นางอัมพวัน พิชาลัย ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ กล่าวว่า "ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ หรือ SACICT เห็นถึงคุณค่าในตัวบุคคลผู้อนุรักษ์และสืบสานงานศิลปหัตถกรรมไทยมาอย่างยาวนาน ด้วยความอุตสาหะ รักษาคุณค่าภูมิปัญญาดั้งเดิมในศาสตร์และศิลป์เชิงช่าง ด้วยความหวงแหนในสมบัติของบรรพบุรุษ ซึ่งงานหัตถกรรมบางประเภทก็มีแนวโน้มที่จะสูญหายไปจากวิถีชีวิตและสังคมไทยในปัจจุบัน บางประเภทก็นับวันเหลือผู้ที่สนใจสืบสานงานฝีมือเชิงช่างน้อยลงไปทุกที SACICT จึงให้ความสำคัญกับการที่จะอนุรักษ์ รักษาคุณค่าภูมิปัญญา ทักษะฝีมือและองค์ความรู้เชิงช่างที่อยู่ในตัวบุคคล ที่ถือได้ว่าเป็นสมบัติอันมีค่าที่สุดเหล่านี้ ไม่ให้สูญหายไปตามกาลเวลา และส่งต่อไปถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน คนรุ่นหลังได้เห็นคุณค่า เกิดเป็นแรงบันดาลใจในการช่วยกันอนุรักษ์ รักษา สืบสานต่อ ในขณะเดียวกัน ก็ส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาต่อยอดผสมผสานด้วยภูมิปัญญาดั้งเดิม และแนวคิดเชิงสร้างสรรค์ พัฒนาต่อยอดสู่ความร่วมสมัยและสมัยนิยมอันจะนำไปสู่การสร้างโอกาสทางการตลาดในเชิงพาณิชย์ต่อไปได้และด้วยความสำคัญนี้ SACICT จึงมีการดำเนินกิจกรรมคัดสรร และเชิดชูเกียรติบุคคลที่ทรงคุณค่าเหล่านี้ใน 3 สถานะ ประกอบด้วย"ครูศิลป์ของแผ่นดิน""ครูช่างศิลปหัตถกรรม" และ "ทายาทช่างศิลปหัตถกรรม" ซึ่งดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ปี 2552 เป็นต้นมา
สำหรับการเตรียมการสรรหาบุคคลเพื่อที่จะเชิดชูเป็น "ครูศิลป์ของแผ่นดิน" "ครูช่างศิลปหัตถกรรม" และ "ทายาทช่างศิลปหัตถกรรม" ในปี 2562 นี้ ให้ความสำคัญกับกระบวนการเพื่อให้ได้มาซึ่งบุคคลที่ถือเป็นสุดยอดฝีมือ ได้เริ่มจากการสรรหาบุคคลจากทั่วประเทศ เป็นที่น่ายินดีในปีนี้ มีจำนวนผู้ที่เสนอชื่อเข้าร่วมการคัดสรรทั้ง 3 ประเภทบุคคลจากทั่วประเทศมากกว่า 300 ราย ในหลากหลายประเภทผลงานศิลปหัตถกรรม เช่น เครื่องทอ เครื่องกระดาษ เครื่องไม้ เครื่องดิน เครื่องโลหะ เครื่องจักสาน เป็นต้น แต่ละคนล้วนแล้วมีผลงานที่น่าสนใจทั้งสิ้น ทั้งนี้การพิจารณาคัดสรรบุคคลที่สมควรได้รับการเชิดชูเกียรติเป็น "ครูศิลป์ของแผ่นดิน" "ครูช่างศิลปหัตถกรรม" และ "ทายาทช่างศิลปหัตถกรรม" ประจำปี 2562นั้น จะพิจารณาโดยคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ที่มีการแต่งตั้งจากผู้ทรงคุณวุฒิ และผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญในงานศิลปหัตถกรรมหลากหลายแขนง และในแต่ละปีคณะกรรมการ จะทำงานกันอย่างหนักมาก เพื่อร่วมพิจารณาคัดสรรบุคคลผู้มีฝีมือ โดยจะให้ความสำคัญในเรื่องของบุคคลผู้มีทักษะฝีมือ และผู้ที่เปี่ยมด้วยองค์ความรู้ภูมิปัญญาที่สะท้อนผ่านผลงานอันทรงคุณค่า งดงาม น่าประทับใจ ที่เป็นที่สุดของงานแขนงนั้นๆ จริงๆ โดยผู้ที่ได้รับการคัดสรรเป็นที่สุดของสุดยอดฝีมือแล้ว SACICT จะประกาศเชิดชูเกียรติ พร้อมทั้งนำผลงานที่สะท้อนตัวตนของผู้ได้รับการเชิดชูทุกท่าน นำมาจัดแสดงให้ได้ชื่นชมภายในงาน "อัตลักษณ์แห่งสยาม ครั้งที่ 10" ประจำปี 2562 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 31มกราคม ถึงวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ "
ผู้สนใจสามารถพบกับสุดยอดผลงาน พร้อมกับสุดยอดฝีมือของบุคคลที่ได้รับการเชิดชูเป็น "ครูศิลป์ของแผ่นดิน" "ครูช่างศิลปหัตถกรรม" และ "ทายาทช่างศิลปหัตถกรรม" ประจำปี 2562 ภายในงาน "อัตลักษณ์แห่งสยาม ครั้งที่ 10" ระหว่างวันที่ 31 มกราคม ถึงวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2562 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ หรือสนใจติดตามได้ที่ www.sacict.or.th และhttps://www.facebook.com/sacict/
จุรินทร์เตรียมดันไทยเป็น Art & Crafts Hub ของอาเซียนเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
SACICT ก้าวสู่ปีที่ 18 สืบสาน รักษา และต่อยอดคุณค่าในงานศิลปาชีพและหัตถกรรมไทย
SACICT เปิดรันเวย์โชว์ 50 ผลงาน รอบชิงชนะเลิศ SACICT AWARD 2020
คัดเลือก 50 ผลงาน “ผ้าไทยใส่ได้ทุก GEN”สู่รันเวย์รอบชิงชนะเลิศ
SACICT เดินหน้าสืบสานพระราชณิธาน ส่งเสริม คุณค่าความเป็นไทย จัด กิจกรรมเสวนาและประชุมวิชาการด้านศิลปหัตถกรรม วิทยากรคนดังตบเท้าร่วมเสวนาคับคั่ง
เซ็นทรัลพัฒนา เชิดชูหัตถศิลป์ไทยร่วมสมัยสุดเลอค่า จับมือศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน) หรือ SACICT จัดงาน “SACICT เพลินคราฟต์”
ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศพร้อมจัดงาน SACICT Craft Trend Show 2020 จากงานหัตถศิลป์สู่งานนวัตศิลป์ร่วมสมัย
SACICT จัด “SACICT Craft Fair 2020” เสิร์ฟหัตถกรรมร่วมสมัย บุกหัวเมืองโคราช
ศ.ศ.ป. จัดแสดงผลงาน “หัตถกรรมชั้น “ครู” ที่ใกล้สูญหาย” หวังให้มีการ รื้อฟื้น และสืบสาน ก่อนสูญหายไปจากแผ่นดิน