นางสาววัชรีภรณ์ วังพรม กรรมการบริหาร บริษัท สมุนไพรวังพรม จำกัด กล่าวว่า จากแนวโน้มตลาดผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทย ในปี 2562 ที่ยังคงสดใสและมีทิศทางเติบโตอย่างต่อเนื่อง ส่วนสำคัญเป็นผลมาจากผู้บริโภคยุคใหม่หันมาใส่ใจสุขภาพ หันมามุ่งเน้นอุปโภคบริโภคสินค้าและผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบจากธรรมชาติ โดยเฉพาะเหล่าสมุนไพรไทยที่มีสรรพคุณอันหลากหลาย ซึ่ง Euromonitor–Herbal/Traditional Products in Thailand ได้ประเมินว่าภายในปี 2564 มูลค่าตลาดสมุนไพรไทยในประเทศ จะขยายตัวแตะมูลค่า 5.69 หมื่นล้านบาท (ข้อมูลจาก www.euromonitor.com อ้างอิงข้อมูลจากข่าว https://www.thaihealth.or.th/Content/43547-"สมุนไพรไทย"%20เติบโตขึ้นกว่า%2030%20.html) ขณะที่ตัวเลขการส่งออกสมุนไพรและสารสกัดในแต่ละปี ศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ระบุว่ามีมูลค่าสูงถึงปีละประมาณ 1 พันล้านบาท
นางสาววัชรีภรณ์ เปิดเผยว่า ปัจจุบัน "สมุนไพรวังพรม" ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นยาสามัญประจำบ้าน และผ่านการรับรองมาตรฐานการผลิตต่างๆ อาทิ มาตรฐาน CODEX GMP คือ ระบบรับรองกระบวนการผลิตที่ดี เป็นมาตรฐานสากลที่ใช้กันทั่วโลก มาตรฐานการผลิตยาโบราณตามสุขลักษณะที่ดี (GMP) ใบรับรองเครื่องหมายฮาลาล และตรารับรองคุณภาพมาตรฐานโลก T Mark กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เป็นต้น ทำให้ได้รับความเชื่อมั่นจากผู้บริโภค โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อดำเนินการควบคู่ไปกับการปรับปรุงบรรจุภัณฑ์ให้ดูทันสมัยน่าใช้งาน และเพิ่มสัดส่วนการส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศ รวมทั้งการขายผ่านช่องทางออนไลน์ ทำให้สามารถจำหน่ายสินค้าได้มากขึ้น โดยในระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา สามารถเพิ่มยอดขายได้มากกว่าปีละ 17%
ดังนั้น เพื่อยกระดับคุณภาพมาตรฐานการผลิต ภายใต้แบรนด์ "สมุนไพรวังพรม" ให้ได้มาตรฐานที่สูงขึ้น สามารถจำหน่ายได้ทั่วโลกได้อย่างถูกกฎหมาย ขณะนี้สมุนไพรวังพรมจึงเร่งยกมาตรฐานการผลิตเทียบชั้นมาตรฐานสากล โดยล่าสุดได้ดำเนินการก่อสร้างโรงงานแห่งใหม่ ภายใต้มาตรฐาน GMP PIC/S อันเป็นมาตรฐานการผลิตยาของประเทศในสหภาพยุโรป มาตรฐานเดียวกับโรงงานผลิตยาแผนปัจจุบัน เช่น พาราเซตามอล ตามประกาศสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ที่มีเป้าหมายปรับปรุงมาตรฐานการผลิตยา ของผู้ผลิตยาแผนโบราณขนาดกลางและขนาดเล็ก รวมถึงผู้ผลิตที่ผลิตยาในรูปแบบที่มีความเสี่ยงต่ำในประเทศ ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จและเปิดดำเนินการในช่วงปลายปี 2563
"ในปี 2561 ที่ผ่านมา สมุนไพรวังพรม สามารถทำยอดขายเพิ่มขึ้นกว่า 17% แบ่งเป็นขายตลาดในประเทศ 85% และตลาดต่างประเทศ 15% อย่างไรก็ตาม เราไม่หยุดนิ่งพัฒนาสินค้าและผลิตภัณฑ์ ตามข้อกำหนดและมาตรฐานสากล เพื่อให้สามารถขยายการส่งออกได้มากขึ้น โดยปัจจุบันได้เข้าไปเปิดตลาดในกลุ่มประเทศ CLMV ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ส่วนแผนการในอนาคตตั้งเป้าขยายไปยังตลาดจีน เกาหลีใต้ รัสเซีย และยุโรป ขณะอยู่ในขั้นตอนการขึ้นทะเบียน ตามข้อกำหนดและกฎหมายแต่ละประเทศ ขณะเดียวกันยังมุ่งเพิ่มช่องทางจำหน่ายออนไลน์ ซึ่งจะช่วยให้ผู้บริโภคเข้าถึงสินค้าได้ง่ายขึ้น โดยคาดว่าจะสามารถดันยอดขายได้มากขึ้น ราว 50 % ภายในระยะเวลา 5 ปี" นางสาววัชรีภรณ์ กล่าว
สำหรับผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ "สมุนไพรวังพรม" แบ่งออกเป็น 6 กลุ่ม คือ กลุ่มยาดม กลุ่มยาสมุนไพร กลุ่มยาแคปซูล กลุ่มของใช้ส่วนตัว กลุ่มของชำร่วย และกลุ่มยาสำหรับนวด ซึ่งถือเป็นกลุ่มที่ได้รับความนิยมสูงสุด โดยเฉพาะ "ยาหม่องสูตรเสลดพังพอน" ที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ด้วยกระปุกสีเขียว ช่วยแก้คันจากพิษแมลงสัตว์กัดต่อย มีกลิ่นหอมนวล-ละมุน และ "ยาหม่องสูตรไพล" กระปุกสีเหลือง ช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยได้ดี โดยปัจจุบันถือเป็น 1 ใน 5 ผู้นำตลาดยาหม่องในประเทศ ซึ่งมีมูลค่ารวมกว่า 3 พันล้านบาท โอกาสการเพิ่มยอดขายในสินค้ากลุ่มนี้ จึงมีความเป็นไปได้ค่อนข้างสูง ในขณะที่ตลาดผู้บริโภคต่างชาตินั้นส่วนใหญ่ ชื่นชอบและติดใจจากการประสบการณ์ตรง หลังเข้ารับบริการร้านนวดแผนไทย จนเกิดเป็นกระแสปากต่อปาก
"หากเราสามารถผลักดันการส่งออก ไปยังตลาดต่างประเทศได้ตามเป้าหมาย โดยเฉพาะในประเทศจีน เกาหลีใต้ รัสเซียและยุโรป เชื่อว่าแบรนด์จะเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด ซึ่งจุดเด่นของผลิตภัณฑ์สมุนไพรวังพรม คือการใช้สมุนไพรในท้องถิ่นมาผสานกับภูมิปัญหาชาวบ้าน มาผลิตเป็นยารักษาโรค ด้วยความเชี่ยวชาญและเป็นที่ยอมรับ สามารถคงคุณภาพมาได้ยาวนานกว่า 24 ปี จนเป็นที่รู้จักในฐานะต้นตำรับผู้ผลิตยาหม่องสมุนไพรอันดับหนึ่งของประเทศไทย" นางสาววัชรีภรณ์ กล่าว
ทั้งนี้ ในส่วนมาตรการสนับสนุนผู้ประกอบจากภาครัฐนั้น กรรมการบริหาร บริษัท สมุนไพรวังพรม จำกัด เสนอว่า เนื่องจากสินค้าและผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยรูปแบบต่างๆ ส่วนใหญ่นำไปใช้ทาหรือรับประทานเข้าสู่ร่างกายโดยตรง ดังนั้น กระบวนการควบคุมตรวจสอบคุณภาพอย่างเข้มงวด จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะสามารถช่วยป้องกันสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือกล่าวอ้างสรรพคุณเกินจริง อันเป็นการทำลายชื่อเสียงและส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการ ที่ดำเนินการตามมาตรฐานการผลิตและกฎหมายอย่างอย่างเคร่งครัด นอกจากนี้หากมีการพิจารณาลดภาษีนำเข้าวัตถุดิบคุณภาพสูงบางประการ ซึ่งจำเป็นต้องนำเข้าในปริมาณมาก เชื่อว่าจะช่วยผู้ประกอบการไทยให้เติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง และสามารถสร้างรายได้เข้าประเทศได้อีกจำนวนมาก
7 ปีแห่งความเชื่อมั่น SNPS คว้า Thailand Trust Mark มุ่งพาสมุนไพรไทยสู่ระดับสากล
บ้านหมอละออง กรุ๊ป สร้างปรากฏการณ์ใหม่ในงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ 2568 ยอดขายทุบสถิติสูงสุด พร้อมบูธโดดเด่น สร้างกระแสตอบรับล้นหลาม
คึกคัก! คนรักสุขภาพแน่นบูธ บ้านหมอละออง กรุ๊ป "ชาย-ชาตโยดม" ร่วมเสวนาเรื่องสมุนไพร
บ้านหมอละออง กรุ๊ป ชวนคนรักสุขภาพลุย "มหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ จัดเต็มโปรฯ พิเศษ พร้อมดึงแบรนด์แอมบาสเดอร์"ชาย-ชาตโยดม"ร่วมเสวนา 4 ก.ค. 68
5-9 มี.ค. ชวนมาช้อปผลิตภัณฑ์และสินค้าคุณภาพจากสมุนไพรไทย ในงาน Oriental Wellness สุขภาพดี วิถีตะวันออก ที่พาราไดซ์ พาร์ค
ผลิตภัณฑ์ตราโป๊ยเซียน จัดกิจกรรม "โป๊ยเซียน ยิ่งให้ยิ่งได้" มอบเงินสนับสนุน 888,888 บาท พร้อมมอบผลิตภัณฑ์ในเครือฯและของที่ระลึก มูลค่ารวมกว่า 500,000 บาท
DITP อวดโฉมผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยดาวเด่น เพิ่มมูลค่าตอบโจทย์ BCG Model ตอบรับเทรนด์ตลาดโลก เจาะตลาดกลุ่มคนรักสุขภาพ
DITP เร่งขยายตลาดสมุนไพรไทย ยกระดับเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์สมุนไพรตอบโจทย์ BCG Model ชี้เทรนด์มาแรง โอกาสสำคัญของผู้ประกอบการ บุกทั้งช่องทางออฟไลน์และออนไลน์