"กันตาร์" เผยผลสำรวจวิจัยล่าสุด พบผู้บริโภคในไทยอยากให้แบรนด์ที่ทำเพื่อสังคมมีมากขึ้น

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

          - ร้อยละ 93 ของผู้ตอบแบบสำรวจเชื่อว่าแบรนด์ควรมีส่วนร่วมในประเด็นต่าง ๆ ที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญ
          - ประเด็นทางสังคมที่สำคัญที่สุดคือ สุขภาพ, การมีคุณภาพชีวิตที่ดี และปัญหาความยากจน
          - ร้อยละ 63 ของผู้ตอบแบบสำรวจมีแนวโน้มซื้อสินค้าของแบรนด์ที่มีอุดมการณ์ตรงกับตนเอง

          ผู้บริโภคในเอเชียสนับสนุนแบรนด์ที่มีส่วนร่วมในประเด็นทางสังคม เพราะเป็นสิ่งที่ตนให้ความสำคัญ โดยผลสำรวจล่าสุดของกันตาร์ (Kantar) ในชื่อ Purpose in Asia  พบว่า ผู้บริโภคร้อยละ 90 ใน เอเชีย และร้อยละ 93 ในประเทศไทย อยากให้แบรนด์ต่าง ๆ เข้ามามีบทบาทในประเด็นที่ตนเองให้ความใส่ใจ หมายความว่า ผู้บริโภคคาดหวังให้มีแบรนด์มีส่วนร่วมอย่างจริงจังมิใช่เป็นเพียงการสร้างภาพ

          การเข้ามามีบทบาทในประเด็นที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญนั้นเป็นสิ่งที่เข้าใจได้ในทางธุรกิจ โดยผู้ตอบแบบสำรวจร้อยละ 63 ในประเทศไทยเปิดเผยว่า เขามีแนวโน้มที่จะซื้อสินค้าของแบรนด์ที่มีอุดมการณ์ตรงกับตนเอง  ขณะที่ร้อยละ 53 ของผู้ตอบแบบสำรวจเปิดเผยว่า พวกเขายินดีที่จะจ่ายเงิน 'เพิ่มขึ้นอีกนิด' เพื่อซื้อสินค้าของแบรนด์ที่ดำเนินธุรกิจที่มีความน่าเชื่อถือบนนโยบายของการพัฒนาอย่างยั่งยืน

          ผลการสำรวจดังกล่าวยังได้เผยให้เห็นความไม่สอดคล้องกันระหว่างประเด็นทางสังคมในสื่อระดับโลกที่ครองพื้นที่ และแคมเปญของแบรนด์ระดับชาติ กับประเด็นที่ผู้บริโภคในเอเชียให้ความสำคัญจริง ๆ  โดยสองประเด็นที่ได้รับความสนใจในวงกว้างในเอเชียนั้น ได้แก่เรื่องของการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศและการให้ความเท่าเทียมกันทางเพศ  แต่ประเด็นที่ใกล้ตัวและผู้บริโภคให้ความสำคัญมากกว่า คือเรื่องของสุขภาพ การมีคุณภาพชีวิตที่ดี และการยุติความยากจน

          ผลการสำรวจครั้งนี้ได้ชูบทบาทของสื่อโซเชียลมีเดียในการกระจายข้อมูลข่าวสารในประเด็นต่าง ๆ สื่อโทรทัศน์ยังคงเป็นช่องทางที่บอกกล่าวถึงปัญหาทางสังคมให้ผู้คนได้รับรู้มากที่สุด อย่างไรก็ดีการแพร่หลายของสื่อโซเชียลมีเดียในหลาย ๆ ประเทศทั่วเอเชียทำให้ผู้คนตื่นตัวกันมากขึ้น โดยผู้ตอบแบบสำรวจร้อยละ 66 ในประเทศไทยเผยว่า ตนได้เข้าไปกดไลค์และโพสต์บนโซเชียลมีเดียที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับประเด็นที่ตนสนใจและให้ความสำคัญ ขณะที่ร้อยละ 51 ของผู้ตอบแบบสำรวจได้กดแชร์โพสต์หรือส่งต่อบทความ

          ด้วยเหตุนี้โซเชียลมีเดียจึงได้เข้ามามีอิทธิพลต่อพฤติกรรมของผู้บริโภค ร้อยละ 71 ของผู้ตอบแบบสำรวจในประเทศไทยเผยว่า ตนรู้สึกตระหนักต่อประเด็นทางสังคมในชีวิตประจำวันมากขึ้นหลังจากที่ได้เห็นโพสต์เกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวทางโซเชียลมีเดีย ขณะที่ร้อยละ 41 เผยว่า พฤติกรรมของตนได้เปลี่ยนไปด้วยสาเหตุนี้

