นางสาวบรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า "กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ตระหนักถึงความสำคัญในการพัฒนาและส่งเสริมผู้ประกอบการทุกระดับ ทุกพื้นที่ ให้มีโอกาสได้รับองค์ความรู้ด้านการทำการค้าและการส่งออกอย่างทั่วถึง ทั้งในส่วนกลางและภูมิภาค ภายใต้นโยบาย Local to Global เพื่อให้ผู้ประกอบการได้เตรียมความพร้อมในการทำการค้าในรูปแบบเศรษฐกิจยุคใหม่ การจัดตั้งสถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ขึ้นนั้นเพื่อเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ให้กับผู้ประกอบการ และเป็นส่วนสำคัญในการเพิ่มเติมความรู้ เสริมทักษะในการทำธุรกิจ ให้เท่าทันกับสถานการณ์การค้าในยุคดิจิทัล โดยในการดำเนินงานของสถาบัน ไม่เพียงแค่ชี้ให้เห็นถึงช่องทางและเทคนิคการทำการค้า และพฤติกรรมความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคที่มีความแตกต่างกัน แต่ยังได้สร้างสัมพันธภาพที่ดีทั้งพันธมิตรทางการค้า การลงทุน สร้างเครือข่ายที่แข็งแรงให้กับการดำเนินธุรกิจจากผู้ประกอบการทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งถือได้ว่าพร้อมให้การส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการในทุกระดับ
นายนันทพงษ์ จิระเลิศพงษ์ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ (NEA) กล่าวว่า ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาสถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่(NEA) ได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มผู้ประกอบการทุกระดับ ซึ่งจะเห็นได้จากการเข้าร่วมโครงการฝึกอบรมและสัมมนาของสถาบัน ในแต่ละด้าน แต่ละองค์ความรู้ รวมถึงโครงการที่กระจายไปสู่ส่วนภูมิภาคในจังหวัดต่างๆ ซึ่งจากการสำรวจยอดผู้เข้าร่วมโครงการ หลักสูตรที่ได้รับความนิยม และถือเป็นโครงการที่ไม่ควรพลาดของสถาบันนั้น ประกอบไปด้วย 5 โครงการหลักๆ ได้แก่
- โครงการ "ผู้ส่งออกอัจฉริยะ : SMART EXPORTER" ซึ่งเป็นโครงการที่ได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการมาโดยตลอด เป็นการพัฒนาผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม กลุ่มธุรกิจ Startup กลุ่มทายาทธุรกิจ และผู้ประกอบการส่งออกรายใหม่ให้เป็นนักการค้าด้านการส่งออกมืออาชีพในยุคเศรษฐกิจดิจิทัลอย่างครบวงจร อีกทั้งยังเป็นโครงการที่ได้รับสิทธิพิเศษในการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าในต่างประเทศที่จัดโดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เช่น Top Thai Brands, Thailand Week และ Mini Thailand Week รวมถึงมีโอกาสได้เข้าร่วมในงานแสดงสินค้าทั้งในและต่างประเทศของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์
- โครงการฝึกอบรมหลักสูตร "ความรู้เบื้องต้นในการประกอบธุรกิจส่งออก" เป็นโครงการที่ได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการมาอย่างยาวนานจนถึงปัจจุบัน โดยในปีนี้ได้จัดขึ้นเป็นรุ่นที่ 134 ซึ่งจากเดิมหลักสูตรนี้ถือเป็นโครงการแรกเริ่มและเป็นที่จดจำจากผู้ประกอบการถึงเนื้อหาโครงการที่เข้มข้น ที่จะช่วยเพิ่มความรู้เกี่ยวกับขั้นตอนและพื้นฐานการส่งออกมาอย่างยาวนาน ของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ แต่เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบันการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ส่งผลให้หลักสูตรนี้จำเป็นต้องมีการปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงให้มีความเหมาะสมกับยุคสมัยและทันต่อสถานการณ์การค้ายุคใหม่อยู่เสมอ
- โครงการ "Train the Trainer" หลักสูตรพี่เลี้ยงทางการค้า ซึ่งมุ่งเน้นในการพัฒนาความรู้ ทักษะ ความชำนาญ รวมถึงถ่ายทอดประสบการณ์ทางการค้าและเตรียมความพร้อมให้กับผู้ประกอบการส่งออกที่มีศักยภาพ ในการพัฒนาบุคลากรด้านการค้าระหว่างประเทศจากภาครัฐ และเอกชน ให้ปฏิบัติหน้าที่ให้คำปรึกษาแนะนำทางการค้า (Trainer) ให้กับผู้ประกอบการในระดับต่างๆ จึงเป็นที่มาของการจัดโครงการสร้างพี่เลี้ยงทางการค้า (Train the Trainers by NEA) ประจำปี 2562 ขึ้น โดยมีกำหนดจัด จำนวน 6 ครั้ง ประกอบด้วย การจัดฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการในภูมิภาค จำนวน 5 ครั้ง และการจัดฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการในกรุงเทพฯ จำนวน 1 ครั้ง
