เริ่มต้นกันที่องค์กรประเภทรัฐวิสาหกิจ โดย 5 สวัสดิการแรกที่องค์ประเภทนี้ได้จัดสรรให้กับพนักงาน ได้แก่ 1.โบนัส 2.ตรวจสุขภาพประจำปี 3.ค่ารักษาพยาบาลบุคคลในครอบครัว 4.เงินกู้ยืม 5.ค่าล่วงเวลา สำหรับสวัสดิการที่โดดเด่นขององค์กรประเภทรัฐวิสาหกิจ คือ สวัสดิการด้านสุขภาพ เนื่องจากเป็นองค์กรที่รัฐบาลถือหุ้นเป็นส่วนใหญ่จึงมีการจัดสรรสวัสดิการเกี่ยวกับการเสริมสร้างสุขภาพเช่นเดียวกับหน่วยงานราชการ ซึ่งสวัสดิการด้านสุขภาพนี้สามารถดึงดูดให้คนอยากเข้ามาทำงานในองค์กรประเภทนี้ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีสวัสดิการที่น่าสนใจอย่างรางวัลพนักงานดีเด่นประจำปี ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้พนักงาน มีการพัฒนาประสิทธิภาพการทำงานอยู่เสมอ ขณะที่พนักงานในองค์กรประเภทนี้ได้ให้ความสำคัญกับวันหยุด-วันลา ตามกฎหมายกำหนด, โบนัส, ประกันสุขภาพ, ประกันสังคม และค่ารักษาพยาบาลบุคคลในครอบครัว ตามลำดับ
ต่อกันที่องค์กรประเภทเอกชนไทย องค์กรประเภทนี้ถือเป็นองค์กรที่มีการแข่งขันในการสรรหาบุคลากรค่อนข้างสูง จึงได้ให้ความสำคัญกับเรื่องสวัสดิการของพนักงานเป็นอย่างมาก โดย 5 สวัสดิการแรกที่องค์ประเภทนี้ได้จัดสรรให้กับพนักงาน ได้แก่ 1.โบนัส 2.ค่าล่วงเวลา 3.เงินช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาล 4.เบี้ยขยัน 5.เงินสนับสนุน เช่น งานแต่งงาน งานอุปสมบท นอกจากนี้ยังมีการจัดสรรสวัสดิการที่โดดเด่นจากองค์กรประเภทอื่น ๆ เช่น จัดคอร์สอบรมและพัฒนาความรู้ให้แก่พนักงานภายในออฟฟิศ ซึ่งการสนับสนุนดังกล่าวจะช่วยให้พนักงานมีประสิทธิภาพในการทำงานมากขึ้น และยังสามารถมัดใจให้บุคลากรที่มีศักยภาพอยู่กับองค์กรไปนาน ๆ ด้วย ในขณะที่พนักงานขององค์กรเอกชนไทยได้ให้ความสำคัญกับสวัสดิการด้านวันหยุด-วันลา ตามกฎหมายกำหนด, โบนัส, ประกันสังคม, ประกันสุขภาพ และค่าล่วงเวลา ตามลำดับ
ส่วนองค์กรประเภทเอกชนต่างชาติ ได้มีการจัดสรรสวัสดิการให้กับพนักงานอย่างรอบด้าน ได้แก่ 1.โบนัส 2.สถานที่ออกกำลังกายภายในออฟฟิศ 3.ห้องรักษาพยาบาลเบื้องต้นภายในออฟฟิศ 4.ส่งพนักงานไปอบรมหรือศึกษาดูงานต่างประเทศ 5. เงินกู้ยืม ด้วยความที่องค์กรต้องมีการติดต่อสื่อสารกับต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้นสวัสดิการเด่นขององค์กรประเภทนี้ก็คือการส่งพนักงานไปอบรมหรือศึกษาดูงานต่างประเทศ ซึ่งถือเป็นสวัสดิการที่ช่วยพัฒนาศักยภาพของพนักงานเพื่อนำมาปรับใช้กับการทำงานได้เป็นอย่างดี ส่วนพนักงานในองค์กรประเภทนี้ได้ให้ความสำคัญกับโบนัส, วันหยุด-วันลา ตามกฎหมายกำหนด, ประกันสุขภาพ, ประกันสังคม และค่ารักษาพยาบาลบุคคลในครอบครัว ตามลำดับ
ปิดท้ายด้วยองค์กรประเภทสตาร์ทอัพ (Startup) แน่นอนว่าเป็นองค์กรประเภทใหม่ที่เพิ่งเกิดขึ้นได้ไม่นาน ส่วนใหญ่จะต้องทำงานที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีหรือนวัตกรรม ดังนั้นกลุ่มคนทำงานในองค์กรประเภทนี้ส่วนใหญ่จะเป็นคนรุ่นใหม่ที่มีแนวคิดหรือวิธีการทำงานที่ไม่ยึดติดกับรูปแบบเดิม ๆ โดยองค์กรประเภทสตาร์ทอัพ (Startup) ได้มีการจัดสรร 5 สวัสดิการแรกให้กับพนักงาน ได้แก่ 1.โบนัส 2.วันหยุด-วันลา ตามกฎหมายกำหนด 3.เบี้ยขยัน 4.ประกันสังคม 5.