม่ผสมแลกเกอร์ 

          กำหนดการส่งมอบ
          เริ่มตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2019 เป็นต้นไป

          เกี่ยวกับ AAS Auto Service
          ปอร์เช่ ประเทศไทย โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ปอร์เช่อย่าง เป็นทางการ ได้สร้างความเชื่อมั่นในด้านการดูแลหลังการขายให้กับลูกค้าปอร์เช่ทุกท่าน ด้วยทีมวิศวกรที่ผ่านการ ทดสอบระดับเหรียญทอง (ZPT3 Gold Theory Test & Recertification) ถึง 12 คน ซึ่งถือว่ามี จำนวนมากที่สุดของศูนย์รถยนต์ปอร์เช่ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคทั้งหมด 12 ประเทศ สะท้อนให้เห็นถึง ความสำคัญ ในเรื่องการให้บริการหลังการขาย โดย เอเอเอส ทุ่มงบการอบรมวิศวกร ของเราให้มีคุณภาพสูงสุด ตามนโยบาย หลักของบริษัทที่ว่า "เอเอเอส ดูแลทั้งรถและคุณ AAS Looking after YOU and your CAR" เพื่อให้ท่านมั่นใจได้ว่า "AAS The Name you can Trust" ซึ่งพิสูจน์ให้ท่านได้เห็นแล้วตลอดระยะเวลาดำเนินงานมากกว่า 30 ปี

          สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
          AAS Auto Service Co., Ltd. www.porsche.co.th
          Porsche Centre Bangkok โทร. 02-522-6655
          Porsche Centre Pattanakarn โทร. 02-369-1111
          Porsche City Showroom Siam Paragon ชั้น 2 โทร. 02-610-9911
          Porsche Studio Bangkok ICONSIAM ชั้น 1 โทร. 02-288-0911
ปอร์เช่ 718 เคย์แมน จีที4 คลับสปอร์ต ใหม่ (The new Porsche 718 Cayman GT4 Clubsport) สายพันธุ์แรง ที่มาพร้อมตัวถัง natural-fibre
 
ปอร์เช่ 718 เคย์แมน จีที4 คลับสปอร์ต ใหม่ (The new Porsche 718 Cayman GT4 Clubsport) สายพันธุ์แรง ที่มาพร้อมตัวถัง natural-fibre
 
ปอร์เช่ 718 เคย์แมน จีที4 คลับสปอร์ต ใหม่ (The new Porsche 718 Cayman GT4 Clubsport) สายพันธุ์แรง ที่มาพร้อมตัวถัง natural-fibre
 
ปอร์เช่ 718 เคย์แมน จีที4 คลับสปอร์ต ใหม่ (The new Porsche 718 Cayman GT4 Clubsport) สายพันธุ์แรง ที่มาพร้อมตัวถัง natural-fibre

ข่าวเครื่องยนต์+การเปิดตัววันนี้

โรยัล เอ็นฟีลด์ เปิดตัว "Bear 650" อย่างเป็นทางการในประเทศไทย

Bear 650 สแครมเบลอร์รุ่นใหม่สุดเท่ ที่ถ่ายทอดจิตวิญญาณยุค 60 ที่พัฒนามาจากพื้นฐาน Interceptor / INT 650 โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากความสำเร็จประวัติศาสตร์ของ Eddie Mulder ในรายการ Big Bear Run ปี 1960 Bear 650 มาพร้อมเครื่องยนต์ 650cc อันเลื่องชื่อของ Royal Enfield ผสานดีไซน์สแครมเบลอร์คลาสสิกเข้ากับสมรรถนะเร้าใจ ด้วยล้อหน้าขนาด 19 นิ้ว ล้อหลัง 17 นิ้ว ยางดอกลึกสไตล์ออฟโรด เบาะตอนเดียว ท่อไอเสีย 2-1 ยกสูง พร้อมระยะใต้ท้องรถ 184 มม. Bear 650 จึงเหมาะสำหรับสายลุยที่ต้องการทั้งสไตล์และความแกร่ง Royal

ปรับไลน์อัพใหม่ ใส่เทคโนโลยีสกายแอคทีฟเต็... มาสด้าเปิดตัว NEW MAZDA CX-30 ESSENTIAL จัดสรรอุปกรณ์ใหม่ เพิ่มรุ่นเริ่มต้น — ปรับไลน์อัพใหม่ ใส่เทคโนโลยีสกายแอคทีฟเต็มคัน ราคาใหม่ 899,000 บาท คุ้มค่าเก...

"Krungsri Finnovate" เผยความเคลื่อนไหวตลอ... "Krungsri Finnovate" หนุนสตาร์ทอัพ AI เจาะตลาดเทคอาเซียน — "Krungsri Finnovate" เผยความเคลื่อนไหวตลอดครึ่งปีแรก 2568 สะท้อนบทบาทผู้นำในการผลักดันนวัตกรรมแ...

ความหลากหลายด้านเทคโนโลยีเป็นกลยุทธ์ที่มา... มาห์เลเดินหน้าเต็มสูบสู่เป้าหมายการลดคาร์บอน — ความหลากหลายด้านเทคโนโลยีเป็นกลยุทธ์ที่มาห์เลยึดถือมาโดยตลอด การนำเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนที่ยั่งยืนมา...