นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ประธานการประชุมกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก) เพื่อติดตามการแก้ไขปัญหาอุทกภัย การให้ความช่วยเหลือ และการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และเพชรบุรี เปิดเผยว่า จากสถานการณ์อุทกภัยจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคใต้ตอนล่าง ตั้งแต่วันที่ 7 – 14 พฤศจิกายน 2561 ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่งในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และเพชรบุรี กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง จากการติดตามสภาพอากาศร่วมกับกรมอุตุนิยมวิทยา และสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร (องค์การมหาชน) พบว่า หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่างมีแนวโน้มจะเคลื่อนผ่านบริเวณปลายแหลมญวนเข้าสู่อ่าวไทยและภาคใต้ ทำให้บริเวณภาคใต้มีฝนตกเพิ่มขึ้นกับมีฝนตกหนักบางพื้นที่ โดยช่วงวันที่ 14 - 17 พฤศจิกายน 2561 จะมีฝนตกร้อยละ 40 - 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนช่วงวันที่ 18 - 22 พฤศจิกายน2561 จะมีฝนตกร้อยละ 60 - 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง กอปภ.ก.จึงได้ประสาน 16 จังหวัด ประกอบด้วย ภาคกลาง 2 จังหวัด ได้แก่ ประจวบคีรีขันธ์ และเพชรบุรี ภาคใต้ 14 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดในพื้นที่เสี่ยงภัย เตรียมพร้อมรับมือ ป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย น้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก โดยจัดเจ้าหน้าที่และมิสเตอร์เตือนภัยติดตามสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด เฝ้าระวังสถานการณ์ภัยตลอด 24 ชั่วโมง และจัดเตรียมชุดเคลื่อนที่เร็ว เครื่องมืออุปกรณ์ เครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยประจำพื้นที่เสี่ยงให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัย รวมถึงการแจ้งเตือนประชาชนให้ระมัดระวังอันตรายจากสถานการณ์ภัยในช่วงฝนตกหนัก โดยดำเนินการผ่านวิทยุกระจายเสียง เสียงตามสาย หอกระจายข่าวประจำหมู่บ้าน เครือข่ายวิทยุสมัครเล่น สถานีโทรทัศน์ เคเบิ้ลทีวี สื่อสังคมออนไลน์ อีกทั้งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ พร่องน้ำ เพื่อเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัย โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงภัยของจังหวัด พื้นที่ที่เคยเกิดน้ำท่วมฉันพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม และพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญ สำหรับประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยให้ติดตามพยากรณ์อากาศและประกาศ เตือนภัยอย่างใกล้ชิด พร้อมปฏิบัติตามคำเตือนอย่างเคร่งครัด หมั่นสังเกตสัญญาณความผิดปกติทางธรรมชาติ จะได้อพยพหนีภัยทันท่วงที ทั้งนี้ ประชาชนที่ประสบสาธารณภัยสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง
NT หนุนพัฒนาระบบแจ้งเตือนภัยแห่งชาติ "T-Alert" ยกระดับความปลอดภัยประชาชนทั่วประเทศ
เฝ้าระวังน้ำหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขัง น้ำล้นตลิ่ง และระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา
SAM ห่วงใยลูกหนี้ ออกมาตรการเร่งด่วนครอบคลุมทุกกลุ่ม ทั้งผู้ประสบสาธารณภัยพายุ "วิภา" พักเงินต้นและดอกเบี้ยสูงสุด 3 เดือน ส่วนผู้เป็นหนี้เสียบัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล จัดดอกเบี้ยต่ำ 3-5% ผ่อนยาว 10 ปี เพื่อส่งมอบโอกาสเพื่อคนไทยเริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืน
มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จับมือ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ลงนามบันทึกความเข้าใจ ยกระดับ MOU ร่วมให้ความรู้
NT พร้อมแจ้งเตือนภัยผ่าน Cell Broadcast หลังการทดสอบประสบผลสำเร็จ ได้รับข้อความแจ้งเตือนภัยรวดเร็ว แม่นยำ
ชาวเชียงใหม่ อยุธยา อุดรฯ นครศรีฯ และกรุงเทพฯ เตรียมตัวให้พร้อม!
NT ร่วม ปภ. ทดสอบระบบ Cell Broadcast ในพื้นที่ครั้งแรก แจ้งผลมีประสิทธิภาพ รวดเร็ว ครอบคลุม เสริมความพร้อมระบบเตือนภัยแห่งชาติ
NT ยืนยันความพร้อม ร่วมทดสอบระบบแจ้งเตือนภัย Cell Broadcast ในพื้นที่จริง
ชไนเดอร์ อิเล็คทริค แนะ 7 วิธี เช็กระบบไฟฟ้า เพิ่มความปลอดภัย รับมือหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์