KTAM ขายตราสารหนี้ตปท.6เดือนชู1.55%ต่อปี

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

          นางชวินดา หาญรัตนกูล บริษัทเปิดจำหน่าย กองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ 202( KTFF202) เสนอขายตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 13 พฤศจิกายน 2561 อายุโครงการ 6 เดือน เน้นลงทุนตราสารหนี้ต่างประเทศไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ซึ่งประกอบไปด้วย เงินฝากประจำของ Agricultural Bank China , Bank of China , Qatar National Bank , AL Ahli Bank และบัตรเงินฝาก Industrial And Commercial Bank Of China ,China Merchants Bank , Commercial Bank PQSC และพันธบัตรรัฐบาล ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 1.55% ต่อปี 
          อัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ในประเทศ มีการปรับตัวลดลงทุกช่วงอายุ ตามแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติ และนักลงทุนสถาบันในประเทศ จากการกลับมาแข็งค่าของเงินบาทหลังการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดเพิ่มขึ้น ในเดือนกันยายน และการไหลกลับของเงินลงทุนต่างชาติตามกระแส Risk off จากความต้องการหาแหล่งเงินทุนที่ปลอดภัย หลังจากปรับตัวผันผวนอย่างรุนแรงของตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา โดยสัปดาห์ที่ผ่านมานักลงทุนต่างชาติมียอดซื้อสุทธิ จำนวน 15,247 ล้านบาท ส่วนอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรับบาลสหรัฐอเมริกา มีการปรับตัวเพามขึ้นทุกช่วงอายุตามกระแส Risk on ในตลาดหุ้น จากตัวเลขเศรษฐกิจ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร และผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่ส่วนใหญ่ออกมาดี รวมถึงความคาดหวังที่ว่าผลการเจรจานอกกรอบของประธานาธิบดีทรัมป์ และประธานาธิบดี สี จิ้น ผิง จะออกมาดี ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ อายุคงเหลือ 2 ปี ปรับตัวเพิ่มขึ้น10 bps. มาอยู่ที่ 2.91% ต่อปี อายุคงเหลือ 5 ปี ปรับตัวเพิ่มขึ้น 13 bps. มาอยุ่ที่ 3.04% ต่อปี และอายุคงเหลือ 10 ปี ปรับตัวเพิ่มขึ้น 14 bps. มาอยุ่ที่ 3.22% ต่อปี 
          กองทุนKTFF202 เหมาะสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ในระดับปานกลาง ต้องการล็อคผลตอบแทน และโอกาสในการรับผลตอบแทนสูงกว่าเงินฝากธนาคาร โดยบุคคลธรรมดาไม่เสียภาษีหัก ณ จ่าย
          ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน
KTAM ขายตราสารหนี้ตปท.6เดือนชู1.55%ต่อปี
 
 

ข่าวธนาคารแห่งประเทศไทย+กองทุนเปิดกรุงไทยวันนี้

ฟอร์วิส มาซาร์ส ชี้ 8 แนวโน้มความเสี่ยงหลังระบบการเงินไทยเปลี่ยนแปลง

จากการที่ ธปท. ผลักดันให้มีการกำกับดูแลการใช้ AI ในภาคการเงิน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเงินของประเทศไทย ผู้ประกอบการจึงต้องจับตาและศึกษาโครงสร้างใหม่เพื่อป้องกันความเสี่ยง โดยฟอร์วิส มาซาร์ส ระบุ 8 แนวโน้มที่ต้องเฝ้าระวังหลังการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ทั้งการปรับตัวรับมือการทำงานที่ต้องมั่นใจถึงความโปร่งใส และมีจริยธรรม รวมไปถึงการเตรียมรับมือกับปัจจัยอื่นๆ นางสาวทิพวรรณ พุ่มบ้านเซ่า หุ้นส่วนสายงานด้านการตรวจสอบบัญชี ฟอร์วิส มาซาร์ส โฮลดิ้ง จำกัด เปิดเผยว่า จากการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ออกร่าง

ส.อ.ท. จับมือ ธปท. ผนึกกำลังเสริมเสถียรภาพเศรษฐกิจไทย รับมือบาทแข็ง-ภาษีสหรัฐฯ-ปัญหาสภาพคล่องธุรกิจ

วันที่ 21 ตุลาคม 2568 สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) นำโดย นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธาน ส.อ.ท. หารือความร่วมมือกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) นำโดย นายวิทัย รัตนากร ผู้ว่าการ ธปท. เพื่อสร้าง...