ชุมนุมสหกรณ์โคนมภาคใต้และตะวันตก จำกัด คิดค้นนวัตกรรมจัดการฟาร์มโคนมในระบบชีวภาพ ทดลองเลี้ยงวัวหลุมเป็นแห่งแรกในประเทศไทย

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

          การส่งเสริมการเลี้ยงโคนมให้กับเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรีและประจวบคีรีขันธ์ เริ่มครั้งแรกเมื่อ ปี 2524 ซึ่งเป็นโครงการเลี้ยงโคนมเพื่อลดพื้นที่การปลูกสับปะรด ที่ผลผลิตล้นตลาดและราคาตก และในปี 2532 ได้ขยายไปยังจังหวัดชุมพร มีการส่งเสริมการเลี้ยงโคนมให้กับเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากพายุเกย์ที่สร้างความเสียหายให้กับพื้นที่การเกษตร ทั้งสวนผลไม้ ยางพาราและปาล์มน้ำมัน ต่อมาได้มีการรวมกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมจัดตั้งเป็นสหกรณ์โคนม เพื่อช่วยเหลือเรื่องเงินทุนและปัจจัยการผลิต รวมถึงการรวบรวมน้ำนมดิบมาแปรรูปป้อนสู่ตลาด
          ต่อมาในปี 2547 ได้มีการรวมกลุ่มสหกรณ์โคนมในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรีและชุมพร จัดตั้งเป็นชุมนุมสหกรณ์โคนมประจวบฯ - เพชรบุรี – ชุมพร จำกัด ต่อมาสหกรณ์โคนมจังหวัดพัทลุงได้สมัครเข้าร่วมเป็นสมาชิกของชุมนุมฯ จึงมีการเปลี่ยนชื่อเป็นชุมนุมสหกรณ์โคนมภาคใต้และตะวันตก จำกัด เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2556 ตามนโยบายในการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับขบวนการสหกรณ์โคนม โดยส่งเสริมให้สหกรณ์โคนมที่ตั้งอยู่ในภาคต่างๆ รวมกันจัดตั้งเป็นชุมนุมสหกรณ์โคนมระดับภาคเพื่อให้เกิดการช่วยเหลือ ร่วมกันหาแนวทางแก้ไขปัญหาและเชื่อมโยงเครือข่ายธุรกิจระหว่างสหกรณ์โคนมด้วยกัน 
          ชุมนุมสหกรณ์โคนมภาคใต้และตะวันตก จำกัด ตั้งอยู่ที่อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีผลการดำเนินงานที่เจริญก้าวหน้าและประสบผลสำเร็จอย่างต่อเนื่อง มีสหกรณ์โคนมและกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม จากจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี ราชบุรี นครปฐม กาญจนบุรีสุพรรณบุรี ชุมพร และพัทลุง เข้าร่วมเป็นสมาชิกจำนวน 15 แห่ง มีเกษตรกรโคนมที่อยู่ในความดูแล 3,750 ครอบครัว จำนวนโคนม 110,000 ตัว ผลิตนมดิบได้ 460 ตัน/วัน หากเทียบกับภาพรวมปริมาณการผลิตน้ำนมดิบของทั้งประเทศวันละ 3,300 ตัน ชุมนุมสหกรณ์โคนมภาคใต้ฯจะผลิตนมดิบได้ประมาณ 15% ของปริมาณน้ำนมดิบทั้งประเทศ ซึ่งชุมนุมสหกรณ์โคนมภาคใต้ฯมีการดำเนินธุรกิจหลัก 3 ด้าน ได้แก่ การผลิตอาหารโคนมอัดเม็ดและจัดหาสินค้ามาจำหน่ายให้กับสหกรณ์โคนมที่เป็นสมาชิก ซึ่งโรงงานผลิตอาหารสัตว์มีกำลังการผลิต 10 ตัน/ชั่วโมง และสามารถผลิตอาหารสัตว์ได้ถึงวันละ 700-800 ตัน เพื่อจำหน่ายให้กับเกษตรกรในราคาที่เป็นธรรม ส่งผลทำให้ต้นทุนการเลี้ยงโคนมของเกษตรกรลดลง นอกจากนี้ยังมีธุรกิจรับฝากเงินจากสหกรณ์สมาชิก เพื่อนำมาเป็นเงินทุนหมุนเวียน และในปีนี้ ทางชุมนุมฯจะเปิดโรงงานแปรรูปผลิตภัณฑ์นมพาสเจอร์ไรส์ กำลังการผลิต 2 ตัน/ชั่วโมงคาดว่าจะเริ่มผลิตนมป้อนเข้าโครงการอาหารเสริม(นม)โรงเรียนได้ภายในเดือนพฤษภาคม 2562 และผลิตเพื่อจำหน่ายเป็นนมเชิงพาณิชย์ได้ในเดือนตุลาคม 2562                     
          นายนนทะชัย โนนพุดซา ผู้จัดการชุมนุมสหกรณ์โคนมภาคใต้และตะวันตก จำกัด เปิดเผยว่า ทางชุมนุมฯ ตั้งเป้าหมายที่จะพัฒนาธุรกิจด้านโคนม โดยการสร้างมูลค่าผลผลิตให้เพิ่มมากขึ้น เพื่อสร้างความมั่นคงให้กับอาชีพการเลี้ยงโคนม ปัจจุบันชุมนุมสหกรณ์ฯได้ดำเนินโครงการฟาร์มโคนมทดแทน โดยรับเลี้ยงลูกวัวของสมาชิกโดยนำมาเลี้ยงรวมกันในฟาร์มกลางของชุมนุมสหกรณ์ฯ จำนวน 200 ตัว มีการกำหนดช่วงเวลาในการให้อาหารในแต่ละวันที่ชัดเจน และเลือกใช้วัตถุดิบผลิตอาหารที่เหมาะสมกับการเจริญเติบโตของลูกโคแต่ละช่วงวัย และดูแลเรื่องการป้องกันโรคของโคนมอย่างใกล้ชิด จนอายุของโคพร้อมจะเป็นวัวสาวท้อง จึงจะขายคืนให้กับเกษตรกร ซึ่งจะช่วยลดภาระต้นทุนการเลี้ยงโคนมให้กับเกษตรกร ทำให้เกษตรกรมีเวลาดูแลโครีดนมได้อย่างเต็มที่และไม่ต้องลงทุนสร้างโรงเรือนคอกพักโคเพิ่ม 
          นอกจากนี้ ทางชุมนุมฯยังได้คิดค้นวิธีการเลี้ยงวัวนมในระบบชีวภาพหรือวัวหลุม โดยพัฒนาต่อยอดมาจากการเลี้ยงหมูระบบชีวภาพหรือหมูหลุม โดยเริ่มตั้งแต่ปี 2553 นับว่าเป็นนวัตกรรมการจัดการฟาร์มโคนมรูปแบบใหม่และเป็นแห่งแรกในประเทศไทย ซึ่งการเลี้ยงโคนมในฟาร์มทั่วไป เกษตรกรจะล้างคอกวัว ฉีดน้ำ ตักขี้วัว และต้องทำความสะอาดพื้นคอกทุกวัน ซึ่งกระบวนการทำความสะอาดพื้นคอกและตักขี้วัวออก ต้องใช้แรงงานและใช้อุปกรณ์ เกิดมลภาวะทางกลิ่น น้ำเสียและแมลงวันรบกวน แต่การเลี้ยงโคนมในระบบชีวภาพหรือวัวหลุม เป็นการเลี้ยงแบบผสมผสานแบบยืนโรงกับปล่อยให้เดินเล่นไปมาในคอกได้ ไม่ต้องผูกโคอยู่ในซองโค ด้านข้างคอกวัวก่อด้วยซีแพ็ค เพื่อป้องกันการพังทลายของดินและการซึมของน้ำเข้าไปในพื้นคอก ส่วนด้านในคอกเลี้ยงวัวจะขุดดินลึกลงไปประมาณ 