เศรษฐกิจการศึกษาว่าด้วยการนำสถาบันการศึกษาเข้าตลาดหุ้น บทบาทของรัฐและบทบาทของกลไกตลาดในการจัดการการศึกษา

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

          16.00 น. 2 ธันวาคม พ.ศ. 2561 ที่ คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต เมืองเอก 
          คณะเศรษฐศาสตร์ และ ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจเพื่อการปฏิรูป มหาวิทยาลัยรังสิต

          ผศ. ดร. อนุสรณ์ ธรรมใจ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ได้ให้ความเห็นถึงกระแสคัดค้านและสนับสนุนการนำหุ้นของสถาบันการศึกษาเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย ว่า ต้องมีการพิจารณาถึงบทบาทของกลไกตลาดและบทบาทของรัฐที่เหมาะสมในกิจการทางการศึกษาว่าควรจะเป็นอย่างไรจะเกิดประโยชน์สูงสุดต่อสังคมโดยรวมและสนับสนุนการระดมทุนเพื่อสนองตอบการขยายตัวของกิจการทางการศึกษาที่เป็นไปตามภาวะของตลาด การเข้าตลาดหุ้นทำให้เกิดแรงกดดันที่บริษัทหรือนิติบุคคลที่บริหารโรงเรียนนานาชาตินั้นต้องแสวงหากำไรเพื่อตอบแทนผู้ถือหุ้นทำให้คุณภาพการศึกษาอาจด้อยคุณภาพลงหรือผิดปรัชญาและวัตถุประสงค์ในการศึกษาได้ การให้สิทธิพิเศษทางภาษีหรือมาตรการสนับสนุนต่างๆต่อสถานศึกษาเอกชนเพื่อให้มีการลงทุนทางการศึกษาเพื่อตอบสนองต่อสังคมและระบบเศรษฐกิจโดยรัฐไม่จำเป็นต้องลงทุนเองทั้งหมด ในหลายกรณีการลงทุนการศึกษาโดยเอกชนมีประสิทธิภาพสูงกว่าการลงทุนการศึกษาโดยรัฐ ขณะเดียวกัน เอกชนก็มีแรงจูงใจคือผลกำไรแต่ต้องไม่เป็นกำไรเกินควรและต้องถูกกำกับโดยกฎหมายและจริยธรรม กรณีการนำสถานศึกษาเข้าซื้อขายในตลาดหุ้นต้องมีการจำกัดสัดส่วนของกำไรที่นำมาจ่ายเป็นเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นเพื่อให้มีการนำกำไรส่วนใหญ่กลับไปลงปรับปรุงพัฒนาคุณภาพการศึกษาให้ดียิ่งขึ้น และ ในกรณีขายหุ้น ผู้ถือหุ้นควรต้องเสียภาษีกำไร (Capital Gains) เนื่องจากกิจการการศึกษาได้สิทธิพิเศษทางภาษีอยู่แล้ว หรือ หากมีการนำสถานศึกษาเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ รัฐอาจต้องทบทวนยกเลิกสิทธิพิเศษทางภาษีของสถานศึกษาดังกล่าว 
          ผศ. ดร. อนุสรณ์ ธรรมใจ กล่าวอีกว่า การนำสถาบันการศึกษาเข้าตลาดหุ้นไม่มีข้อห้ามในกฎหมายและสามารถทำได้ หากกรณีบริษัทเอสไอเอสบี จำกัด (มหาชน) ซึ่งประกอบธุรกิจโรงเรียนนานาชาติประสบความสำเร็จดีและได้รับการตอบรับจากนักลงทุน อาจทำให้มี "โรงเรียน" และ "สถานศึกษา" อีกจำนวนหนึ่งเข้ามาระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์เพิ่มเติมในอนาคต ส่งผลบวกต่อการพัฒนาตลาดทุนและเพิ่มทางเลือกของนักลงทุนแต่ในอีกด้านหนึ่งต้องมาพิจารณาด้วยว่า จะส่งผลกระทบต่อปรัชญาพื้นฐานของจัดการการศึกษา บทบาทของรัฐและกลไกตลาดในการจัดการการศึกษาควรจะเป็นเช่นใด จะส่งผลต่อคุณภาพทางการศึกษาอย่างไร และต้องไม่ทำให้เกิดการค้ากำไรเกินควรในกิจการการศึกษา กลายเป็นธุรกิจการศึกษา กลายเป็นเอาธุรกิจมานำคุณภาพการศึกษา ซึ่งจะไม่เป็นผลดีต่อการพัฒนาคนในระยะยาว ไม่เป็นผลดีต่อการสะสมทุนมนุษย์ 
          ผศ. ดร. อนุสรณ์ ธรรมใจ ในฐานะอดีตกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ สภาการศึกษา เสนอแนะอีกว่า รัฐต้องส่งเสริมบทบาทของภาคเอกชนให้จัดการการศึกษาระดับอุดมศึกษามากขึ้น มีมาตรการช่วยเหลือสถาบันการศึกษาที่มีปัญหาโดยไม่ถูกกลุ่มทุนจากต่างประเทศโดยเฉพาะกลุ่มทุนจีนเข้ายึดครองกิจการเพราะจะส่งผลกระทบทางสังคมในระยะยาว สนับสนุนให้เกิดการควบรวมกิจการเพื่อลดปัญหาอุปทานส่วนเกิน ลดการกำกับดูแลที่ไม่จำเป็น พัฒนาระบบการเงินอุดมศึกษาให้มีประสิทธิภาพ ลดการชดเชย (Subsidy) ด้านอุปทานสถานศึกษาของรัฐ เพิ่มการช่วยเหลือการเงินด้านอุปสงค์ในรูปของทุนและเงินกู้เพื่อการศึกษาที่มีประสิทธิภาพ แก้ปัญหาการขยายตัวของสถานการศึกษาภาครัฐที่ไม่มีคุณภาพแล้วก่อให้เกิดปัญหาการเบียดลดกิจการศึกษาภาคเอกชน (Crowding Out) ด้วยการใช้คูปองการศึกษา คนที่มีฐานะไม่ดีแต่มีศักยภาพ ก็สามารถกู้เงินมาลงทุนการศึกษาได้หรือมีระบบการให้ทุนเพิ่มขึ้นหรือมีระบบคูปองการศึกษา ตนอยากเสนอให้เพิ่มเรื่อง สวัสดิการการศึกษาสำหรับนักเรียนที่ยากจนหรือการขยายโอกาสทางการศึกษาให้เด็กในครอบครัวที่ยากจนโดยให้ "แต้มต่อ" ให้กับเด็กยากจนด้วยมาตรการ CCT (Conditional Cash Transfer) เงินโอนที่มีเงื่อนไขให้เด็กได้เรียน ขณะนี้ โอกาสเรียนระดับอุดมศึกษาของเด็กยากจน น้อยมาก น้อยกว่า 5% เปรียบเทียบกับเด็กในครัวเรือนรวย 40-50% ค่าเฉลี่ยทั่วประเทศ 25% ผลการศึกษาวิจัยยังพบว่า การลงทุนในเด็ก Investment in Children ครัวเรือนรวยลงทุนในเด็กสูงกว่าครัวเรือนยากจน หลายเท่าตัว 5-10 เท่า 
          ดร. อนุสรณ์ กล่าวอีกว่า ควรศึกษาผลของระบบการให้ทุนและการให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาต่อความเท่าเทียมในการเข้าถึงการศึกษาระดับสูงทั้งมหาวิทยาลัยรัฐและมหาวิทยาลัยเอกชนที่มีชื่อเสียง ควรศึกษาความคุ้มค่าจากการลงทุนทางการศึกษาของภาครัฐโดยพิจารณาทั้งในแง่ผลตอบแทนที่เป็นตัวเงินและไม่เป็นตัวเงินเทียบกับรายจ่ายของรัฐบาลเพื่อเป็นแนวทางในการตัดสินใจจัดสรรงบประมาณสำหรับการพัฒนาให้มุ่งสู่การพัฒนากำลังคนในด้านต่างๆ กระทรวงศึกษาธิการนั้นได้รับงบประมาณสูงสุดต่อเนื่องหลายปีแต่ผลการประเมินคุณภาพการศึกษาของประเทศยังมีคุณภาพไม่ดีนัก จึงต้องใช้งบประมาณมุ่งเน้นคุณภาพการศึกษา ระบบงบประมาณมุ่งสมรรถภาพ เน้นการกระจายอำนาจ มีการจัดการระบบการศึกษาแบบสหกิจศึกษา (Cooperative Education) ซึ่งเป็นการร่วมมือระหว่างสถานการศึกษา ภาคเอกชน ภาคการผลิตมากขึ้น
 
