กอปภ.ก.รายงานยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยจากพายุปาบึกในจังหวัดนครศรีธรรมราช และสุราษฎร์ธานี เร่งสำรวจความเสียหายและให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยโดยด่วน

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

          กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานอิทธิพลพายุโซนร้อน "ปาบึก" ส่งผลกระทบใน 23 จังหวัด สถานการณ์คลี่คลายแล้ว 21 จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์ 2 จังหวัด ได้แก่ นครศรีธรรมราช และสุราษฎร์ธานี รวม 25 อำเภอ 170 ตำบล 1,687 หมู่บ้าน ซึ่ง กอปภ.ก.ได้ร่วมกับหน่วยทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมเน้นย้ำจังหวัดเร่งสำรวจความเสียหาย เพื่อให้ประชาชนสามารถกลับมาดำเนินชีวิตได้ตามปกติโดยเร็วที่สุด
          นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ผู้อำนวยการกลาง กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 3 - 12 ม.ค.62 อิทธิพลจากพายุโซนร้อน "ปาบึก" ส่งผลกระทบในพื้นที่ 23 จังหวัด รวม 113 อำเภอ 574 ตำบล 3,830 หมู่บ้าน/ชุมชน บ้านเรือนเสียหายทั้งหลัง 405 หลัง เสียหายบางส่วน 53,008 หลัง ประชาชนได้รับผลกระทบ 265,148 ครัวเรือน 883,984 คน ผู้เสียชีวิต 5 ราย ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว 21 จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์ 2 จังหวัด ได้แก่ นครศรีธรรมราช และสุราษฎร์ธานี รวม 25 อำเภอ 170 ตำบล 1,687 หมู่บ้าน/ชุมชน แยกเป็น นครศรีธรรมราช มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 23 อำเภอ 165 ตำบล 1,671 หมู่บ้าน/ชุมชน ประชาชนได้รับผลกระทบ 199,864 ครัวเรือน 679,257 คน ผู้เสียชีวิต 3 ราย สุราษฎร์ธานี มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 17 อำเภอ 85 ตำบล 590 หมู่บ้าน/ชุมชน ประชาชนได้รับผลกระทบ 15,508 ครัวเรือน 37,199 คน ปัจจุบันยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอพระแสง และอำเภอเวียงสระ รวม 5 ตำบล 16 หมู่บ้าน/ชุมชน 126 ครัวเรือน 497 คน ทั้งนี้ กอปภ.ก. โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยร่วมกับหน่วยทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดมสรรพกำลังและทรัพยากรปฏิบัติการให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว โดยทำความสะอาดบ้านเรือน สิ่งสาธารณประโยชน์สถานที่ราชการ และซ่อมแซมระบบสาธารณูปโภค รวมถึงเส้นทางคมนาคมให้ใช้งานได้ตามปกติ ตลอดจนเน้นย้ำจังหวัดเร่งสำรวจความเสียหายเพื่อให้การความช่วยเหลือผู้ประสบภัยเร่งด่วนใน 3 ด้าน ได้แก่ ด้านการดำรงชีพ เน้นการดูแลครอบครัวผู้เสียชีวิตและบ้านเรือนที่เสียหาย ด้านการประกอบอาชีพของประชาชน โดยดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 60 วัน และด้านสิ่งสาธารณประโยชน์ที่เสียหาย ในส่วนของบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย ให้จังหวัดร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แบ่งมอบพื้นที่ปฏิบัติงานและร่วมกันซ่อม/สร้างที่อยู่อาศัยของผู้ประสบภัย ทั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนสามารถกลับมาดำเนินชีวิตได้ตามปกติโดยเร็วที่สุด ท้ายนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยสามารถติดต่อได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป
 
 

ข่าวกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย+จังหวัดนครศรีธรรมราชวันนี้

กทม. ยกระดับแผนปฏิบัติการป้องกันรับมือฝุ่น PM2.5 เข้มตรวจแหล่งกำเนิดฝุ่น ลดผลกระทบสุขภาพประชาชน

นางสาววรนุช สวยค้าข้าว รองผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม (สสล.) กทม. รักษาราชการแทน ผอ.สสล. กล่าวถึงความคืบหน้าการขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการป้องกันและรับมือปัญหาหมอกควันและฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพฯ ว่า สสล. ได้บูรณาการความร่วมมือและการยกระดับปฏิบัติการแบบ Single Command โดย กทม. ได้ประสานความร่วมมือกับกระทรวงมหาดไทย (มท.) กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรมควบคุมมลพิษ กรมอุตุนิยมวิทยา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตาม วิเคราะห์ และประเมินสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 แบบวันต่อวัน และบูรณาการข้อมูล hotspot

บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หร... NT หนุนพัฒนาระบบแจ้งเตือนภัยแห่งชาติ "T-Alert" ยกระดับความปลอดภัยประชาชนทั่วประเทศ — บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT เดินหน้าสนับสนุนการยกร...

สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้ติ... เฝ้าระวังน้ำหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขัง น้ำล้นตลิ่ง และระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา — สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้ติดตามการคาดการณ์สภาพอากาศพบว่า จะ...

ทรู ร่วม ปภ. พร้อมทดสอบระบบแจ้งเตือนภัย C... ชาวเชียงใหม่ อยุธยา อุดรฯ นครศรีฯ และกรุงเทพฯ เตรียมตัวให้พร้อม! — ทรู ร่วม ปภ. พร้อมทดสอบระบบแจ้งเตือนภัย Cell Broadcast ระดับจังหวัด 13 พ.ค. นี้ พร้อมย้...

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ร่วมกั... NT ยืนยันความพร้อม ร่วมทดสอบระบบแจ้งเตือนภัย Cell Broadcast ในพื้นที่จริง — กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้...