ราคาน้ำมันเฉลี่ยรายสัปดาห์เพิ่มขึ้นทุกชนิด โดยน้ำมันดิบเบรนท์ (Brent) เพิ่มขึ้น 3.17 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล อยู่ที่ 66.84 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเวสท์เท็กซัสฯ (WTI) เพิ่มขึ้น 2.99 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล อยู่ที่ 56.87 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบดูไบ (Dubai) เพิ่มขึ้น 3.18 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล อยู่ที่ 66.77 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันเบนซินออกเทน 95 เพิ่มขึ้น 4.11 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล อยู่ที่ 68.63 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดีเซล เพิ่มขึ้น 3.95 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล อยู่ที่ 81.32 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจัยกระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงบวก
- การเจรจาการค้ารอบใหม่ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ เริ่มต้นขึ้นแล้วที่กรุงวอชิงตัน เมื่อวันที่ 23 ก.พ. 62 ต่อเนื่องจากเจรจาที่กรุงปักกิ่งสัปดาห์ก่อนหน้า ประธานาธิบดีนาย Donald Trump ระบุว่าการเจรจาคืบหน้าใกล้จะบรรลุ "Real Trade Deal" และอาจเลื่อนกำหนดเส้นตายเก็บอากรสินค้าขาเข้าจากจีน (1 มี.ค. 62) ส่งผลให้บรรยากาศการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ทั่วโลกรวมทั้งน้ำมันกระเตื้องขึ้น
- Baker Hughes Inc. รายงานจำนวนแท่นขุดเจาะ (Rig) น้ำมันดิบในสหรัฐฯ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 22 ก.พ. 62 ลดลงจากสัปดาห์ก่อน 4 แท่น มาอยู่ที่ 853 แท่น ลดลงครั้งแรกในรอบ 3 สัปดาห์
- สมเด็จพระราชาธิบดี Salman bin Abdulaziz Al Saud แห่งซาอุดิอาระเบียสนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดี Vladimir Putin แห่งรัสเซีย โดยต่างให้คำมั่นว่าสนับสนุนความร่วมมือในตลาดพลังงาน อนึ่งคณะกรรมการร่วมทางเทคนิค (Joint Technical Committee) รายงานผลสำรวจระดับความร่วมมือในการลดกำลังการผลิต (Compliance Rate) ในเดือน ม.ค. 62 อยู่ที่ระดับ 83%
- ICE รายงานสถานการณ์ลงทุนสัญญาน้ำมันดิบ Brent ในตลาดลอนดอน สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 19 ก.พ. 62 กลุ่มผู้จัดการกองทุนปรับสถานะถือครองสุทธิ (Net Long Position) เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน 9,392 สัญญา มาอยู่ที่ 275,449 สัญญา
ปัจจัยกระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงลบ
- วันที่ 24 ก.พ. 62 บริษัทน้ำมันแห่งชาติของซาอุดิอาระเบีย Saudi Aramco รายงานแหล่งน้ำมัน Safaniyah ซึ่งเป็นแหล่งผลิตนอกชายฝั่งขนาดใหญ่ที่สุดในโลก (กำลังการผลิตน้ำมันดิบรวมกว่า 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน) กลับมาดำเนินการผลิต หลังหยุดดำเนินการตั้งแต่เกิดอุบัติเหตุเรือทอดสมอเกี่ยวสายไฟฟ้าช่วงต้นเดือน ก.พ. 62
- TransCanada Corp. รายงานท่อขนส่งน้ำมันดิบ Keystone (กำลังการสูบถ่าย 590,000 บาร์เรลต่อวัน) จากรัฐ Alberta ประเทศแคนาดา ไปยังโรงกลั่นน้ำมันในสหรัฐฯ กลับมาดำเนินการวันที่ 19 ก.พ. 62 หลังเหตุน้ำมันรั่ว ตั้งแต่วันที่ 6 ก.พ. 62 อนึ่งรัฐ Alberta ประกาศแผนจัดหาโบกี้รถไฟบรรทุกน้ำมันดิบ 4,400 คัน เพื่อเพิ่มปริมาณส่งออก คาดว่าปริมาณขนส่งน้ำมันทางรถไฟจะเพิ่มขึ้นเพิ่ม 20,000 บาร์เรลต่อวัน ในเดือน ก.ค. 62 และ เพิ่มเป็น 120,000 บาร์เรลต่อวัน ในปี พ.ศ. 2563
- Energy Information Administration (EIA) รายงานปริมาณสำรองน้ำมันดิบเชิงพาณิชย์ในสหรัฐฯ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 15 ก.พ. 62 เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน 3.7 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ 454.5 ล้านบาร์เรล สูงสุดในรอบกว่า 1 ปี และการผลิตน้ำมันดิบในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน 100,000 บาร์เรลต่อวัน ทำสถิติอยู่ที่ 12 ล้านบาร์เรลต่อวัน เป็นครั้งแรก
- Commodity Futures Trading Commission (CFTC) รายงานสถานะการลงทุนสัญญาน้ำมันดิบ WTI ในตลาดนิวยอร์กและลอนดอน สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 5 ก.พ. 62 กลุ่มผู้จัดการกองทุนปรับ Net Long Position ลดลงจากสัปดาห์ก่อน 6,330 สัญญา มาอยู่ที่ 145,509 สัญญา ทั้งนี้ CFTC รายงานย้อนหลังในช่วงที่เกิด Partial Government Shutdown ในสหรัฐฯ ทำให้ประกาศข้อมูลล่าช้ากว่า ICE