ก.เกษตรฯ แก้ไขปัญหายางพาราในระยะเร่งด่วน

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

          รัฐมนตรี 'กฤษฎา' ติวเข้ม สร้างการรับรู้ที่ถูกต้องของข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสถานการณ์และราคายางพาราตกต่ำของประเทศไทย พร้อมเร่งดำเนินการบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรชาวสวนยางในระยะเร่งด่วน
          นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ตามที่ได้มีการสนับสนุนให้ปลูกยางพาราในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศนับล้านไร่ มาตั้งแต่ปี 2547 เป็นต้นมา โดยไม่มีการวางแผนการผลิตให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดนั้น ได้ส่งผลให้ประเทศไทยเป็นทั้งผู้ผลิตยางพาราปริมาณมากที่สุดในโลก รวมทั้งเป็นผู้ส่งออกยางพารามากที่สุดในโลกด้วย แต่ปัจจุบันราคายางพาราในประเทศไทยและในตลาดโลกมีแนวโน้มลดลงเป็นระยะ ทำให้เกษตรกรชาวสวนยางส่วนใหญ่ประสบความเดือดร้อน จึงได้เรียกร้องให้รัฐบาลเข้ามาช่วยเหลือตามมาตรการต่าง ๆ เหมือนเช่นในอดีตที่ราคายางพาราตกต่ำ ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จึงได้ทำการศึกษาปัญหาภาวะวิกฤติราคายางพาราและแนวทางแก้ไขปัญหาราคายางพาราตกต่ำจากข้อมูลและข้อเท็จจริงจากพื้นที่ทั่วประเทศ รวมทั้งรวบรวมข้อมูลจากองค์การศึกษาเรื่องยางระหว่างประเทศ (IRSG) และหน่วยงานของรัฐ รวมทั้งสถาบันการศึกษาต่าง ๆ ได้พบข้อเท็จจริงที่สำคัญ สามารถสรุปได้ดังนี้ 1) ประเทศไทยมีพื้นที่กรีดยางมากที่สุดในกลุ่มประเทศผู้ผลิตรายใหญ่ คือ ไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย จีน เวียดนาม และอินเดีย โดยในปี 2560 ประเทศไทยมีพื้นที่กรีดยางได้ จำนวน 20.32 ล้านไร่ ทำให้ประเทศไทยมีผลผลิตยางมากที่สุดในโลกจำนวน 4.5 ล้านตัน เมื่อเทียบกับการผลิตยางธรรมชาติของทั้ง 6 ประเทศรายใหญ่ 2) ปัจจุบันราคายางพาราอยู่ในภาวะขาลง โดยราคายางแท่ง ปี 2551 - 2560 หดตัวลงเฉลี่ยร้อยละ 4.12 ราคายางแผ่นรมควันชั้น 3 ปี 2551 - 2560 หดตัวลงเฉลี่ยร้อยละ 2.86% 3) ต้นทุนการผลิตยางแผ่นดิบของประเทศไทย ปี 2550 – 2559 มีอัตราการเติบโตสูงขึ้นเป็นระยะ โดยไม่มีท่าทีว่าจะลดลงแต่อย่างใด โดยปัจจุบันมีต้นทุนการผลิตสูงขึ้นถึงร้อยละ 6.94 
          4) ในขณะที่ประเทศไทยมีต้นทุนการผลิตเพิ่มสูงขึ้น แต่เกษตรกรขายยางพาราได้ราคาลดลง ต้นทุนการผลิตยางแผ่นดิบของไทย และราคาที่เกษตรกรขายได้ปี 2550 - 2559 ต้นทุนเฉลี่ยเท่ากับร้อยละ 6.94 ราคาเฉลี่ยที่เกษตรกรขายได้เท่ากับติดลบร้อยละ 3.76 ซึ่งในปี 2557 - 2559 ต้นทุนการผลิตยางแผ่นดิบสูงกว่าราคาที่เกษตรกรขายได้ และ 5) สถานการณ์ราคายางพาราเปรียบเทียบกับผลผลิตทั้งประเทศ ตั้งแต่ปี 2540 – ปัจจุบัน จะเห็นว่าปี 2557 - 2561 ปริมาณผลผลิตยางเฉลี่ยในประเทศไทยมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเป็นระยะ โดยปัจจุบันมีปริมาณผลผลิตยางมากที่สุดจำนวน 4.50 ล้านตัน ซึ่งมากกว่าทุกช่วงเวลาที่ผ่านมา ในขณะที่ราคายางพาราในตลาดโลกลดลงเรื่อย ๆ สวนทางกับปริมาณยางพาราที่สูงขึ้นนั้น ในช่วงปี 2557 – 2561 ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกก็มีราคาลดต่ำลงทำให้มีการใช้ยางสังเคราะห์มากกว่ายางพารา ขณะเดียวกันได้เกิดความขัดแย้งทางการค้า (Trade War) ระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีน และประเทศคู่ค้าอื่น ๆ ของสหรัฐอเมริกา จึงทำให้การส่งออกยางพาราจากประเทศไทยไปยังประเทศจีนหรือประเทศลูกค้ารายสำคัญลดลง ส่งผลกระทบต่อราคายางในประเทศไทยลดลงด้วย 
          นายกฤษฎา กล่าวต่อไปว่า เมื่อพิจารณาแล้ว จะเห็นได้ว่าการแก้ไขปัญหาราคายางพาราในประเทศไทยให้ยั่งยืนและไม่มีผลกระทบต่อระบบการคลังของประเทศก็คือการลดการพึ่งพาการส่งออก เพราะราคายางพาราในต่างประเทศอยู่ในภาวะเวลาลดลงทุกตลาด รวมถึงราคายางพาราซื้อขายในประเทศก็ยังอิงกับราคาซื้อขายยางพาราล่วงหน้า (future trading) ในต่างประเทศด้วย ขณะเดียวกันยังต้องเพิ่มปริมาณการใช้ยางพาราในประเทศให้มากขึ้นพร้อมกับการปรับสมดุลลดปริมาณ (supply) ยางพาราลงด้วย จึงจะทำให้ราคายางพาราในประเทศมีเสถียรภาพ
          ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรฯ จึงเสนอแนวทางในการแก้ไขปัญหายางพาราต่อคณะกรรมการยางพาราและคณะกรรมการนโยบายยางพาราธรรมชาติ ในระยะเร่งด่วน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรชาวสวนยางพารา คือ 1) จัดทำโครงการเร่งด่วนพัฒนาอาชีพเพื่อสร้างความเข้มแข็งแก่เกษตรกรชาวสวนยางเป็นรายครอบครัว เพื่อให้มีรายได้เพิ่มขึ้นระหว่างราคายางพาราตกต่ำ 2) การลดปริมาณการผลิตยางพาราโดยส่งเสริมให้มีการปรับเปลี่ยนต้นยางพาราที่มีอายุ 25 ปีขึ้นไปหรือ อายุ 15 ปีที่มีต้นโทรมให้น้ำยางน้อยไม่คุ้มค่าเพื่อไปปลูกพืชอื่นๆรวมทั้งสนับสนุนให้มีการปลูกพืชอื่นแซมในสวนยางโดยอาจพิจารณาให้แรงจูงใจกับเกษตรกรมากกว่าปัจจุบันเพื่อเร่งการตัดสินใจลดปริมาณการผลิตยาง โดยทำควบคู่กับการให้แรงจูงใจกับผู้ผลิตในอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้ไม้ยางพาราในประเทศเป็นวัตถุดิบ หรือลดภาษีสินค้าเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้ไม้ยางพาราในประเทศเป็นวัตถุดิบเพื่อเพิ่มอุปสงค์ไม้ยางพาราให้สอดรับกับอุปทานไม้ยางพาราที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้น 3) เชิญชวนและเปิดรับสมัครเกษตรกรชาวสวนยางทั่วประเทศที่สนใจเข้าร่วมโครงการฝากน้ำยางไว้กับต้นยางช่วงราคาตกต่ำหรือหยุดกรีดยาง (tapping holiday) เป็นเวลา 1 - 2 เดือน ซึ่งจะทำให้ยางพาราลดลงจากตลาดไปในทันทีจำนวน 5 แสนตันต่อเดือน เพื่อเป็นการกระตุ้นราคายางพาราในตลาด เพราะการซื้อขายยางนั้นใช้รูปแบบเดียวกับสินค้าโภคภัณฑ์อื่น ๆ ที่มีการซื้อขายแบบส่งมอบสินค้าและซื้อขายล่วงหน้ามีสัญญาส่งมอบสินค้าเมื่อครบอายุสัญญา ซึ่งวิธีการหยุดกรีดยางนี้ หากสามารถควบคุมการหยุดกรีดได้จริง จะมีผลต่อการเพิ่มราคายางพาราให้สูงขึ้นมาก หากมีเกษตรกรชาวสวนยางทั้งประเทศเห็นด้วยกับมาตราการดังกล่าวและสมัครเข้าร่วมโครงการมากกว่าร้อยละ 80 ของเกษตรกรชาวสวนยางทั้งประเทศ จะมอบหมายให้การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ไปจัดทำโครงการส่งเสริมอาชีพชาวสวนยางระหว่างโครงการ เพื่อให้มีรายได้มาชดเชยช่วงหยุดกรีดยางต่อไป
          4) ขอความร่วมมือบริษัทหรือภาคเอกชนที่มีธุรกิจแปรรูปหรือโรงงานอุตสาหกรรมผลิตล้อยางส่งขายในต่างประเทศและหรือภายในประเทศ เพื่อขอให้เข้าร่วมรณรงค์เชิญชวนให้ประชาชนเปลี่ยนยางล้อรถยนต์ในช่วงเทศกาลปีใหม่เพื่อความปลอดภัยทางถนนในราคาถูก โดยให้ประชาชนได้สิทธิ์ทำใบเสร็จซื้อยางล้อรถยนต์ไปลดภาษีเงินได้บุคคลหรือนิติบุคคลประจำปี ในขณะที่บริษัทเอกชนหรือโรงงานที่เข้าร่วมโครงการผลิตล้อรถยนต์ราคาถูกก็จะได้สิทธิพิเศษทางภาษีเช่นกัน โดยมีเงื่อนไขและหลักฐานว่าได้ซื้อยางพาราจากกลุ่มเกษตรกรหรือสถาบันเกษตรกรที่มี กยท.รับรองโดยตรงด้วย รวมทั้งให้เชิญชวนบริษัทเอกชนทั้งของไทยและต่างประเทศให้เข้ามาลงทุนผลิตหรือรับแปรรูปยางส่งไปขายต่างประเทศ โดยมีสิทธิพิเศษทางการลงทุนตามที่หน่วยงานรัฐและการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยหรือสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) จะได้กำหนดต่อไป และ 5) ส่งเสริมและเร่งรัดการใช้ยางพาราในประเทศให้มากขึ้นอย่างเร่งด่วน โดยส่งเสริมการใช้ยางพาราและผลิตภัณฑ์จากยางพาราในทุกรูปแบบ โดยเริ่มจากหน่วยงานต่าง ๆ ของภาครัฐ และขยายไปสู่ตลาดหรืออุตสาหกรรมอื่น ๆ ต่อไป
          อย่างไรก็ตาม ได้มอบหมายให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรฯ ร่วมกันเผยแพร่ข้อเท็จจริงดังกล่าว ให้ประชาชนได้รับทราบกันทุกช่องทาง และให้เน้นย้ำว่ามาตรการและวิธีการดังกล่าวข้างต้น เป็นการดำเนินการในระยะเร่งด่วนเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรเท่านั้น
 

