ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับเพิ่มขึ้นจากแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางหลักๆ ทั่วโลก และความคาดหวังเชิงบวกจากการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนนอกรอบการประชุมสุดยอดของกลุ่ม G20

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

          วิเคราะห์เจาะลึกประเด็นการลงทุนประจำสัปดาห์ วันที่ 21 – 28 มิถุนายน 2562 
          ในสัปดาห์ที่ผ่านมา (17 – 21 มิ.ย.) ตลาดหุ้นทั่วโลกส่วนใหญ่ ปรับเพิ่มขึ้น เนื่องจาก ธนาคารกลางหลักๆ ของโลก ทั้ง ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) และธนาคารกลางยุโรป (ECB) ส่งสัญญาณดำเนินนโยบายการเงินเชิงผ่อนคลาย นอกจากนี้ ยังได้รับแรงหนุนจากความคาดหวังเชิงบวก หลัง ประธานาธิบดี ทรัมป์ ระบุว่า จะพบปะกับประธานาธิบดี สี จิ้น ผิง นอกรอบการประชุมสุดยอดของกลุ่ม G20 ขณะที่ตลาดหุ้นจีน ปิดบวก เนื่องจากเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ และเจ้าหน้าที่จีน จะเจรจาการค้า ก่อนการพบปะกันของผู้นำทั้ง 2 ประเทศ นอกรอบการประชุมสุดยอดของกลุ่ม G-20 และมีแรงซื้อหุ้นกลุ่มการเงิน หลังทางการจีนเรียกประชุมกับธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่เพื่อช่วยเพิ่มสภาพคล่องในตลาดเงิน ด้านราคาน้ำมัน ปิดบวก เนื่องจาก ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ-อิหร่าน หลังโดรนของสหรัฐฯ ถูกขีปนาวุธของอิหร่านโจมตี ขณะที่ราคาทองคำ ปรับเพิ่มขึ้น เนื่องจากดอลลาร์ สหรัฐฯ อ่อนค่า หลัง Fed ส่งสัญญาณปรับลดดอกเบี้ย และความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ-อิหร่าน ส่งผลให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับเพิ่มขึ้นจากแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางหลักๆ ทั่วโลก และความคาดหวังเชิงบวกจากการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนนอกรอบการประชุมสุดยอดของกลุ่ม G20
          ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวก เนื่องจาก Fed ส่งสัญญาณปรับลดดอกเบี้ย โดยกรรมการ Fed 7 ท่าน จาก 17 ท่าน สนับสนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.5% ในช่วงครึ่งปีหลัง และความคาดหวังเชิงบวกหลังประธานาธิบดีทรัมป์ ยืนยันจะพบกับประธานาธิบดี สี จิ้น ผิง นอกรอบการประชุมสุดยอดของกลุ่ม G-20 
          ตลาดหุ้นยุโรป ปิดบวก เนื่องจาก ประธาน ECB ส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย รวมถึงการเข้าซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้เงินยูโรอ่อนค่าเทียบดอลลาร์สหรัฐฯ สนับสนุนหุ้นกลุ่มส่งออก
ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ปิดบวกเล็กน้อย โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ว่า การเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน จะมีความคืบหน้า ขณะที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ) คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายตามคาด
          ตลาดหุ้นจีน (A-Share) ปิดบวก โดยได้แรงหนุนหลังผู้แทนการค้า และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ จะเข้าเจรจาการค้ากับ รองนายกรัฐมนตรี และเจ้าหน้าที่ของจีน ก่อนการพบปะกันระหว่างผู้นำทั้ง 2 ประเทศ ในการประชุมนอกรอบ G-20 และมีแรงซื้อหุ้นกลุ่มการเงิน หลังทางการจีนเรียกประชุมกับธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่เพื่อช่วยเพิ่มสภาพคล่องในตลาดเงิน 
          ตลาดหุ้นไทย ปิดบวก เนื่องจากการส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ Fed ทำให้เงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลงเทียบเงินบาท สนับสนุนเม็ดเงินลงทุนจากนักลงทุนต่างชาติ ประกอบกับ มีความคืบหน้าในการจัดตั้งรัฐบาล
ตลาดน้ำมัน ปิดบวก เนื่องจาก ความวิตกกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ-อิหร่าน หลังโดรนของสหรัฐฯ ถูกขีปนาวุธของอิหร่านโจมตี