กิจกรรมสันทนาการ ซึ่งอาจจะไม่ได้แตกต่างกับองค์กรประเภทอื่น แต่ที่โดดเด่นคือมีการจัดสรรสวัสดิการในเรื่องเวลาทำงานที่ยืดหยุ่นได้ (Flexible Hour) รวมถึงมีสวัสดิการเกี่ยวกับพื้นที่สันทนาการในออฟฟิศให้พนักงานได้พักผ่อนหย่อนใจในระหว่างการทำงาน อาทิ พื้นที่เล่นเกม เล่นกีฬา และเล่นดนตรี เป็นต้น ซึ่งสอดคล้องกับการสำรวจของฝั่งพนักงานที่ทำงานในองค์กรประเภทนี้ พบว่าพวกเขาให้ความสำคัญในเรื่องเวลาทำงานที่ยืดหยุ่นได้ (Flexible Hour) มาเป็นอันดับแรก เพราะกลุ่มคนรุ่นใหม่มองว่าโลกปัจจุบันที่ไร้พรมแดนทั้งด้านการสื่อสาร เวลา และสถานที่ ทำให้สามารถทำงานและมีชีวิตส่วนตัวที่สมดุลกันได้ โดยเน้นที่ประสิทธิภาพของตัวงานมากกว่าการกำหนดเวลาเข้า-ออกงาน นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับสวัสดิการด้านโบนัส, วันหยุด-วันลา ตามกฎหมายกำหนด, ประกันสุขภาพ และการทำงานที่ไม่ต้องเข้าออฟฟิศ (Mobile Working) ตามลำดับ
จากผลสำรวจข้างต้นจะเห็นว่าความต้องการด้านสวัสดิการจากฝั่งพนักงานทั้ง 4 ประเภทองค์กรนั้น สวัสดิการเรื่องโบนัส และวันหยุด-วันลาตามกฎหมายกำหนด ยังคงเป็นสวัสดิการที่คนทำงานทุกองค์กรให้ความสำคัญมาเป็นอันดับต้น ๆ และอีกหนึ่งสวัสดิการที่คนทำงานทุกประเภทองค์กรต้องการเหมือนกัน ได้แก่ สวัสดิการด้านสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นประกันสุขภาพ ประกันสังคม ประกันอุบัติเหตุ สืบเนื่องจากคนทำงานส่วนใหญ่ใช้เวลาอยู่ในที่ทำงานไม่ต่ำกว่า 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ทำให้คนทำงานอาจมีพฤติกรรมต่าง ๆ ที่เสี่ยงต่อการเกิดปัญหาด้านสุขภาพได้ เช่น การทานอาหารที่ไม่เหมาะสม ตลอดจนความเครียดที่เกิดจากการทำงาน ดังนั้นการดูแลสุขภาพของคนทำงานจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ นอกจากนี้หากองค์กรสามารถจัดสรรสวัสดิการที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของคนทำงานในยุคปัจจุบันได้ ก็จะช่วยดึงดูดให้คนอยากเข้ามาทำงานกับองค์กร และยังช่วยให้พนักงานมีความสุขในการทำงาน ซึ่งจะส่งผลต่อประสิทธิภาพในการทำงานของพนักงานที่ดีขึ้นได้อีกด้วย
ทั้งนี้ จ๊อบไทยยังมีบทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจและเป็นประโยชน์ต่อคนทำงานอีกมากมาย โดยผู้สนใจสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.jobthai.com
UBiofresh จัดงานสัมมนาเผยแพร่ความรู้เรื่องผิว ชูคอนเซ็ปต์ PERFECT TOGETHER
เทลสกอร์ ร่วมกับ เดอะมอลล์ ประกาศผล สุดยอดอินฟลูเอนเซอร์แห่งปี ชี้คอนเทนต์ ครีเอเตอร์ ก้าวทัน แพลตฟอร์มใหม่ เน้นสนุก เนื้อหาแน่น ทัชใจ
เทลสกอร์ ร่วมกับ เดอะมอลล์ ประกาศผล สุดยอดอินฟลูเอนเซอร์แห่งปี
เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ เอาใจสายเที่ยวสายชิลชวนมางาน ทอล์กเที่ยวไต้หวัน ตะลอนกันรอบเกาะ
Jim Thompson X GroundPLAY ร่วมเปิดประสบการณ์บรันช์สุดครีเอต ที่งาน GroundPLAY 2023
เจาะลึกเส้นทางสายไหม: บล็อกเกอร์ทั่วโลกสัมผัสประสบการณ์โครงการรถไฟของจีน
โซแคล นำบรรยากาศสังสรรค์ในสไตล์แคลิฟอร์เนียสุดชิลล์มาสู่กรุงเทพฯ
แอปฯ Blockdit ปล่อยแคมเปญ "ลาออกไปเช็กอิน" ชวนบล็อกเกอร์สร้างคอนเทนต์ท่องเที่ยว ลุ้นรับรางวัลเงินเดือน 200,000 บาท