60-80 เซนติเมตร เพื่อใส่วัสดุรองพื้น โดยนำขุยมะพร้าวมาคลุมไว้บนพื้นดินในหลุม เมื่อวัวถ่ายออกมาจะผสมคลุกเคล้าในหลุม และกลายเป็นปุ๋ยหมักชีวภาพ และจะมีการกลับพื้นคอกและรดน้ำหมักชีวภาพทุก ๆ 10-15 วัน/ครั้ง เพื่อกระตุ้นการย่อยสลายของจุลินทรีย์ช่วยคลุกเคล้าระหว่างวัสดุรองพื้น มูลและฉี่วัว จนกลายเป็นปุ๋ย ขณะเดียวกันก็ช่วยระบายความชื้น การกลับพื้นคอกวัวทำจนครบ 3-4 เดือน ก็จะใช้รถแมคโครตักปุ๋ยหมักที่มีทั้งขี้วัว ฉี่วัวและวัสดุรองพื้น ออกจากหลุมได้ประมาณ 200-300 ตัน แล้วจึงนำวัสดุรองพื้นชุดใหม่ใส่ลงไป สำหรับปุ๋ยหมักที่ได้จากการเลี้ยงวัวหลุม ทางชุมนุมฯจะจำหน่ายให้กับเกษตรกรทั่วไปได้นำไปใช้ในการปลูกพืช 
          ข้อดีของการเลี้ยงโคนมในระบบชีวภาพนั้น นอกจากจะเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังประหยัดแรงงานและพลังงานในการทำความสะอาดคอก และสามารถจัดการฟาร์ม เช่น ฉีดวัคซีน ติดเบอร์หู ถ่ายพยาธิ ได้สะดวกและง่าย เนื่องจากเลี้ยงอยู่ในพื้นที่ เมื่อมีแดดออกหรือฝนตก วัวจะลงไปอยู่ในหลุม และหากวันไหนอากาศเย็นสบาย วัวจะเดินขึ้นมาพักผ่อนอยู่บนลานดิน โคนมจึงเจริญเติบโตมีสุขภาพแข็งแรงและสะอาด
          ชุมนุมสหกรณ์โคนมภาคใต้และตะวันตก จำกัด มีพื้นที่ทั้งหมด 20 ไร่ แบ่งเป็นโรงเรือนเลี้ยงโคนม 4 หลัง โรงผลิตอาหารสัตว์ โรงงานแปรรูปนมพาสเจอร์ไรส์ มีอาคารสำนักงานและมีแปลงหญ้าเนเปียเพื่อเป็นวัตถุดิบอาหารสัตว์ 60 ไร่ มีศูนย์กลางในการผลิตอาหารสัตว์ (Feed Center) ปัจจุบันการดำเนินโครงการธนาคารโคนมทดแทนฝูงและการเลี้ยงวัวนมในระบบชีวภาพของชุมนุมสหกรณ์ฯ ได้รับความสนใจจากเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมในจังหวัดต่าง ๆ รวมถึงนักวิชาการ นิสิตนักศึกษาเดินทางมาศึกษาดูงานอย่างต่อเนื่อง ทางชุมนุมสหกรณ์ฯจึงได้เปิดเป็นศูนย์เรียนรู้ ด้านการเลี้ยงวัวหลุม และศูนย์เรียนรู้ธนาคารโคนมทดแทนฝูง และยังเปิดพื้นที่สำหรับจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมความรู้ด้านโคนม เช่น การประกวดโคนม งานจัดกิจกรรมถ่ายทอดเทคโนโลยีให้กับเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม นับเป็นต้นแบบของชุมนุมสหกรณ์โคนมระดับภาค ที่มีบทบาทในการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับขบวนการสหกรณ์โคนมไทย
ชุมนุมสหกรณ์โคนมภาคใต้และตะวันตก จำกัด คิดค้นนวัตกรรมจัดการฟาร์มโคนมในระบบชีวภาพ ทดลองเลี้ยงวัวหลุมเป็นแห่งแรกในประเทศไทย
 