          ตลาดทองคำ ปิดบวก โดยได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์สหรัฐฯ หลัง Fed ส่งสัญญาณดำเนินนโยบายการเงินเชิงผ่อนคลาย ประกอบกับความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ-อิหร่าน ได้ส่งผลให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
          เหตุการณ์สำคัญ (KEY EVENTS)
          ติดตามความคืบหน้าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน โดยประธานาธิบดี ทรัมป์ จะพบกับประธานาธิบดี สี จิ้น ผิง ในการประชุมนอกรอบ G-20 ในวันที่ 28-29 มิ.ย. ซึ่งเราคาดว่า มีความเป็นไปได้อย่างมาก ที่การเจรจาจะมีความคืบหน้าในเชิงบวก และสามารถตกลงกันได้ในหลายประเด็น ขณะที่การแสดงความเห็นของภาคเอกชนของสหรัฐฯ ต่อประเด็นการเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีน มูลค่า 3 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จะสิ้นสุดลงในวันที่ 24 มิ.ย.นี้ โดยเราคาดว่า สหรัฐฯ จะยังไม่ปรับขึ้นภาษีกับจีนแบบรุนแรง เนื่องจาก ส่วนใหญ่เป็นสินค้าอุปโภคบริโภค ซึ่งจะกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ อย่างมาก
ถ้อยแถลงของประธาน Fed (25 มิ.ย.) เราคาดว่า จะเป็นไปในเชิงผ่อนคลายนโยบายการเงิน (Dovish) สอดคล้องกับผลการประชุม Fed เมื่อสัปดาห์ก่อน
          การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) (26 มิ.ย.) เราคาดว่า กนง.จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย อยู่ที่ 1.75% อย่างไรก็ตาม กนง.อาจส่งสัญญาณเพื่อชะลอการแข็งค่าของเงินบาท หลังช่วงที่ผ่านมา เงินบาทแข็งค่าเทียบสกุลเงินในภูมิภาคอย่างมาก
          ติดตามการเลือกประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) คนใหม่ (30 มิ.ย.) เพื่อประเมินทิศทางการดำเนินนโยบายการเงิน ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมากน้อยเพียงใด
มุมมองของเราในสัปดาห์นี้
          ตลาดหุ้นมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในสัปดาห์นี้ หลังจากธนาคารกลางหลักๆ ของโลก (ทั้ง Fed และ ECB) ได้ส่งสัญญาณการดำเนินนโยบายการเงินเชิงผ่อนคลายที่มากขึ้น ซึ่งจะช่วยสนับสนุนสภาพคล่องในตลาด และส่งผลบวกต่อการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง นอกจากนี้ นักลงทุนยังคงรอติดตามผลการเจรจาการค้าระหว่างประธานาธิบดี ทรัมป์ และประธานาธิบดี สี จิ้น ผิง ของจีน ในการประชุมนอกรอบ G-20 ที่ประเทศญี่ปุ่น ในช่วงปลายสัปดาห์นี้ ซึ่งเราคาดว่า ผลการเจรจาน่าจะมีความคืบหน้าในเชิงบวก และอาจเปิดโอกาสให้มีการเจรจาต่อ หลังเสร็จสิ้นนอกรอบการประชุมสุดยอดของกลุ่ม G-20 โดยปัจจัยเหล่านี้ จะส่งผลให้ นักลงทุนเปิดรับความเสี่ยงเพิ่มขึ้น (Risk-On) และทำให้ตลาดหุ้นปรับเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม หากการเจรจาฯ ล้มเหลว ซึ่งเราคาดว่า มีโอกาสเกิดขึ้นน้อย จะกดดันตลาดหุ้นทั่วโลกให้ปรับลดลงอย่างมากเช่นกัน ด้านราคาทองคำ และน้ำมัน ยังมีแนวโน้มได้รับแรงสนับสนุนจากความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ-อิหร่านที่เพิ่มขึ้น และ จากสกุลเงินดอลลาร์ สหรัฐฯ ที่อ่อนค่า
ปัจจัยจับตาสัปดาห์นี้
          ตัวเลขเศรษฐกิจ ได้แก่ กำไรภาคอุตสาหกรรมของจีน / ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP), ยอดขายบ้านใหม่ และดัชนีราคาการใช้จ่ายด้านการบริโภคส่วนบุคคลพื้นฐานของสหรัฐฯ / ยอดค้าปลีกและผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น / อัตราเงินเฟ้อของยูโรโซน
          เหตุการณ์สำคัญ ได้แก่ การประกาศรายชื่อคณะรัฐมนตรีของไทยอย่างเป็นทางการ / ถ้อยแถลงของประธาน Fed / การประชุมกนง.ของไทย / ผลนอกรอบการประชุมสุดยอดของกลุ่ม G-20 / การเลือกประธาน ECB คนใหม่
ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับเพิ่มขึ้นจากแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางหลักๆ ทั่วโลก และความคาดหวังเชิงบวกจากการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนนอกรอบการประชุมสุดยอดของกลุ่ม G20
 