- โครงการ E-Commerce Week by NEA เป็นโครงการต่อยอดจากหลักสูตร IT4SMEs เพื่อมุ่งเน้นการให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการด้านการค้าออนไลน์ จากการร่วมมือกันของหลากหลายหน่วยงานพันธมิตรทั้งจากภาครัฐและเอกชน โดยจะจัดขึ้นทั้งหมด 5 รุ่น รุ่นละ 4 วัน จากวิทยากรผู้เชี่ยวชาญด้านการค้าออนไลน์และนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จมาร่วมแลกเปลี่ยนและถ่ายทอดประสบการณ์ โดยโครงการดังกล่าวถือเป็นการสร้างรากฐานองค์ความรู้ด้านการค้าออนไลน์อย่างครบวงจรและเป็นแรงกระตุ้นไปสู่การแข่งขันทางการค้าในระดับสากล
- โครงการ "CLMVT Executive Program" ถือเป็นโครงการที่มุ่งเน้นการพัฒนาประเทศตามนโยบาย Thailand 4.0 ด้วยการเชื่อมโยงนโยบายเศรษฐกิจร่วมกับกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน CLMVT (กัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม และไทย) ที่ได้เปิดเวทีให้ผู้นำทั้งภาครัฐและเอกชนของไทยได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้กับผู้บริหารชั้นนำ ทั้งในด้านความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ และการสร้างเครือข่ายพันธมิตรทางการค้าที่เข้มแข็ง
นอกจากนี้ ในปี 2562 ทางสถาบันยังได้เตรียมเปิดตัวโครงการใหม่เพิ่มเติมคือ โครงการพัฒนานักส่งออกรุ่นใหม่ : Young Exporter from local to Global (YELG) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างนักส่งออกรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้ก้าวสู่ทิศทางที่ดีขึ้น จัดขึ้นจำนวน 2 ระยะ ที่ส่วนกลางและส่วนภูมิภาค 6 จังหวัด ได้แก่ 1.ลำปาง 2.อุดรธานี 3.กรุงเทพ 4.นครสวรรค์ 5.ราชบุรี 6.กระบี่ โดยระยะที่ 1 เป็นการจัดฝึกอบรมด้านพื้นฐานการค้าระหว่างประเทศ(จำนวน 1,400 ราย)ระยะที่ 2 จัดฝึกอบรมพื้นฐานการค้าระหว่างประเทศในเชิงลึก พร้อมฝึกปฏิบัติ ระยะเวลา 3 วัน เพื่อคัดเลือกผู้ประกอบการที่มีความพร้อมในการส่งออกและจะต้องเป็นนิติบุคคลที่จดทะเบียนแล้ว (จำนวน 300 ราย) และส่งต่อนักส่งออกรุ่นใหม่ไปยังโครงการต่างๆของกรม อาทิ โครงการส่งเสริมและศักยภาพของผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม(SMEs Pro-active Program) เป็นต้น เพื่อพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการไทยให้เป็นนักส่งออกรุ่นใหม่ต่อไปในอนาคต
สำหรับผู้ประกอบการและผู้ที่สนใจรายละเอียด สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ (NEA) กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ โทรศัพท์ 02 507 7999 หรือ nea.ditp.go.th ,facebook.com/nea.ditp
DITP แถลงข่าวตอกย้ำความสำเร็จ E-Academy ภายใต้แนวคิด "Beyond Boundaries Transform Knowledge into Impact"
ทิศทางของสถาบัน NEA กับกลยุทธ์ดันผู้ประกอบการไทยพิชิตตลาดโลก ในปี 2567
ทิศทางของสถาบัน NEA กับกลยุทธ์ดันผู้ประกอบการไทยพิชิตตลาดโลก ในปี 2567
NEA Open House 2023 เปิดความสำเร็จ! ดันผู้ประกอบการไทยผงาดตลาดโลก
NEA เปิดบ้านโชว์ความสำเร็จ! ดันผู้ประกอบการไทยสู่เวทีการค้าโลก ในงาน NEA Open House 2023
ไทยพาณิชย์ จัดโครงการ SCB ITP รุ่นที่ 5 : Sustainable Growth for Exporter เสริมส่งออก SME ไทย เติบโตอย่างยั่งยืน
พาณิชย์-DITP ผนึกกำลังภาคเอกชน เปิดประตูสู่แดนมังกร ติดอาวุธผู้ประกอบการไทยลุยขยายฐานตลาดจีน
NEA เปิดภาพความสำเร็จ! ดันผู้ประกอบการสินค้าเกษตร และอาหารไทยในกิจกรรม "เกษตรทันสมัย พาณิชย์ขายให้ ออนไลน์ทั่วโลก" รุ่นที่ 4
พาณิชย์-DITP เปิดเวที The Next Chapter ครั้งที่ 2 อัปเดตเทรนด์การค้า ขับเคลื่อนเกษตรไทยก้าวไกลสู่ตลาดโลก