ฟิทช์คงอันดับเครดิตของ 5 สถาบันการเงินไทยที่มิใช่ธนาคารซึ่งเป็นบริษัทลูกของสถาบันการเงินต่างประเทศ

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

           ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) ประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของสถาบันการเงินที่มิใช่ธนาคารในประเทศไทย 5 แห่งที่เป็นบริษัทลูก (subsidiary) ของสถาบันการเงินต่างประเทศดังนี้ 
          -บริษัท อีซี่ บาย จำกัด (มหาชน) หรือ EB ที่ 'AA+(tha)' 
          - บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด หรือ MBKET ที่ 'AA+(tha)' 
          -บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด หรือ YSTH ที่ 'AA(tha)' 
          -บริษัทหลักทรัพย์โนมูระพัฒนสิน จำกัด (มหาชน) หรือ CNS ที่ 'AA(tha)' 
          -บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด หรือ CGS-CIMB TH ที่ 'A(tha)'

          โดยทั้ง 5 บริษัทมีแนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
          พร้อมกันนี้ฟิทช์ได้ประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของหุ้นกู้มีผู้ค้ำประกันสกุลเงินบาทของ บริษัท ไทยโอ-ริกซ์ ลีสซิ่ง จำกัด (หรือ TOLC) ที่ 'AAA(tha)' แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ 

          สำหรับรายละเอียดของอันดับเครดิตทั้งหมดแสดงไว้ในส่วนท้าย
          ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต – อันดับเครดิตภายในประเทศและอันดับเครดิตของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ
          อันดับเครดิตของ EB, MBKET, YSTH, CNS และ CGS-CIMB TH พิจารณาจากมุมมองของฟิทช์ว่าบริษัทเหล่านี้น่าจะได้รับการสนับสนุนจากบริษัทแม่ของแต่ละบริษัท ซึ่งคือ ACOM CO., LTD. (ACOM; A-/แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ), และ Malayan Banking Berhad (Maybank, A-/แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ), Yuanta Financial Holdings (YFHC; BBB+/แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ) และ Nomura Holdings Inc. (NHI; A-/แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ/อันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน (Viability Rating) ที่ bbb+) และ CGS-CIMB International Securities Pte Ltd. หรือ CGS-CSI 

          ฟิทช์มองว่า EB MBKET YSTH และ CNS มีความสำคัญในเชิงกลยุทธ์ต่อบริษัทแม่ มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนนโยบายในภูมิภาคของกลุ่มและมีโอกาสได้รับประโยชน์จากการการดำเนินงานร่วมกันกับบริษัทแม่ (synergy) นอกจากนี้บริษัทแม่ (หรือธนาคารแม่) ยังเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัทเหล่านี้และมีอำนาจควบคุมการบริหารงานในบริษัทลูก โดยการผสานการดำเนินงานอย่างใกล้ชิดกันกับกลุ่ม (integration) และมีการให้การสนับสนุนด้านการเงินแก่บริษัทลูกมาอย่างต่อเนื่อง

          ฟิทช์มองว่า CGS-CIMB TH มีสถานะเป็นบริษัทลูกหลัก (core subsidiary) ของบริษัทแม่ (CGS-CSI) เนื่องจากบริษัทมีบทบาทสำคัญต่อบริษัทแม่ในฐานะที่เป็นบริษัทลูกที่ใหญ่เป็นลำดับที่ 2 ของกลุ่ม อีกทั้งยังมีความสำคัญต่อเครือข่ายทางธุรกิจของ CGS-CSI นอกจากนี้ CGS-CSI ยังถือหุ้นเกือบทั้งหมดในบริษัทและยังมีการใช้ชื่อและสัญญลักษณ์ทางการค้าร่วมกันกับ บริษัทแม่ด้วย ทั้งนี้ความสามารถของ CGS-CSI ที่จะให้การสนับสนุนแก่ CGS-CIMB TH นั้นจะมาจากบริษัทแม่ระดับสูงสุดของกลุ่มซึ่งคือ China Galaxy Securities Co., Ltd. (CGS) ซึ่งมีโครงสร้างเครดิตที่พิจารณาจากโอกาสในการได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจีน
          อันดับเครดิตภายในประเทศของ CNS พิจารณาจากอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของ NHI แทนที่จะเป็นอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาว (Long-Term Foreign Currency Issuer Default Rating) เนื่องจากอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของ NHI มีปัจจัยสนับสนุนมาจากการคาดการณ์ของฟิชท์ว่า NHI จะได้รับการสนับสนุนเป็นพิเศษนอกเหนือจากการดำเนินงานตามปกติจากรัฐบาลญี่ปุ่น (A/แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถีรภาพ) ในกรณีที่มีความจำเป็นเนื่องจาก NHI มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจและการเงินของประเทศญี่ปุ่น และฟิทช์เชื่อว่าการสนับสนุนจากรัฐบาลญี่ปุ่นที่ระดับบริษัทแม่ อาจจะไม่ครอบคลุมมาถึง CNS ซึ่งไม่ได้มีสถานะเป็นบริษัทลูกหลัก
          ฟิทช์ให้อันดับเครดิตของตราสารหนี้ไม่ด้อยสิทธิและไม่มีหลักประกันของ EB ที่ระดับเดียวกันกับอันดับเครดิตภายในประเทศของบริษัท ซึ่งสอดคล้องกับเกณฑ์ในการจัดอันดับเครดิตของฟิทช์
          อันดับเครดิตโครงการหุ้นกู้ระยะสั้นของ CNS และ YSTH อยู่ในระดับเดียวกันกับอันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นของ ทั้ง 2 บริษัท เนื่องจากหุ้นกู้ดังกล่าวเป็นภาระผูกพันที่ไม่ด้อยสิทธิและไม่มีหลักประกันของบริษัท

          ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต – อันดับเครดิตของหุ้นกู้มีผู้ค้ำประกัน
          อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของหุ้นกู้มีผู้ค้ำประกันของ TOLC พิจารณาจากการได้รับการค้ำประกันในลักษณะไม่มีเงื่อนไขและไม่สามารถเพิกถอนการค้ำประกันจากบริษัทแม่ซึ่งคือ ORIX Corporation ประเทศญี่ปุ่น (ORIX: 'A-'/แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ) ทั้งนี้อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของ ORIX ที่ 'A-' อยู่ในระดับที่สูงกว่าอันดับเครดิตสากลสกุลเงินในประเทศระยะยาว (Long-Term Local-Currency IDR) ของประเทศไทยที่ 'BBB+' และสอดคล้องกับระดับอันดับเครดิตภายในประเทศไทยที่สูงที่สุด ซึ่งคือ 'AAA(tha)'

          ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต – อันดับเครดิตของหุ้นกู้ด้อยสิทธิ
          ฟิทช์ให้อันดับเครดิตภายในประเทศของหุ้นกู้ด้อยสิทธิของ MBKET และ YSTH ต่ำกว่าอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของบริษัทแต่ละบริษัทอยู่ 1 อันดับ เนื่องจากหุ้นกู้ดังกล่าวมีความเสี่ยงของการขาดทุนจากการชำระคืนเงินกู้ (loss severity risks) มากกว่าเมื่อเทียบกับตราสารหนี้ที่ไม่ด้อยสิทธิซึ่งมีลำดับการชำระหนี้ก่อน นอกจากนี้อันดับเครดิตยังสะท้อนถึงการที่หุ้นกู้ด้อยสิทธิดังกล่าวไม่มีคุณสมบัติรองรับผลขาดทุนระหว่างการดำเนินกิจการ (going-concern loss absorption features) และไม่มีคุณสมบัติการแปลงเป็นทุน (equity conversion) 

          ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต – อันดับเครดิตภายในประเทศ และอันดับเครดิตของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ
          อันดับเครดิตภายในประเทศของ MBKET, EB YSTH CNS และCGS-CIMB TH อาจได้รับผลกระทบในทิศทางเดียวกันกับการเปลี่ยนแปลงของมุมมองของฟิทช์ต่อโครงสร้างเครดิตของบริษัทแม่แต่ละแห่ง

          ฟิทช์อาจทำการปรับลดอันดับเครดิตหากฟิทช์เชื่อว่าโอกาสที่บริษัทแม่จะให้การสนับสนุนแก่บริษัทลูกมีการปรับตัวลดลง เช่น หากมีการลดสัดส่วนการถือหุ้น ลดระดับความเชื่อมโยงด้านการเงิน หรือลดระดับการควบคุมด้านการบริหารจัดการ ในทางกลับกันสำหรับ MBKET EB YSTH และ CNS ฟิทช์อาจปรับเพิ่มอันดับเครดิตของบริษัทลูกเหล่านี้ หากบริษัทลูกสามารถเพิ่มสัดส่วนการทำกำไรให้กับกลุ่มจนส่งผลให้มีบทบาทในเชิงกลยุทธ์เพิ่มขึ้นในกลุ่ม 
          การเปลี่ยนแปลงของอันดับเครดิตภายในประเทศของ EB YSTH และ CNS อาจส่งผลกระทบไปในทิศทางเดียวกันต่ออันดับเครดิตของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ
          ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต –อันดับเครดิตของหุ้นกู้มีผู้ค้ำประกัน
อันดับเครดิตของหุ้นกู้มีผู้ค้ำประกันของ TOLC เป็นอันดับเครดิตที่สูงที่สุดสำหรับอันดับเครดิตภายในประเทศแล้วจึงไม่สามารถปรับเพิ่มอันดับได้อีก ฟิทช์อาจปรับลดอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของหุ้นกู้มีผู้ค้ำประกันของ TOLC หากอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของ ORIX ปรับลดลงมาอยู่เท่ากับหรือต่ำกว่าอันดับเครดิตสากลสกุลเงินในประเทศระยะยาวของประเทศไทย ซึ่งอาจเกิดขึ้นจากการปรับลดอันดับเครดิตของ ORIX หรือการปรับเพิ่มอันดับเครดิตของประเทศไทย 
          ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต –อันดับเครดิตของหุ้นกู้ด้อยสิทธิ
          การเปลี่ยนแปลงของอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว (National Long-Term Rating) ของ MBKET และ YSTH น่าจะส่งผลกระทบในทิศทางเดียวกันกับอันดับเครดิตของหุ้นกู้ด้อยสิทธิของบริษัททั้ง 2 แห่ง
          รายละเอียดของอันดับเครดิตมีดังต่อไปนี้:
          MBKET:
          - อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวคงอันดับที่ 'AA+(tha)'; แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
          - อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นคงอันดับที่ 'F1+(tha)'
          - อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของหุ้นกู้ด้อยสิทธิสกุลเงินบาทคงอันดับที่ 'AA(tha)'