 

ข่าวธนาคารกลางสหรัฐฯ+การประชุมสุดยอดวันนี้

SCB FM มอง Fed ลดดอกเบี้ยกลางปีจากเศรษฐกิจที่ชะลอ ทำให้เงินบาทจะทยอยแข็งค่าได้ แต่ Tariffs อาจดันเงินเฟ้อและกดดันบาทอ่อนระยะสั้น

กลุ่มงานตลาดการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB Financial Markets: SCB FM) เปิดเผยว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) คงดอกเบี้ยที่ 4.25-4.50% ตามคาด อย่างไรก็ดี แม้ Fed จะพยายามส่งสัญญาณว่าความไม่แน่นอนมากขึ้นและเงินเฟ้อมีแนวโน้มสูงขึ้น แต่ตลาดกลับให้โอกาสที่ Fed จะลดดอกเบี้ยในปีนี้มีมากขึ้น โดย Price-in ที่ราว 75 bps ซึ่งมากกว่าที่ Fed สื่อสารใน Dot plot สำหรับมุมมองในระยะต่อไป SCB FM ยังคงมุมมองเดิมว่า Fed อาจลดดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ โดยการลดครั้งแรกอาจเป็นการประชุมเดือน มิ.ย. และอาจลดอีกครั้งในช่วง

ธนาคารทิสโก้เคาะ 4 สินทรัพย์ เพิ่มโอกาสสร... ดอกเบี้ยขาลง หนุน 4 สินทรัพย์กำไรติดปีก ธ.ทิสโก้ฟันธง เหมาะลงทุนไตรมาส 4 ฝ่าตลาดผันผวน — ธนาคารทิสโก้เคาะ 4 สินทรัพย์ เพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนช่วงอัตราดอกเ...

ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ (T... ทิสโก้แนะกระจายซื้อ "บอนด์สั้น" หวั่นหุ้นสหรัฐฯ ปรับฐาน — ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ (TISCO ESU) คาดตลาดหุ้นสหรัฐฯ จ่อปรับฐานในไตรมาส 4 รับ 2 ...

ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ (T... ทิสโก้เผย Fed ลดดอกเบี้ยมากกว่าคาด ชี้! ปีนี้อาจลดต่ออีก 0.5% และปี 68 ลงอีก 1 - 1.25% — ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ (TISCO ESU) ชี้ ธนาคารกลาง...

ในขณะที่ปี 2023 กำลังจะสิ้นสุดลง FBS โบรก... ระลอกคลื่นของปี 2023: ข้อมูลเชิงลึกของ FBS เกี่ยวกับแนวโน้มทางการเงินทั่วโลกในปี 2024 — ในขณะที่ปี 2023 กำลังจะสิ้นสุดลง FBS โบรกเกอร์ชั้นนำระดับโลกจะทำกา...

กรุงศรีคาดเงินบาทสัปดาห์นี้ซื้อขายในกรอบ 36.00-36.65 รอจีดีพีและเงินเฟ้อสหรัฐฯ

กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) มีมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาท ในสัปดาห์นี้ว่าเงินบาทสัปดาห์นี้มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 36.00-36.65 บาท/ดอลลาร์ เทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทปิดอ่อนค่าที่ 36.47...

ตุลาคมโอกาส "ทองคำ น้ำมัน" เป็นขาขึ้นทั้ง... จับตา "ทองคำ - น้ำมัน" อาจกลับเข้าสู่ขาขึ้น หลังเกิดสงครามอิสราเอลกับฮามาส — ตุลาคมโอกาส "ทองคำ น้ำมัน" เป็นขาขึ้นทั้งในช่วงสั้นและระยะยาว ราคาเด้งรับปัจจ...

บล.ทิสโก้ แนะนักลงทุนทยอยขายหุ้นล็อกกำไรช... บล.ทิสโก้แนะ ทยอยขายหุ้นไทย ล็อกกำไรช่วงราคาปรับขึ้น — บล.ทิสโก้ แนะนักลงทุนทยอยขายหุ้นล็อกกำไรช่วงราคาปรับขึ้นแรง ชี้นักวิเคราะห์มีแนวโน้มหั่นกำไรบริษัทจ...