          สำหรับคำถามที่ว่าแบรนด์ต่าง ๆ ควรเข้ามามีบทบาทในประเด็นเหล่านี้อย่างไรนั้น การแสดงออกถึงความตั้งใจจริงคือคำตอบ เพราะผู้บริโภคมักรู้ทันแบรนด์ที่ออกตัวทำเพื่อสังคมแบบผิวเผิน แต่ขณะเดียวกันกลับมีปัญหากับแนวทางการทำธุรกิจของตนเอง หรือไม่ก็แบรนด์ที่เลือกใช้แนวทางในการสื่อสารผิด ๆ ในประเด็นอ่อนไหว ผู้บริโภคในตลาดพัฒนาแล้วรู้สึกไม่มั่นใจกับบทบาทของแบรนด์มากกว่าตลาดอื่น ๆ ซึ่งเพียงร้อยละ 33 ของผู้ตอบแบบสำรวจในประเทศออสเตรเลียที่รู้สึกว่าแบรนด์ต่าง ๆ สามารถเข้ามามีส่วนทำเพื่อสังคมอย่างแท้จริง เมื่อเทียบกับในประเทศอินเดีย มีผู้ตอบแบบสำรวจมากถึงร้อยละ 74 ที่ให้ความเชื่อถือและไว้ใจในกิจกรรมลักษณะนี้

          ผู้บริโภคเชื่อว่าแบรนด์ต่าง ๆ มีบทบาทสำคัญในการเข้ามาช่วยเหลือในประเด็นที่ผู้คนให้ความสำคัญ การให้ความรู้แก่ผู้บริโภคเกี่ยวกับประเด็นที่เกิดขึ้นนั้นเป็นกิจกรรมที่ผู้ตอบแบบสำรวจพูดถึงมากที่สุด ตามมาด้วยการริเริ่มให้ทุนอุดหนุนโครงการเพื่อสนับสนุนประเด็นดังกล่าว และการให้เงินสนับสนุนองค์กรต่าง ๆ โดยตรง

          จอย ลี ที่ปรึกษาด้านดิจิทัลประจำภูมิภาค จากธุรกิจ Insights Division ของกันตาร์ กล่าวว่า "แบรนด์ทั้งหลายล้วนตระหนักถึงอิทธิพลของจุดมุ่งหมายมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว อย่างไรก็ดี ความท้าทายในเรื่องนี้อยู่ที่ว่า เราจะหาประเด็นที่ตรงใจชาวเอเชียที่มีความแตกต่างกันได้อย่างไร และจะเข้ามามีส่วนร่วมอย่างจริงจังได้อย่างไร ทุกวันนี้แบรนด์ต่าง ๆ สามารถเข้ามามีส่วนร่วมและสร้างความแตกต่างได้  ซึ่งข้อดีคือ  แบรนด์เหล่านี้ไม่จำเป็นต้องประกาศกร้าวให้รู้ไปถึงทั่วโลกเสมอไป เพราะการสนับสนุนโครงการและริเริ่มในระดับท้องถิ่น สร้างการขับเคลื่อนและการเปลี่ยนแปลงที่แม้จะเล็กแต่มีความหมายนั้นเป็นสิ่งที่ผู้คนให้ความสำคัญที่สุด"

          หมายเหตุถึงบรรณาธิการ :

          เกี่ยวกับการวิจัย :

          การวิจัยเชิงปริมาณที่นำไปเป็นข้อมูลประกอบผลสำรวจของ Purpose in Asia  ได้ออกสำรวจความคิดเห็นของผู้ตอบแบบสำรวจกลุ่มอายุมากกว่า 18 ปี ที่เข้าถึงอินเทอร์เน็ตเป็นจำนวนรวมกันกว่า 3,000 ราย โดยมีบริษัท Lightspeed เป็นผู้จัดทำ  ซึ่งได้ออกสำรวจความคิดเห็นเมื่อเดือนสิงหาคมและกันยายน 2561 ในตลาด 9 แห่งด้วยกัน ได้แก่ ออสเตรเลีย อินเดีย อินโดนีเซีย เกาหลี มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย และไต้หวัน การวิจัยนี้ได้ใช้เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (SGD) เป็นเค้าโครงเพื่อให้ผลลัพธ์มีความสอดคล้องกัน จากนั้นได้ทำการวิเคราะห์ข้อมูลทางโซเชียลมีเดียโดยใช้ Netbase ครอบคลุมความคิดเห็นบนสื่อโซเชียลตลอดระยะเวลาหนึ่งปี อย่างไรก็ตาม การวิจัยนี้ไม่ได้วิเคราะห์ข้อมูลในจีนแผ่นดินใหญ่ เพราะโซเชียลมีเดียของจีนมีความแตกต่างเป็นอย่างมาก ส่งผลให้ผลลัพธ์ที่ออกมามีบริบทเหมือนกัน ทำให้นำไปเปรียบเทียบได้ดีกว่า

          เกี่ยวกับกันตาร์ :

          กันตาร์ (Kantar) เป็นบริษัทชั้นนำอันดับหนึ่งของโลกที่ให้บริการข้อมูล ข้อมูลเชิงลึก และการให้คำปรึกษา โดยแบรนด์เฉพาะทางของกันตาร์ กันตาร์มีพนักงานรวมกันราว 30,000 คน ทำงานร่วมกันในการให้บริการการวิจัยและการให้คำปรึกษา เพื่อมอบข้อมูลเชิงลึกและกลยุทธ์ธุรกิจแก่ลูกค้าใน 100 ประเทศ ทั้งนี้ กันตาร์ เป็นบริษัทในเครือของดับบลิวพีพี (WPP) โดยมีบริษัทระดับ Fortune Top 500 กว่าครึ่งหนึ่งที่วางใจบริการของกันตาร์


