นายแพทย์ดนัย เจียรกูล ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 10 จ.อุบลราชธานี เปิดเผยว่า จากการคาดประมาณผู้ติดเชื้อเอชไอวี และผู้ป่วยเอดส์ในประเทศไทย โดยใช้แบบจำลองทางคณิตศาสตร์ Spectrum-AEM คาดว่าในปี 2561 ประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ประมาณ 6,400 คน (เฉลี่ยวันละ 17 คน) ผู้เสียชีวิตเนื่องมาจากเอดส์ 18,000 คน (เฉลี่ยวันละ 49 คน) และมีผู้ติดเชื้อที่มีชีวิตอยู่ประมาณ 480,000 คน ซึ่งข้อมูลจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติในปีเดียวกัน พบว่ามีผู้ติดเชื้อที่มีชีวิตอยู่ได้รับการวินิจฉัย หรือรู้สถานะว่าตนเองติดเชื้อแล้ว 451,384 คน ดังนั้นคาดว่ามีผู้ติดเชื้อเอชไอวีอีกประมาณ 28,000 คน ที่ยังไม่รู้สถานะการติดเชื้อ และยังไม่ได้รับการรักษา ที่สำคัญคือสามารถส่งถ่ายเชื้อไปสู่ผู้อื่นได้โดยไม่รู้ตัว
เพื่อเป็นการรณรงค์ให้ประชาชนเข้าถึงบริการปรึกษาและตรวจหาการติดเชื้อเอชไอวี สามารถรู้ผลได้ในวันเดียว ซึ่งจะช่วยให้ผู้ติดเชื้อที่ยังไม่รู้ตัวได้รับการรักษาด้วยยาต้านไวรัสเร็วขึ้น กระทรวงสาธารณสุขจึงจัดให้ วันที่ 1 กรกฎาคมของทุกปี เป็นวันรณรงค์ตรวจเอชไอวี (Voluntary Counselling Testing Day : VCT Day) โดยกิจกรรมครั้งนี้ จัดขึ้นภายใต้แนวคิด "Know Your Status: เอชไอวี ตรวจฟรี ตรวจเร็ว เอชไอวี รักษาเร็ว รักษาฟรี" เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนตระหนักการรู้สถานะการติดเชื้อของตนเองได้เร็วขึ้น พร้อมที่จะดูแลสุขภาพและวางแผนการดูแลชีวิตต่อไป
สำหรับกิจกรรมรณรงค์ตรวจเอชไอวีในปีนี้ ประกอบด้วย 2 ประเด็น คือ 1.เอชไอวี ตรวจฟรี ตรวจเร็ว โดยให้คนไทยทุกคนที่มีบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลัก สามารถตรวจเลือดหาการติดเชื้อเอชไอวีได้ฟรี ปีละ 2 ครั้ง ทุกโรงพยาบาลที่ให้บริการภายใต้หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ประกอบกับเทคโนโลยีที่ทันสมัย ทำให้สามารถตรวจหาเชื้อเอชไอวีได้รวดเร็ว และแม่นยำ และควรตรวจหาเชื้อเอชไอวีหลังจากมีพฤติกรรมเสี่ยง เช่น ไม่สวมถุงยางอนามัยหลังมีเพศสัมพันธ์ หรือใช้เข็มฉีดยาร่วมกับผู้อื่น ประมาณ 1 เดือน เมื่อทราบผลว่าไม่ติดเชื้อเอชไอวี จะได้รับการปรึกษาเรื่องการป้องกัน การติดเชื้อเอชไอวีและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ ต่อไป หากพบการติดเชื้อเอชไอวี จะได้เข้ารับการรักษาโดยเร็ว
2.เอชไอวี รักษาเร็ว รักษาฟรี สำหรับการรักษาจะใช้ "ยาต้านไวรัส" หากผู้ติดเชื้อเอชไอวีได้เริ่มกินยาเร็ว จะทำให้ไม่มีอาการป่วย ร่างกายแข็งแรง สุขภาพดี รวมถึงหากทานยาต้านไวรัสต่อเนื่อง จนสามารถกดไวรัสจะลดโอกาสถ่ายทอดเชื้อไปสู่คู่นอนและผู้อื่นได้ แต่หากเข้ารับการรักษาล่าช้า จะเริ่มป่วยและมีอาการของโรคแทรกซ้อนตามมา ส่งผลให้ภูมิคุ้มกันต่ำเกิดโรคเรื้อรังได้ง่าย แล้วเชื้อเอชไอวีในร่างกายจะเพิ่มขึ้น จนถ่ายทอดเชื้อเอชไอวีไปสู่คู่และผู้อื่นได้ ผู้มีเชื้อเอชไอวี สามารถเข้ารับบริการรักษาด้วยยาต้านไวรัส ได้ "ฟรี" ทุกสิทธิ ผู้มีสิทธิประกันสุขภาพ (บัตรทอง) และสิทธิสวัสดิการข้าราชการ สามารถรักษาฟรี ทุกโรงพยาบาลภายใต้หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ทั่วประเทศ โดยไม่จำเป็นต้องเป็นโรงพยาบาลที่ระบุตามบัตร ส่วนสิทธิประกันสังคม สามารถรักษาฟรีในโรงพยาบาลที่ระบุตามสิทธิ
อย่างไรก็ตาม การทราบสถานะของตนเองในเรื่องการตรวจหาการติดเชื้อเอชไอวี ถือว่าไม่ใช่เรื่องแปลกอีกต่อไป ทุกคนมีสิทธิที่ตรวจโดยไม่ต้องเขินอาย ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขเร่งรัดการดำเนินงานป้องกันและดูแลรักษาสุขภาพของประชาชน เพื่อยุติปัญหาเอดส์ให้ได้ภายใน 11 ปีข้างหน้า (พ.ศ.2573) เพื่อลดจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ ลดจำนวนผู้เสียชีวิต และลดการรังเกียจตีตราเรื่องเอดส์
ทั้งนี้ หากมีข้อสงสัยหรือกังวลเรื่องเอชไอวี สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนปรึกษาเอดส์และท้องไม่พร้อม 1663 สายด่วน สปสช. 1330 สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422
                                                                                                                                        
