นายโสภณ ราชรักษา ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TICON เผย กลุ่มบริษัทไทคอนได้มีการปรับรอบบัญชี (Fiscal Year) เพื่อให้การบริหารงานเป็นไปในทิศทางเดียวกับบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ลิมิเต็ด ซึ่งรอบบัญชีปี 2561 นี้จะมีเพียง 9 เดือนเท่านั้น โดยเริ่มต้นนับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2561 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2561 และหลังจากนั้นในปีต่อๆ ไปรอบบัญชีใหม่ของบริษัทจะเริ่มวันที่ 1 ตุลาคม ถึงวันที่ 30 กันยายนของปีถัดไป โดย 9 เดือนนี้กลุ่มบริษัทไทคอนมีรายได้รวมทั้งสิ้น 3,817 ล้านบาท เป็นรายได้จากค่าเช่าพื้นที่โรงงาน และคลังสินค้ารวม 1,151 ล้านบาท รายได้จากการขายสินทรัพย์คุณภาพสูงให้แก่กองทรัสต์ TREIT มูลค่า 2,210 ล้านบาท และมีรายได้ค่าบริหารจัดการกองทรัสต์ TREIT 227 ล้านบาท ล่าสุดได้ประกาศผลการดำเนินงาน 3 เดือนสุดท้ายของปี 2561 นับจากเดือนกรกฎาคมถึงเดือนกันยายนที่ผ่านมา โดยบริษัทฯ มีรายได้รวมทั้งสิ้น 2,113 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,590 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 304 และมีกำไรสุทธิทั้งสิ้น 340 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 233 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 219 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2560 ซึ่งตัวเลขการเติบโตทั้งหมดนี้เป็นผลมาจากการรับรู้รายได้จากค่าเช่าพื้นที่โรงงาน 102 ล้านบาท และรายได้จากค่าเช่าพื้นที่คลังสินค้า 278 ล้านบาท ตลอดจนการขายสินทรัพย์เข้ากองทรัสต์ TREIT มูลค่า 1,569 ล้านบาท
โดยผลประกอบการที่เติบโตขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญตามที่ได้กล่าวไปข้างต้น เกิดจากการที่บริษัทฯ มีการปรับแผนกลยุทธ์ในการดำเนินงานที่ผ่านมา ทั้งยังมีการสร้างความเคลื่อนไหวทางธุรกิจที่สำคัญอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการประกาศแผนโรดแมป 3 ปี การขับเคลื่อนองค์กรทุกมิติ อีกทั้งยังประสบความสำเร็จในการขยายพื้นที่ให้บริการด้วยการคว้าลูกค้าใหม่จากบริษัทชั้นนำระดับโลกในหลากหลายกลุ่มอุตสาหกรรม อาทิ ดีเอชแอล (DHL) ซีว่า ลอจีสติกส์ (CEVA Logistics) ออโต้ลีฟ (Autoliv) ฟอมม์ (FOMM) และเบอร์ลี่ ยุคเกอร์ (BJC) ฯลฯ ซึ่งในช่วงเวลาเพียง 9 เดือนแรกของปี 2561 บริษัทฯ มีพื้นที่เช่าเพิ่มขึ้นกว่า 240,000 ตารางเมตร ส่งผลให้อัตราการเช่าพื้นโรงงานและคลังสินค้า (Occupancy Rate) ภายใต้การบริหารจัดการ เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 68 เป็นร้อยละ 73 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา
นอกจากนี้นายโสภณยังกล่าวเสริมเกี่ยวกับการทำงานในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา และแนวโน้มการเติบโตของกลุ่มไทคอนในการพัฒนาสินทรัพย์ที่ถือครองว่า "ผลประกอบการของกลุ่มไทคอนในรอบ 9 เดือนของปี 2561 นี้ ปรับตัวดีขึ้นอย่างมากเมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อนหน้า ทั้งจากภาวะอุตสาหกรรม และการลงทุนที่ขยับตัวดีขึ้น และจากการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การทำงานที่เข้าใจลูกค้ามากขึ้นสามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างดีเยี่ยม รวมถึงการทำงานร่วมกับกองทรัสต์ TREIT เพื่อจัด Portfolio ขายทรัพย์สินคุณภาพสูงเข้ากองทรัสต์ TREIT ได้ตามเป้าหมาย ในปีนี้ถือว่าเป็นอีกปีหนึ่งที่กลุ่มไทคอนได้มีการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจครั้งใหญ่ภายหลังจากการเข้ามาถือหุ้นของกลุ่มบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โดยประสบความสำเร็จในการจัดโครงสร้างธุรกิจใหม่ และเริ่มการขยายธุรกิจไปในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรมในโลกยุคดิจิทัล อาทิ การร่วมกับพาร์ทเนอร์ในการลงทุนธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์ และธุรกิจสมาร์ท โซลูชั่น ถือเป็นการสร้างฐานรายได้ใหม่ในอนาคตให้กับกลุ่มไทคอน
นอกจากนั้นเมื่อช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา กลุ่มบริษัทไทคอนร่วมกับพันธมิตร ได้มีการเข้าซื้อที่ดินย่านบางนาตราด จังหวัดสมุทรปราการ เพิ่มอีกกว่า 4,300 ไร่ เพื่อเพิ่ม Land Bank สำหรับการพัฒนาในอนาคต ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวมีศักยภาพในการเติบโตสูงเหมาะกับการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ รวมถึงโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรม นิคมอุตสาหกรรม โครงการอสังหาริมทรัพย์ประเภทมิกซ์ยูส และโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่อาศัย ซึ่งจะมีความคืบหน้าเกี่ยวกับการพัฒนาที่ดินแปลงนี้ในอีกไม่นาน โดยบริษัทฯ ยังคงเดินหน้าตามแผนงานเพื่อสร้างการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในทุกกลุ่มธุรกิจที่ได้เข้าลงทุนและเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของตลาอุตสาหกรรมในยุคดิจิทัล ทั้งนี้เชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจประเทศไทยโดยรวมในปี 2562 จะปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้นักลงทุน และผู้ประกอบการมีความมั่นใจในการเข้ามาลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น ส่งผลต่อความต้องการในการใช้พื้นที่โรงงานและคลังสินค้า พร้อมทั้งบริการอื่นๆ ภายใต้การบริหารจัดการของกลุ่มไทคอน จะมีความต้องการเพิ่มขึ้นตามไปด้วย"
รินน์ พร็อพเพอร์ตี คว้ารางวัล The Royal Angel Well Awards 2025 ตอกย้ำผู้นำ Wellness Real Estate รุ่นใหม่ ผ่านวิสัยทัศน์โครงการ DALTON
อินโดรามา เวนเจอร์ส ร่วมกับสยามพิวรรธน์ และ VINN PATARARIN สร้างสรรค์ "Tree of Tomorrow" ต้นคริสต์มาสแห่งความยั่งยืน ณ NEXTOPIA สยามพารากอน
กลุ่มบริษัท "เสนา" ได้รับผลประเมินหุ้นยั่งยืน "SET ESG Ratings ระดับ A"
TASCO คว้า SET ESG Ratings 2025 ระดับ "AA"
A5 ปลื้ม "CINQUI?M Krungthep Kreetha" กวาดยอดขาย 50% ตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดลักชัวรี
แสนสิริ - ไทยพาณิชย์ ผนึกความร่วมมือทางการเงิน สนับสนุนการพัฒนาโครงการใหม่ ร่วมขับเคลื่อนภาคอสังหาฯ ปี 2569
เซ็นทรัลพัฒนา จับมือ TEDxBangkok 2025 สร้าง "พื้นที่แห่งการสนทนา" เพื่อขับเคลื่อนแนวคิดและต่อยอดการพัฒนา "พื้นที่แห่งอนาคต" ของกรุงเทพฯ และประเทศไทย
BC เปิดตัวโรงแรม "เมอร์เคียว ภูเก็ต ป่าตอง เจอร์นี่ย์ฮับ" รับดีมานด์ท่องเที่ยวไฮซีซัน หนุนอัตราค่าห้องพักเฉลี่ย (ADR) ปรับตัวสูงขึ้น ยอดจองล่วงหน้าขยายตัวต่อเนื่องถึงปี 2569
Dot Property Southeast Asia Awards 2025 ยกย่องสุดยอดนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์โครงการระดับแลนด์มาร์ก และเอเจนซี่ยอดเยี่ยมแห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้