ชุมนุมสหกรณ์โคนมภาคใต้และตะวันตก จำกัด คิดค้นนวัตกรรมจัดการฟาร์มโคนมในระบบชีวภาพ ทดลองเลี้ยงวัวหลุมเป็นแห่งแรกในประเทศไทย
ชุมนุมสหกรณ์โคนมภาคใต้และตะวันตก จำกัด คิดค้นนวัตกรรมจัดการฟาร์มโคนมในระบบชีวภาพ ทดลองเลี้ยงวัวหลุมเป็นแห่งแรกในประเทศไทย
 
ชุมนุมสหกรณ์โคนมภาคใต้และตะวันตก จำกัด คิดค้นนวัตกรรมจัดการฟาร์มโคนมในระบบชีวภาพ ทดลองเลี้ยงวัวหลุมเป็นแห่งแรกในประเทศไทย
 
 
 
 

ข่าวเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม+กลุ่มเกษตรกรวันนี้

ภาพข่าว: รมช.มนัญญาเยี่ยมสหกรณ์โคนมไทย-เดนมาร์คประจวบคีรีขันธ์

นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผู้บริหารระดับสูงหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานของสหกรณ์โคนมไทย-เดนมาร์คประจวบคีรีขันธ์ ณ ต.หนองตาแต้ม อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ (ในวันที่ 5 มี.ค.63) นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เยี่ยมชมผลิตภัณฑ์ของสหกรณ์โคนมไทย-เดนมาร์คประจวบคีรีขันธ์ อาทิ นมอัดเม็ดรสทุเรียน รสหวาน นมอินทรีย์ออแกนิก เป็นต้น ทั้งนี้ได้รับฟังปัญหาของกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม

ฟอนเทียร่าแบ่งปันแนวทางเกษตรกรรมจากนิวซีแลนด์ มุ่งยกระดับทักษะเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมไทย

ฟอนเทียร่า (Fonterra) สหกรณ์โคนมรายใหญ่ที่สุดของประเทศนิวซีแลนด์ ร่วมกับรัฐบาลไทย จัดกิจกรรมการอบรมเพื่อยกระดับทักษะเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมและเสริมศักยภาพการจัดการฟาร์มโคนมในประเทศไทย โครงการดังกล่าวเป็นโครงการ...

สัตวแพทย์ จุฬาฯ วิจัยหนุนเกษตรกรผู้เลี้ยง... จุฬาฯ วิจัยหนุน"สระบุรีพรีเมียมมิลค์" ต้นแบบธุรกิจเพื่อเกษตรกรโคนมไทยแข่งขันในตลาดโลก — สัตวแพทย์ จุฬาฯ วิจัยหนุนเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมพัฒนาและผลิตน้ำนมคุณภ...

สัตวแพทย์ จุฬาฯ วิจัยหนุนเกษตรกรผู้เลี้ยง... จุฬาฯ วิจัยหนุน"สระบุรีพรีเมียมมิลค์" ต้นแบบธุรกิจเพื่อเกษตรกรโคนมไทยแข่งขันในตลาดโลก — สัตวแพทย์ จุฬาฯ วิจัยหนุนเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมพัฒนาและผลิตน้ำนมคุณ...

รัฐมนตรีเกษตร 'เฉลิมชัย' เปิดงานประกวดโคนมเทิดพระเกียรติชิงถ้วยพระราชทานภาคใต้และตะวันตกครั้งที่ 21 พร้อมรักษาสืบสานและต่อยอดให้อาชีพเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมคงอยู่คู่กับประเทศไทยต่อไป

นายเฉลิมชัยศรีอ่อนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นประธานเปิดงานประกวดโคนมเทิดพระเกียรติชิงถ้วยพระราชทานภาคใต้...

นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการ... รมช.มนัญญา สั่งตรง อ.ส.ค. ลดราคานม 25% บรรเทาเกษตรผู้เลี้ยงโคนม — นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานการประชุมหาแนวท...

อ.ส.คเร่งดันเกษตรกรโคนมสู่ Smart Farmer เ... อ.ส.คเร่งดันเกษตรกรโคนมสู่ Smart Farmer เสริมแกร่งอุตสาหกรรมการเลี้ยงโคนมไทย — อ.ส.คเร่งดันเกษตรกรโคนมสู่ Smart Farmer เสริมแกร่งรากฐานอุตสาหกรรมการเลี้ย...