
โดยระบบ AOC มีระบบการทำงานที่สามารถให้แพทย์ฉุกเฉินหนึ่งคนสามารถช่วยชีวิตผู้ป่วยได้มากขึ้นกว่าเดิม โดยเจ้าหน้าที่บนรถสามารถปรึกษาอาการกับแพทย์ที่โรงพยาบาลปลายทาง ผ่านระบบการสื่อสารด้วยภาพและเสียงแบบต่อเนื่อง (real time) ทำให้สามารถทำการรักษาระหว่างนำส่งได้ รวมทั้งโรงพยาบาลจะสามารถเตรียมการรักษาอย่างตรงอาการได้อย่าทันท่วงที ช่วยลดอัตราการเสียชีวิตระหว่างนำส่ง ส่วนบุคลาการทางการแพทย์เองก็เกิดความปลอดภัยระหว่างปฏิบัติงานมากขึ้น เนื่องจากระบบ AOC มีระบบติดตามรถพยาบาลที่ทำให้ศูนย์สั่งการสามารถเห็นการเคลื่อนไหวได้ตลอดเวลา ทั้งยังจำกัดความเร็วของรถพยาบาล เพื่อลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุ หรือหากเกิดเหตุเฉินกับรถพยาบาล ก็จะสามารถเข้าช่วยเหลือได้ทันที
"ก่อนที่เชียงรายจะตัดสินใจนำระบบ AOC มาใช้กับรถพยาบาลทั้งจังหวัด เราทดลองใช้ระบบอยู่ปีกว่าๆ เพื่อให้มั่นใจว่าระบบนี้สามารถตอบโจทย์งานเวชศาสตร์ฉุกเฉินได้อย่างเกิดประโยชน์จริงๆ ซึ่งหลังจากทดลองใช้จนมั่นใจแล้ว จึงได้อนุมัติงบประมาณในการติดตั้ง โดยระบบ AOC สามารถตอบโจทย์ได้ครบ คือ ต้องสามารถมองเห็นอาการทุกอย่างของคนไข้บนรถพยาบาลได้ เพื่อให้หมอวินิจฉัยและให้คำปรึกษาได้ถูกจุด ระบบติดตามรถพยาบาลต้องแม่นยำ เพื่อให้สามารถรู้ตำแหน่ง เวลาที่จะมาถึง และทราบความเร็วของรถได้ ในส่วนของการสื่อสารต้องไม่ติดขัด แม้ในพื้นที่ป่าเขา และสุดท้ายคือราคาต้องไม่สูงมาก อยู่ในระดับที่งบประมาณภาครัฐจะจ่ายได้ โดยการติดตั้งระบบ AOC ทั้งในส่วนของจังหวัดเชียงรายและพะเยานั้น ใช้งบประมาณไปประมาณ 23 ล้านบาท ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากโครงการก้าวคนละก้าว"
นายแพทย์เกรียงศักดิ์ กล่าวต่อว่า หลังจากติดตั้งระบบมาไประมาณ 6 เดือน พบว่าแพทย์สามารถให้การรักษาผู้ป่วยได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ที่เห็นชัดเจนคือย่นระยะเวลาในการรักษาได้เร็วยิ่งขึ้น เพราะมีการประสานงานมาก่อนตั้งแต่จุดเกิดเหตุและสามารถวินิจฉัยได้ตั้งแต่นอกโรงพยาบาล พอมาถึงโรงพยาบาลก็สามารถนำผู้ป่วยเข้ารักษาตามอาการได้เลย ไม่ต้องมาเริ่มนับหนึ่งใหม่ เช่น กรณีคนไข้หัวใจขาดเลือด เมื่อแพทย์สามารถวินิจฉัยได้ตั้งแต่ก่อนมาถึงโรงพยาบาลว่าผู้ป่วยมีอาการหัวใจขาดเลือดฉับพลัน ก็สามารถให้แพทย์เฉพาะทางด้านโรคหัวใจมาให้คำปรึกษาได้แบบทันที พอมาถึงห้องฉุกเฉินก็สามารถฉีดยาละลายลิ่มเลือดได้เลย ช่วยให้ผู้ป่วยรอดชีวิตในนาทีวิกฤติได้
นอกจากนี้ จากการปฏิบัติงานยังพบแนวโน้วการเสียชีวิตระหว่างนำส่งนั้นลดลง จากที่ปกติแล้วอยู่ที่ประมาณปีละ 20 คน ขณะนี้เฉลี่ยอยู่ที่เดือนละ 1 คน คาดว่าครบ 1 ปีน่าจะมีอัตราผู้ป่วยเสียชีวิตขณะนำส่งไม่เกิน 15 คน แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยด้านอื่นๆ ด้วย ซึ่งทางจังหวัดจะคอยตรวจสอบและเก็บข้อมูลอย่างใกล้ชิด เพื่อเป็นแนวทางให้โรงพยาบาลในจังหวัดอื่นๆต่อไปได้
สำหรับระบบการบริหารจัดการรถพยาบาลแบบรวมศูนย์ (Ambulance Operation Center) หรือ AOC เป็นระบบที่พัฒนาโดยทีมผู้ชำนาญการด้านการแพทย์ฉุกเฉินของไทย ร่วมกับ บริษัท เทลลี่ 360 จำกัด ซึ่งใช้เวลากว่า 2 ปี เพื่อคิดค้นระบบที่สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและลดอัตราการเสียชีวิตของประชาชน โดยหัวใจของระบบนี้ คือ สร้างสมองของแพทย์ให้อยู่ในรถพยาบาลทุกคัน และให้แพทย์ฉุกเฉินหนึ่งคนสามารถช่วยชีวิตผู้ป่วยได้มากขึ้นกว่าเดิม