ข่าวการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์+กระทรวงเกษตรและสหกรณ์วันนี้

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แถลงเตรียมจัดงาน "วันดินโลก 2568" เทิดพระเกียรติในหลวงรัชกาลที่ 9 "นักวิทยาศาสตร์ดินเพื่อมนุษยธรรม" 5-9 ธันวาคมนี้ ณ กรมพัฒนาที่ดิน กรุงเทพฯ

นายนเรศ ธำรงค์ทิพยคุณ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานงานแถลงข่าวเตรียมการจัดงาน "วันดินโลก (World Soil Day) ประจำปี 2568" ภายใต้หัวข้อ "Healthy soils for healthy cities ดินที่สมบูรณ์ สู่เมืองที่สมดุล เกื้อกูลชีวิต" เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระมหากษัตริย์นักพัฒนา พระผู้ทรงมีพระอัจฉริยภาพ พระมหากรุณาธิคุณด้านการจัดการดินอย่างยั่งยืน โดยมี ดร. สุมิตรา วัฒนา อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน ผู้บริหารในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผู้

นายนเรศ ธำรงค์ทิพยคุณ รัฐมนตรีช่วยว่าการก... "รมช.นเรศ" เปิดโครงการทำหมัน ฉีดวัคซีนสุนัข-แมว ควบคุมโรคพิษสุนัขบ้า ตามพระปณิธานฯ จ.เชียงใหม่ — นายนเรศ ธำรงค์ทิพยคุณ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสห...

สั่งเร่งซ่อมสะพานแม่ปูนล่าง ฟื้นดินฟื้นนา... "รมช.นเรศ" ลงพื้นที่เวียงป่าเป้า ตรวจแผนฟื้นฟูพื้นที่เกษตรเสียหายจากพายุยางิ — สั่งเร่งซ่อมสะพานแม่ปูนล่าง ฟื้นดินฟื้นนา 350 ไร่ ดันโครงการอ่างเก็บน้ำ เกษ...

มกอช. หนุนกลุ่มเกษตรกรแปลงใหญ่ขอนแก่น ใช้... มกอช. หนุนกลุ่มเกษตรกรแปลงใหญ่ขอนแก่น — มกอช. หนุนกลุ่มเกษตรกรแปลงใหญ่ขอนแก่น ใช้เครื่องหมาย Q ผลิตสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน พร้อมต่อยอด...

แนะเกษตรกรผู้ปลูกลำไยขึ้นทะเบียนเกษตรกรรอ... "รมช.อัครา" ลุยพะเยาต่อเนื่อง! มอบนโยบายจัดทำการเกษตรแบบเป็นระบบ — แนะเกษตรกรผู้ปลูกลำไยขึ้นทะเบียนเกษตรกรรอมาตรการช่วยเหลือไร่ละ 1,400 บาท พร้อมเตรียมสร้...

นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกร... กระทรวงเกษตรฯ ตั้ง "War room ติดตามและแก้ไขสถานการณ์ด้านการเกษตร ชายแดนไทย-กัมพูชา" — นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ค...