                                                            
                                                                                                                            
                                                            
                                                                                                                            
                                                            
                                                                                                                            
                                                                                                                            
                            
                            สคร.12 สงขลา เตือน โรคพิษสุนัขบ้า ติดเชื้อถึงตาย แนะ หากถูกสุนัขกัดให้รีบไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า
                        
                            สคร.12 สงขลา ชวนปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เพื่อป้องกัน โรคหัวใจและหลอดเลือด เนื่องในวันหัวใจโลก 2568
                        
                            สคร.12 สงขลา เตือนผู้ปกครอง ระวังบุตรหลาน ป่วยด้วยโรคติดเชื้อทางเดินหายใจจากเชื้อไวรัสอาร์เอสวี (RSV)
                        
                            ลุยน้ำ ย่ำโคลน เสี่ยง เลปโตสไปโรสิส (โรคไข้ฉี่หนู) สคร. 12 สงขลา เตือน มีไข้ ปวดน่อง อย่าซื้อยาทานเอง ให้รีบพบแพทย์
                        
                            สคร.12 สงขลา เตือนโรคไข้เลือดออกอันตรายในช่วงหน้าฝน แนะสังเกตอาการบุตรหลาน หากสงสัยป่วยเป็นไข้เลือดออก อย่าซื้อยากินเอง ให้รีบพาไปพบแพทย์ทันที
                        
                            สคร.12 สงขลา แนะวิธีปฏิบัติให้ปลอดภัยจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 พร้อมแนะให้ติดตามและเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
                        
                            สคร.12 สงขลา เตือน ระวังป่วยโรค มือ เท้า ปาก พบบ่อยในเด็กเล็ก
                        
                            สคร.12 สงขลา เตือน ระวังป่วยโรคเมลิออยโดสิส เสี่ยงอันตรายถึงชีวิต
                        
                            สคร.12 สงขลา ร่วมรณรงค์วันไข้เลือดออกอาเซียน 2568 อาเซียนร่วมใจ สร้างอนาคตปลอดภัย ไม่ป่วยตายด้วยไข้เลือดออก