ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงบวก
- นักลงทุนเริ่มมีมุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน หลังจาก Wall Street Journal รายงานว่าประธานาธิบดีสหรัฐฯ นาย Donald Trump กับประธานาธิบดีจีน นาย Xi Jinping มีแนวโน้มบรรลุข้อตกลงทางการค้าในการประชุมสุดยอด วันที่ 27 มี.ค. 62 ขณะที่ สหรัฐฯ ได้ระงับการปรับขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีน มูลค่ากว่า 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จาก 10% เป็น 25% ซึ่งเดิมกำหนดไว้วันที่ 1 มี.ค. 62 อนึ่งความตึงเครียดของสงครามการค้าเริ่มผ่อนคลาย ล่าสุด Reuters รายงานจีนเริ่มนำเข้าน้ำมันดิบจากสหรัฐฯ เป็นครั้งแรกในรอบ 3 เดือน โดยในวันที่ 1 มี.ค. 62 นำเข้าปริมาณ 600,000 บาร์เรล
- Reuters รายงานปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของกลุ่ม OPEC (14 ประเทศ) เดือน ก.พ. 62 ลดลงจากเดือนก่อน 300,000 บาร์เรลต่อวัน อยู่ที่ 30.68 ล้านบาร์เรลต่อวัน ต่ำสุดในรอบ 4 ปี กอปรกับ นาย Alexander Novak รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานรัสเซีย รายงานปริมาณการผลิตน้ำมันดิบ เดือน ก.พ. 62 ลดลง 97,000 บาร์เรลต่อวัน จากเดือน ต.ค. 61 มาอยู่ที่ 11.34 ล้านบาร์เรลต่อวัน ทั้งนี้ รัสเซียตกลงกับกลุ่ม OPEC ในการลดปริมาณการผลิตลง 228,000 บาร์เรลต่อวัน จากเดือน ต.ค. 61
- Baker Hughes Inc. รายงานจำนวน Rig ขุดเจาะน้ำมันดิบในสหรัฐฯ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 8 มี.ค. 62 ลดลงจากสัปดาห์ก่อน 9 แท่น มาอยู่ที่ 834 แท่น ลดลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 3 แตะระดับต่ำสุดในรอบ 10 เดือน
- Energy Information Administration (EIA) รายงานปริมาณการผลิตน้ำมันดิบสหรัฐฯ เดือน ธ.ค. 61 ลดลงจากเดือนก่อน 6,000 บาร์เรลต่อวัน อยู่ที่ 11.85 ล้านบาร์เรลต่อวัน ลดลงเป็นครั้งแรกตั้งแต่เดือน พ.ค. 61
- Bloomberg รายงานปริมาณการผลิตน้ำมันดิบ 5 ชนิดจากแหล่งทะเลเหนือ ได้แก่ Forties, Brent, Oseberg, Ekofisk, และ Troll (BFOE) ที่ใช้ในการประเมินราคาน้ำมันดิบ Brent เดือน เม.ย. 62 ลดลงจากเดือนก่อน 28,000 บาร์เรลต่อวัน มาอยู่ที่ 920,000 บาร์เรลต่อวัน
- CFTC รายงานสถานะการลงทุนสัญญาน้ำมันดิบ WTI ในตลาดนิวยอร์กและตลาดลอนดอน สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 5 มี.ค. 62 กลุ่มผู้จัดการกองทุนปรับ Net Long Position เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน 21,416 สัญญา มาอยู่ที่ 155,426 สัญญา
ปัจจัยกระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงลบ
- National Oil Corp. (NOC) บริษัทน้ำมันแห่งชาติของรัฐบาลลิเบีย ซึ่งมีศูนย์กลางอำนาจอยู่ที่กรุง Tripoli (รัฐบาลที่นานาประเทศรับรอง) ยกเลิกการประกาศเหตุสุดวิสัย (Force Majeure) ที่แหล่งผลิตน้ำมันดิบ El Sharara (กำลังการกลั่น 340,000 บาร์เรลต่อวัน) แล้วในวันที่ 4 มี.ค. 62 และแหล่งดังกล่าวกลับมาผลิตน้ำมันดิบที่ระดับ 80,000 บาร์เรลต่อวัน
- EIA รายงานปริมาณสำรองน้ำมันดิบเชิงพาณิชย์ในสหรัฐฯ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 1 มี.ค. 62 เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน 7.1 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ 452.9 ล้านบาร์เรล เพิ่มขึ้นมากกว่าที่ผลสำรวจนักวิเคราะห์โดย Reuters คาดการณ์ 6 เท่า และการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ รายสัปดาห์ ยังคงที่ ณ ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 12.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน
- Ecopetrol บริษัทน้ำมันแห่งชาติของโคลัมเบีย ประกาศลงทุนสำรวจน้ำมันดิบจากแหล่ง Unconventional จำนวน 20 หลุม ในบริเวณ Magdelana Medio Region วงเงิน 500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี พ.ศ. 2562 (บริษัทมีงบลงทุนรวม 1.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี พ.ศ. 2562 - 2565)
- ICE รายงานสถานะการลงทุนสัญญาน้ำมันดิบ Brent ในตลาดลอนดอน สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 5 มี.ค. 62 กลุ่มผู้จัดการกองทุนปรับสถานะถือครองสุทธิ (Net Long Position) ลดลงจากสัปดาห์ก่อน 3,508 สัญญา มาอยู่ที่ 287,828 สัญญา
แนวโน้มราคาน้ำมัน
ราคาน้ำมันดิบปิดตลาดวันศุกร์ลดลง จากนักลงทุนผิดหวังกับข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และจีน โดยตลาดแรงงานสหรัฐฯ ส่งสัญญาณชะลอตัว เนื่องจากการจ้างงานลดลง โดยเฉพาะในภาคการก่อสร้าง และจีนส่งออกลดลงมากที่สุดในรอบ 3 ปีอย่างเหนือความคาดหมาย หลังจากประธาน ECB กล่าวก่อนหน้าว่าเศรษฐกิจยุโรปอ่อนแออย่างต่อเนื่อง นักลงทุนจึงกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจโลกที่อาจชะลอตัว และทำให้ความต้องการใช้น้ำมันชะลอตัวตาม อีกทั้งกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ โดยสำนักงานควบคุมทรัพย์สินต่างประเทศ (Office of Foreign Assets Control: OFAC) ผ่อนปรนมาตรการคว่ำบาตรต่อเวเนซุเอลา โดยประกาศขยายกำหนดเวลาให้ชาวอเมริกัน และนิติบุคคลสหรัฐฯ ยกเลิกสัญญา หรือข้อตกลงอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องหรือเชื่อมโยงกับบริษัทน้ำมันแห่งชาติของเวเนซุเอลา Petroleos de Venezuela SA (PDVSA) อาทิ พันธบัตร จากเดิม 11 มี.ค. 62 เป็นวันที่ 10 พ.ค. 62 ในส่วนของอุปทานน้ำมันรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานซาอุดิอาระเบีย นาย Khalid al-Falih ชี้ว่ากลุ่มองค์กรประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน OPEC กับประเทศผู้ผลิตพันธมิตร นำโดยรัสเซีย (OPEC+) จะไม่เปลี่ยนแปลงมาตรการลดการผลิตก่อนกำหนดสิ้นเดือน มิ.ย. 62 ทั้งนี้กลุ่ม OPEC+ กำหนดการประชุมเพื่อติดตามและทบทวนผลการดำเนินการ ในวันที่ 17-18 เม.ย. 62 ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย และกลุ่ม OPEC จะประชุมสามัญประจำปี ในวันที่ 25-26 มิ.ย. 62 ด้านเทคนิคสัปดาห์นี้คาดว่า ราคาน้ำมันดิบ ICE Brent จะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 63.5-67.5 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และน้ำมันดิบ NYMEX WTI อยู่ในกรอบ 53.5-57.5 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ราคาน้ำมันดิบ Dubai จะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 63.0-67.0 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
สถานการณ์ราคาน้ำมันเบนซิน