 
 

ข่าวศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ+สถาบันการศึกษาเข้าตลาดหุ้นวันนี้

EnCo ผนึกกำลังภาคธุรกิจ-ผู้เชี่ยวชาญ เปิดเวทีสัมมนา อัปเดตทิศทางอสังหาฯ ไทย ปี 2569

บริษัท เอนเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์ จำกัด (EnCo) จัดงานสัมมนา "Thailand's Real Estate Outlook 2026: เจาะทิศทางอสังหาฯ ไทย ปี 2569 พร้อมเติบโตอย่างยั่งยืน" นำโดย คุณศิรศักดิ์ จันเทรมะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ EnCo พร้อมด้วยผู้ทรงคุณวุฒิร่วมเสวนา ได้แก่ ผศ. ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เสนาดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน), คุณภัสสรีภัคว์ ศรีกัญจนานนท์ Head of Property Management, CBRE Thailand, คุณเชษฐวัฒก์ ทรงประเสริฐ นักวิเคราะห์อาวุโส ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ ,คุณอิสระ

ธนาคารไทยพาณิชย์ ตอกย้ำความมุ่งมั่นด้านกา... ไทยพาณิชย์ร่วมขับเคลื่อนประเทศไทยสู่สังคมคาร์บอนต่ำ ในงาน Thailand Climate Action Conference: TCAC 2025 — ธนาคารไทยพาณิชย์ ตอกย้ำความมุ่งมั่นด้านการดำเนิน...

ธนาคารไทยพาณิชย์ โดย ดร.ยรรยง ไทยเจริญ ปร... ไทยพาณิชย์ปลูกฝังพนักงานด้วยองค์ความรู้ ESG DNA เสริมสร้างรากฐานสู่องค์กรยั่งยืน — ธนาคารไทยพาณิชย์ โดย ดร.ยรรยง ไทยเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานวิ...

แม้ประเทศไทยจะได้รับการยกย่องจากองค์การอน... ตลาดคอนโดฯ ให้เช่ายังได้ไปต่อ ผลสำรวจชี้คนไทยส่วนใหญ่สนใจขนาด 1 ห้องนอน — แม้ประเทศไทยจะได้รับการยกย่องจากองค์การอนามัยโลก (WHO) และนานาประเทศว่าสามารถควบ...