นายเชิดศักดิ์ กู้เกียรตินันท์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ็นพีพีจี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์ประเภทต่างๆ ธุรกิจอาหารแปรรูปแช่แข็งและอาหารกึ่งสำเร็จรูป เปิดเผยว่า บริษัทได้เร่งดำเนินการตามแผนธุรกิจ "NPPG Turnaround 2019" ซึ่งมุ่งเน้นในนโยบายสร้างกำไร (Profit Focus) มากกว่าการขยายตัว (Growth Focus) ทั้งนี้ เพื่อผลักดันให้ผลประกอบการของบริษัทเป็นไปตามเป้าหมายอัตราการขยายตัวของรายได้ทั้งกลุ่มอย่างน้อย 20-25% และพลิกกลับมามีกำไรสุทธิ
สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานในปี 2561 บริษัทมีรายได้รวม 1,163 ล้านบาท เพิ่มขึ้นราว 50 ล้านบาท หรือคิดเป็น 4% เมื่อเปรียบเทียบจากปีก่อน โดยแบ่งเป็นรายได้จากธุรกิจบรรจุภัณฑ์จำนวน 630 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยบริษัทหันมาเน้นการทำการตลาดจากฐานลูกค้าเดิมซึ่งมั่นใจในมาตรฐานการผลิตของบริษัทอยู่แล้ว ขณะเดียวกันก็มองหาพันธมิตรทางการค้ารายใหม่ๆ เพื่อหวังสร้างการเติบโตทางธุรกิจในอนาคต
ขณะที่ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม มีรายได้จากการขายจำนวน 533 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 41 ล้านบาท โดยเพิ่มขึ้นจากส่วนของรายได้จากการผลิตและจำหน่ายอาหารแปรรูปแช่แข็งและกึ่งสำเร็จรูปที่มียอดส่งออกกุ้งแช่แข็งเพิ่มขึ้น มีรายได้ในปี 2561 จำนวน 327 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 37 ล้านบาท ซึ่งนอกจากสินค้าอาหารทะเลแช่แข็งแล้ว ในช่วงเดือนธันวาคมที่ผ่านมาบริษัทยังได้แตกไลน์มาผลิตปลาน้ำจืดแปรรูปแช่แข็งเพื่อส่งออกเพิ่มอีกหนึ่งประเภทสินค้า เพราะมีกลุ่มลูกค้าที่รองรับสินค้าอยู่แล้ว
ส่วนร้านอาหาร A&W ซึ่งอยู่ในกลุ่ม QSR ที่ถือได้ว่ามีการแข่งขันกันของแต่ละแบรนด์สูงมาก มีรายได้ 192 ล้านบาท ปรับตัวลดลงจากปีก่อนเพียงเล็กน้อย ขณะที่ร้านอาหารคิทเช่น พลัส ที่บริษัทเริ่มรับรู้รายได้ช่วงไตรมาส 4 ของปี มีรายได้กว่า 10 ล้านบาท ซึ่งแยกออกเป็นรายได้จากการขายตามปกติที่เกิดจากสาขาที่บริษัทดำเนินกิจการเอง ปัจจุบันมีทั้งหมด 10 สาขา และอีกส่วนเป็นรายได้ที่เกิดจากการให้ใช้สิทธิแฟรนไชส์ร้านอาหารคิทเช่น พลัส (Franchisee) ซึ่งในปัจจุบันมีสาขาทั้งหมด 50 สาขาทั่วประเทศ ทั้งนี้ บริษัทมีเป้าหมายที่จะขยายสาขาเพิ่มอีก 20-25 สาขาภายในปี 2562 นี้
สำหรับปี 2561 บริษัทมีผลขาดทุนสุทธิ เป็นจำนวน - 279 ล้านบาท โดยส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากรายการพิเศษที่เกิดขึ้นในปี 2561 เช่น การขาดทุนจากเงินลงทุนในหลักทรัพย์เผื่อขาย การตั้งด้อยค่าในสินทรัพย์ และการตั้งหนี้สงสัยจะสูญ เป็นต้น
"ในการดำเนินการต่างๆ นั้น เป็นการดำเนินงานตามแผนการ Turnaround ที่ได้ประกาศไว้ ทั้งในด้านของเป้าหมายอัตราการขยายตัวของรายได้ การพลิกกลับมามีกำไร การกำหนดนโยบายที่ชัดเจนเพื่อสร้างพื้นฐานธุรกิจของบริษัทให้แข็งแรงและเติบโตได้ในระยะสั้นและระยะกลาง ถึงแม้ในปี 2561 ที่ผ่านมาบริษัทจะมีผลขาดทุนจำนวน 279 ล้านบาท โดยขาดทุนลดลงจากปีก่อน 187 ล้านบาท หรือราว 40% แต่ก็ถือว่าอยู่ในสถาณการณ์ที่บริษัทประเมินไว้และหากพิจารณาที่กำไรขั้นต้นก็จะเห็นได้ว่ามีสัดส่วนที่เพิ่มสูงขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งก็มาจากการที่บริษัทสามารถควบคุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพตามแผนที่วางไว้" นายเชิดศักดิ์กล่าว
                                                                                                                                        
                            
                            GLOCON ประกาศมั่น 2024 ปีแห่งการ Turnaround เร่งเครื่องสร้างรายได้ทุกกลุ่มบริษัทย่อย
                        
                            GLOCON ดึงผู้บริหารมือทอง "นายเชิดศักดิ์ กู้เกียรตินันท์" กลับมานั่ง CEO พร้อมกลยุทธ์บริหารสุดแกร่ง พร้อมลุยงานระดับสากล
                        
                            "CEN" เดินเกมรุกตอบโจทย์ Holding Company
                        
                            CEN พลิกโฉมธุรกิจ สู่การเติบโตแบบก้าวกระโดด   เน้นกลยุทธ์ Recurring Income สู่การปั้นกำไรโตต่อเนื่อง เดินเกมรุกตอบโจทย์ Holding Company
                        
                            GLOCON สัญญาณเทิร์นอะราวด์ โชว์กำไรงวด 9M20 พุ่งเกือบ 80%
                        
                            TRITN กำไรไตรมาส 3/2563 โตกว่า 1,400% มีมูลค่างานในมืออีกกว่า 1,000 ล้านบาท
                        
                            GLOCON ผนึก 7-Eleven ขายผลไม้อบแห้ง แบรนด์วีว่า (Viva)
                        
                            GLOCON ปรับโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหญ่ พร้อมดึง 2 ผู้บริหาร “ตลาดทุน-การเงิน” เสริมทัพ
                        
                            GLOCON โชว์รายได้ครึ่งปีแรกเติบโตกว่า 30% จากกลุ่มธุรกิจอาหารที่ขยายตัวถึง 200%