ราคาน้ำมันเบนซินเฉลี่ยรายสัปดาห์เพิ่มขึ้นจากแรงซื้อของ คูเวต ศรีลังกา เนื่องจากโรงกลั่นในภูมิภาคปิดซ่อมบำรุงในเดือน มี.ค. 62 ที่ระดับ 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน (เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 1.35 ล้านบาร์เรลต่อวัน) อาทิ บริษัท GS Caltex ในเกาหลีใต้ มีแผนปิดซ่อมบำรุงหน่วย Residue Fluidzed Catalytic Cracking (RFCC – กำลังการกลั่น 94,000 บาร์เรลต่อวัน ) ที่โรงกลั่นน้ำมัน Yeosu (กำลังการกลั่น 730,000 บาร์เรลต่อวัน ) ในช่วงปลายเดือน เม.ย. 62 และ โรงกลั่น Manali (กำลังการกลั่น 210,000 บาร์เรลต่อวัน ) ทางใต้ของอินเดียของ Chennai Petroleum Corp. Ltd. (CPCL) มีแผนหยุดซ่อมบำรุง CDU (60,000 บาร์เรลต่อวัน ) ในเดือน ส.ค. 62 เป็นเวลา 1 เดือน และเริ่มผลิตน้ำมันสำเร็จรูปคุณภาพ Euro 6 ในเดือน ก.ย. 62 ประกอบกับ EIA รายงานปริมาณสำรอง น้ำมันเบนซินเชิงพาณิชย์ที่สหรัฐฯ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 1 มี.ค. 62 ลดลงจากสัปดาห์ก่อน 4.2 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ 250.7 ล้านบาร์เรล ต่ำสุดในรอบ 2 เดือน และ International Enterprise Singapore (IES) รายงานปริมาณสำรองน้ำมันเบนซินเชิงพาณิชย์ที่สิงคโปร์ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 6 มี.ค. 62 ลดลงจากสัปดาห์ก่อน 1.31 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ 15.58 ล้านบาร์เรล ต่ำสุดในรอบเกือบ 2 เดือน อย่างไรก็ตาม Platts รายงานการก่อสร้างโรงกลั่นแห่งใหม่ของบรูไน ซึ่งร่วมทุนระหว่าง Hengyi Group ของจีน และรัฐบาลบรูไน ในสัดส่วน 70% ต่อ 30% ตามลำดับ ตั้งอยู่บริเวณเกาะ Pulau Maura Besar มีแผนแล้วเสร็จในเดือน ก.ค. 62 โดยจะเริ่มการกลั่นน้ำมันที่ 175,000 บาร์เรลต่อวัน ในช่วงปลายปี พ.ศ. 2562 และจะเพิ่มเป็น 440,000 บาร์เรลต่อวัน ในปี พ.ศ. 2565 ด้านเทคนิคในสัปดาห์นี้คาดว่าราคาน้ำมันเบนซิน จะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 69.0-73.0 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
สถานการณ์ราคาน้ำมันดีเซล
ราคาน้ำมันดีเซลเฉลี่ยรายสัปดาห์ลดลงจาก Joint Organizations Data Initiative (JODI) รายงานซาอุดิอาระเบียส่งออกน้ำมันดีเซล ในปี พ.ศ. 2561 เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 37% ที่ระดับ 40.78 ล้านตัน หรือประมาณ 840,000 บาร์เรลต่อวัน สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ และหน่วยงานศุลกากรของจีน (General Administration of Customs: GAC) รายงานปริมาณการส่งออกน้ำมันดีเซลในเดือน ม.ค. 62 เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 43.1% อยู่ที่ 13.8 ล้านบาร์เรล สูงสุดในรอบ 8 เดือน อย่างไรก็ตาม ตลาดได้แรงหนุนจากแรงซื้อของเวียดนาม ด้านปริมาณสำรอง EIA รายงานปริมาณสำรองน้ำมันดีเซลเชิงพาณิชย์ที่สหรัฐฯ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 1 มี.ค. 62 ลดลงจากสัปดาห์ก่อน 2.4 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ 136 ล้านบาร์เรล ต่ำสุดในรอบ 2 เดือน ด้านปริมาณสำรอง IES รายงานปริมาณสำรองน้ำมันดีเซลเชิงพาณิชย์ที่สิงคโปร์ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 6 มี.ค. 62 เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน 10,000 บาร์เรล มาอยู่ที่ 12.24 ล้านบาร์เรล สูงสุดในรอบ 1 เดือนครึ่ง ด้านเทคนิคในสัปดาห์นี้คาดว่าราคาน้ำมันดีเซล จะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 79.0-83.0 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล