นายพิสิฐ รังสฤษฎ์วุฒิกุล ผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ เปิดเผยว่า จากนโยบายการพัฒนากำลังคน 4.0 ของรัฐบาล ได้ให้ความสำคัญในการกำหนดยุทธศาสตร์การผลิตและพัฒนากำลังคน ทางสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) วางแผนในการจัดทำมาตรฐานอาชีพในปีงบประมาณ 2563 และรับฟังข้อเสนอแนะจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ผู้เป็นเจ้าของอาชีพ การจัดทำมาตรฐานอาชีพถือเป็นภารกิจสำคัญ และเป็นหนึ่งในวัตถุประสงค์การจัดตั้งสถาบันฯ การกำหนดสาขาอาชีพที่มีความจำเป็นและเป็นที่ต้องการของอุตสาหกรรมอย่างแท้จริง จะช่วยส่งเสริมให้เกิดการนำมาตรฐานอาชีพไปใช้ สำหรับการฝึกอบรมและการประเมินสมรรถนะในวงกว้างเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศในภาพรวม อีกทั้งยังช่วยส่งเสริมการพัฒนากำลังคนในสาขาที่จำเป็น และสาขาที่ขาดแคลน ซึ่งจะส่งผลต่อการพัฒนาตามนโยบายรัฐบาลและช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ประกอบกับบทบาทใหม่ที่สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) ตาม พ.ร.ฎ. จัดตั้งสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2562 ที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 31 พ.ค.62 คือ การจัดการฝึกอบรมตามมาตรฐานอาชีพ ซึ่งจะเป็นการดำเนินงานที่เกิดความร่วมมือกับสถาบันการศึกษาและหน่วยงานต่าง ๆ ในการฝึกอบรมพัฒนาให้สอดคล้องกับความต้องการของสถานประกอบการ ด้วยเหตุผลที่กล่าวมานี้ สถาบันฯ จึงจำเป็นต้องมีการทบทวนและจัดลำดับความสำคัญในการจัดทำมาตรฐานอาชีพ โดยขอรับความคิดเห็นในการจัดกลุ่มสาขาอาชีพที่มีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องจัดทำ รวมถึงสาขาอาชีพเดิมที่ได้มีการทบทวนและต่อยอดต่อไป
ด้าน ดร.บวรนันท์ ทองกัลยา นายกสมาคมการจัดการงานบุคคลแห่งประเทศไทย (PMAT) กล่าวว่า ในฐานะนักบริหารงานบุคคล มองว่า ผู้ประกอบการควรเข้ามามีส่วนสำคัญในการร่วมผลักดันระบบคุณวุฒิวิชาชีพ เนื่องจากความท้าทายขององค์กร คือ การเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ เมื่อค่าแรงเพิ่มแต่ราคาสินค้าไม่สามารถเพิ่มตามได้ องค์กรจะอยู่ได้อย่างไร อีกทั้งคนในองค์กรมีความสามารถอยู่ในระดับสูงกว่าหรือต่ำกว่าที่องค์กรคาดหวังมีจำนวนเท่าไร หากนึกถึงการบริหารจัดการงานบุคคลแล้ว ทุกองค์กรจำเป็นต้องมีการดำเนินงานอย่างเป็นระบบ เริ่มตั้งแต่กระบวนการจ้างงาน จนถึงการบริหารผลงานของพนักงาน เพื่อเป็นโอกาสในการพัฒนาคนในทุกสาขาอาชีพ ที่ผ่านมาประเทศไทยหยุดอยู่กับที่ เนื่องจากระบบการศึกษายังไม่ตอบโจทย์ความต้องการภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม ในฐานะสมาคมบริหารงานบุคคลแห่งประเทศไทย มองว่าการนำระบบคุณวุฒิวิชาชีพ เข้ามาวัดระดับจะทำให้ทราบว่าคนในองค์กรมีความรู้ความสามารถอยู่ระดับใด แต่ละระดับมีจำนวนเท่าไร ทั้งนี้ระบบคุณวุฒิวิชาชีพถือเป็นกระบวนการรับรองทักษะความสามารถที่สอดคล้องกับสมรรถนะประสบการณ์และความรู้ ที่มีความเที่ยงตรงและน่าเชื่อถือ ตอบโจทย์การจ้างงานขององค์กรเป็นอย่างมาก ขณะเดียวกันองค์กรสามารถใช้ระบบคุณวุฒิวิชาชีพในการพัฒนาความก้าวหน้าคนในองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย
นางวัลลภา สถิรชวาล ประธานสมาพันธ์โลจิสติกส์ไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า การนำระบบคุณวุฒิวิชาชีพมาใช้ถือเป็นการพัฒนาศักยภาพของคนอย่างแท้จริง ผู้สอบจะทราบว่าความรู้ความสามารถในการทำงานของตัวเองอยู่ในระดับใด ถือเป็นการสนับสนุนให้ผู้ประกอบการพัฒนาบุคลากรภายในองค์กร เนื่องจากการผลักดันให้มี Training Center ในการจัดการสอบประเมิน พร้อมทั้งนำผลการสอบแจ้งกลับมายังสถานประกอบการนั้นๆ เพื่อให้องค์กรนำข้อมูลปรับปรุงบุคลากรสู่กระบวนการมาตรฐานวิชาชีพโลจิสติกส์ได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป
ส่วน ดร. สมศักดิ์ ชลาชล ประธานกรรมการ บริษัท ชลาชล จำกัด กล่าวว่า สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ได้สนับสนุนและให้ความสำคัญกับการประเมินมาตรฐานอาชีพช่างเสริมสวยอย่างต่อเนื่อง และที่ผ่านมามีช่างทำผมได้เข้ารับการประเมินคุณวุฒิวิชาชีพเป็นจำนวนมาก ซึ่งการมีคุณวุฒิวิชาชีพถือเป็นการบ่งบอกถึงทักษะ/ความสามารถของช่างทำผมว่าอยู่ในระดับใด ถือเป็นประโยชน์ต่อเจ้าของร้านในการรับพนักงานให้ตรงกับความต้องการ และสามารถพัฒนาช่างทำผมได้ตรงสมรรถนะมากยิ่งขึ้น สิ่งเหล่านี้จะช่วยยกระดับอุตสาหกรรมช่างทำผมไทยสู่มาตรฐานระดับสากลต่อไป
สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (สคช.) ผนึกกำลังสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เดินหน้าอบรมผู้ตรวจประเมิน (Assessor)
สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (สคช.) ผนึกกำลังสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เดินหน้าอบรมผู้ตรวจประเมิน (Assessor)
สคช. ตอบโจทย์ประเทศ พัฒนาคนในอาชีพผู้ดูแลผู้สูงอายุให้ได้มาตรฐาน
สคช. ตอบโจทย์ประเทศ พัฒนาคนในอาชีพผู้ดูแลผู้สูงอายุให้ได้มาตรฐาน
สคช.เปิดเวทีการประชุมเชิงปฏิบัติการ ”การพัฒนาระบบรับรองสมรรถนะที่มีด้วยคุณวุฒิวิชาชีพ”
สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) เปิดเวทีระดมความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
ม.เกษมบัณฑิต จับมือ ไทยไฟล์ทเทรนนิ่ง นำมาตรฐานอาชีพ สคช.ไปใช้ในการเรียนการสอน
สคช. เดินหน้าสร้างมาตรฐานเชฟไทย ยกระดับเทียบเคียงสู่สากล