          EB:
          - อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวคงอันดับที่ 'AA+(tha)'; แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
          - อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นคงอันดับที่ 'F1+(tha)'
          - อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของหุ้นกู้ ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันคงอันดับที่ 'AA+(tha)'
          YSTH:
          - อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวคงอันดับที่ 'AA(tha)'; แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
          - อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นคงอันดับที่ 'F1+(tha)'
          - อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นของโครงการหุ้นกู้ระยะสั้น ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันคงอันดับที่ 'F1+(tha)'
          - อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของหุ้นกู้ด้อยสิทธิสกุลเงินบาทคงอันดับที่ 'AA-(tha)'
          - อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของหุ้นกู้ด้อยสิทธิสกุลเงินเหรียญสหรัฐฯ คงอันดับที่ 'AA-(tha)'

          CNS:
          - อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวคงอันดับที่ 'AA(tha)'; แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
          - อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นคงอันดับที่ 'F1+(tha)'
          - อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นของโครงการหุ้นกู้ระยะสั้น ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันคงอันดับที่ 'F1+(tha)'

          CGS-CIMB TH
          - อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวคงอันดับที่ 'A(tha)'; แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
          - อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นปรับคงอันดับที่ 'F1(tha)'

          TOLC
          -อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของหุ้นกู้ค้ำประกันโดย ORIX คงอันดับที่ 'AAA(tha)'; แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
 
 
 

ข่าวหลักทรัพย์ ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี+หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็งวันนี้

MMM 23 เปิดเทรดกระดาน LiVEx วันแรก ราคาพุ่งเหนือจอง 34%

นายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ไลฟ์เอ็กซ์เช้นจ์ (LiVEx) ถ่ายภาพร่วมกับ นางสาวณิชา โรจน์วัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอ็มเอ็มเอ็ม แคปปิตอล (MMM23) พร้อมด้วยนางสาวเดือนพรรณ ลีลาวิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไพโอเนีย แอดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และนางสาววีรยา ศรีวัฒนะ หัวหน้าฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญ เนื่องในโอกาสการเปิดการซื้อขายเป็นวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ไลฟ์เอ็กซ์เช้นจ์ของ

บริษัท วินโดว์ เอเชีย จำกัด (มหาชน) (WIND... WINDOW ปิดจอง IPO 244.2 ล้านหุ้น ขายเกลี้ยง ฤกษ์ดีเข้าเทรดกระดาน SET เดือน ต.ค. นี้ — บริษัท วินโดว์ เอเชีย จำกัด (มหาชน) (WINDOW) พร้อมเดินหน้าลั่นระฆังเ...

คุณธนินทร์ รัตนศิริวิไล กรรมการบริหาร และ... WINDOW โรดโชว์ นำเสนอข้อมูลธุรกิจ - เดินหน้าเข้า SET เร็วๆ นี้ — คุณธนินทร์ รัตนศิริวิไล กรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และคุณภาทินันท์ ตันติวาส...

คุณอภิรุม ปัญญาพล ประธานกรรมการ คุณวิพงษ์... WINDOW แต่งตั้งผู้จัดจำหน่ายไอพีโอ เคาะราคา 2.10 บาท/หุ้น เทรด SET เร็วๆ นี้ — คุณอภิรุม ปัญญาพล ประธานกรรมการ คุณวิพงษ์ รัตนศิริวิไล กรรมการ คุณธนินทร์ ร...

รางวัลจากอัลฟา เซาธ์อีสต์ เอเชีย และไฟแนน... บริษัทหลักทรัพย์ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบีกวาด 7 รางวัล ตอกย้ำความเป็นผู้นำในตลาดอย่างต่อเนื่อง — รางวัลจากอัลฟา เซาธ์อีสต์ เอเชีย และไฟแนนซ์เอเชีย ตอกย้ำการยึดมั...

นายภูดินันท์ เศรษฐนันท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้... CIMB Thai ส่ง campaign ผลตอบแทนพิเศษ 7-14% กับ Equity Linked Noted เครื่องมือการลงทุนสู้เงินเฟ้อ — นายภูดินันท์ เศรษฐนันท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้...