ข่าวประเทศไทย+ผลสำรวจวันนี้

ดีลอยท์เปิดผลสำรวจ Digital Transformation ล่าสุด ชี้องค์กรไทยมาถูกทางแล้ว แต่ความตื่นตัวต่อ GenAI ยังตามหลังกระแสโลก

องค์กรธุรกิจไทยยังคงเดินหน้านำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งผลสำรวจ Deloitte Thailand Digital Transformation Survey 2025 โดยดีลอยท์ ประเทศไทย ที่จัดทำต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 ระบุว่า องค์กรไทยเริ่มผสานดิจิทัลสู่ธุรกิจหลักมากขึ้น แม้เทคโนโลยีจะเปลี่ยนแปลอย่างรวดเร็ว การปรับตัวยังคงเป็นปัจจัยสำคัญต่อความอยู่รอดและความสามารถในการแข่งขันขององค์กร นอกจากนี้ ยังมีการนำ Generative AI (GenAI) มาใช้อย่างแพร่หลายมากขึ้น การเดินหน้าเรื่องเปลี่ยนผ่านทางดิจิทัลขององค์กรไทย ในปี 2568 สถานะขององค์กรไทยใน

ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่... SME D Bank ตอกย้ำเบอร์หนึ่ง 'ธนาคารยอดเยี่ยมด้านสินเชื่อเอสเอ็มอีแห่งปี' คว้าแชมป์ 3 ปีซ้อน สินเชื่อตอบโจทย์คู่พัฒนาครบวงจร มาพร้อมพนักงานบริการดีเยี่ยม — ธนาคารพัฒนา...

บลจ.อีสท์สปริง เตรียมจ่ายปันผล 2 กองทุนอส... บลจ.อีสท์สปริง โชว์จ่ายปันผลกองทุนอสังหาฯและอินฟราสตรัคเจอร์ 2 กองทุน รวมมูลค่าประมาณ 220 ล้านบาท — บลจ.อีสท์สปริง เตรียมจ่ายปันผล 2 กองทุนอสังหาฯและอินฟร...

TMA เจาะลึกผลการจัดอันดับฯ โดย IMD ประเทศ... ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันโดย IMD ประจำปี 2568 — TMA เจาะลึกผลการจัดอันดับฯ โดย IMD ประเทศไทยตกลง 5 อันดับ มาอยู่อันดับที่ 30 สมาคมการจัดการธ...

กลุ่มเซ็นทรัล คว้า 3 รางวัลอันทรงเกียรติบ... ห้างหรูของกลุ่มเซ็นทรัล "เซลฟริดเจส - เซ็นทรัลชิดลม - บราวน์ โธมัส" คว้ารางวัลห้างสรรพสินค้าโลก ตอกย้ำผู้นำค้าปลีกระดับสากล — กลุ่มเซ็นทรัล คว้า 3 รางวัลอ...

ในวันนี้กลุ่มผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศหร... สมรสเท่าเทียมเปิดประตูสู่บ้านในฝัน ดันเทรนด์ที่อยู่อาศัยสดใสในเศรษฐกิจสีรุ้ง (Rainbow Economy) — ในวันนี้กลุ่มผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศหรือ LGBTQIAN+ ได้...

บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มห... "JAS" คิกออฟความยิ่งใหญ่การถ่ายทอดสด "พรีเมียร์ลีก-เอมิเรตส์ เอฟเอ คัพ" ฤดูกาลใหม่ผ่านงาน "New Season New Home" สุดทึ่ง!!! เปิดราคาแพ็กเกจ 299 บาทต่อเดือน เชียร์เต็มแมกซ์กับ Monomax ครบทุกแมตซ์เริ่ม 16 สิงหาคมนี้!!! — บริษัท จัสม...

ศ.ดร.ศุภชัย ปทุมนากุล ปลัดกระทรวงการอุดมศ... วว. ร่วมเป็นเกียรติในงาน THAILAND - CHINA Policy Forum @ มหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2568 — ศ.ดร.ศุภชัย ปทุมนากุล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและน...

ดร. จุฬา สุขมานพ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบา... สกพอ. ผนึกกำลัง สวทช. และ กนอ. บุกโรดโชว์เนเธอร์แลนด์ รุกตลาดยุโรปดึงบริษัทชั้นนำ ลงทุนอุตสาหกรรมสีเขียวพื้นที่อีอีซี — ดร. จุฬา สุขมานพ เลขาธิการคณะกรรมก...

สำนักงานพาณิชย์อิตาเลียน ประจำประเทศไทย แ... Shopee ผนึก ITA ปลุกพลังความสำเร็จให้ผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซ ภายใต้แนวคิด "Success in Motion" พร้อมสานต่อแคมเปญ "Best of Italy" ตลอดปี 68 — สำนักงานพาณิชย...