มูลนิธิซิตี้ ร่วมกับยูเอ็นดีพี โชว์ 3 ไอเดียเจ๋งฝีมือเยาวชนไทย ดึงสมาร์ทเทคโนโลยียุคใหม่ แก้ปัญหาสังคม ยกระดับคุณภาพชีวิตชุมชนอย่างยั่งยืน

19 Mar 2019
คงดีไม่น้อย...หากประเทศก้าวหน้า และพัฒนาสังคมไปได้พร้อมๆ กัน
มูลนิธิซิตี้ ร่วมกับยูเอ็นดีพี โชว์ 3 ไอเดียเจ๋งฝีมือเยาวชนไทย ดึงสมาร์ทเทคโนโลยียุคใหม่ แก้ปัญหาสังคม ยกระดับคุณภาพชีวิตชุมชนอย่างยั่งยืน

ประเทศไทย เป็นประเทศที่มีความอุดมสมบูรณ์ทางทรัพยากรเป็นอันดับ 7 ของโลก ส่งผลให้ประเทศมีพัฒนาการด้านการลงทุนในหลากหลายอุตสาหกรรม รวมถึงการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างก้าวกระโดด แม้ข้อมูลดังกล่าวจะสะท้อนภาพการเจริญเติบโตของประเทศที่น่ายินดี แต่การเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว ทำให้สังคมต้องเผชิญกับผลกระทบ อันนำไปสู่ความไม่ยั่งยืน ทั้งปัญหาความเหลื่อมล้ำของรายได้ ปัญหาปากท้อง สุขภาพความเป็นอยู่ ความเท่าเทียม และการเข้าถึงทางสังคม รวมถึงการเปลี่ยนแปลงของทรัพยากรธรรมชาติ ฯลฯ การจะแก้ไขปัญหาดังกล่าว คงต้องอาศัยความร่วมมือของประชาชนทุกคน ร่วมกันหาหนทางแก้ไข พัฒนาวิธีการจัดการความยั่งยืน เพื่อประเทศที่ก้าวหน้า สังคมที่เสมอภาพ และคุณภาพชีวิตประชาชนที่ดีไปพร้อมๆ กัน

นางสาววันวิสาข์ โคมินทร์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายสื่อสารองค์กร ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย ตัวแทนมูลนิธิซิตี้ กล่าวว่า มูลนิธิซิตี้ ในฐานะองค์กรที่มุ่งเน้นส่งเสริมความก้าวหน้าทางเยาวชน และพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ รวมถึงสร้างสภาพเศรษฐกิจชุมชมให้ดีขึ้น ที่ผ่านมาได้ ร่วมกับโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) จัดโครงการ ยูธ โคแล็บ (Youth Co:Lab) โดยเปิดพื้นที่ให้เยาวชนคนรุ่นใหม่ได้นำเสนอไอเดีย และเฟ้นหานวัตกรรม ที่จะช่วยรับมือ และแก้ไขปัญหาสังคมอย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้กรอบปัญหาที่ทวีความท้าทายมากขึ้นในปัจจุบัน 3 ด้าน ได้แก่ การสร้างสังคมที่เข้าถึงได้กับทุกคน การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน และการผลิต และบริโภคอย่างยั่งยืน

นางสาววันวิสาข์ กล่าวเพิ่มว่า โครงการดังกล่าว เน้นการพัฒนาศักยภาพ และเพิ่มขีดความสามารถของเยาวชน เนื่องจากมูลนิธิซิตี้ เชื่อมั่นในศักยภาพของเยาวชนไทย ที่จะเติบโตขึ้นเป็นผู้ขับเคลื่อนสังคมที่สำคัญในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แนวคิดการประยุกต์เทคโนโลยีสมัยใหม่อย่างสร้างสรรค์ เพื่อให้ไอเดียนวัตกรรมเพื่อสังคมนั้น ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ และเข้าถึงได้มากยิ่งขึ้น โดยมีผลงานที่โดดเด่นจำนวนมาก อาทิ

  • บอกลาปัญหาไม่มีงานทำ ด้วยดิจิทัลแพลตฟอร์มจัดหางานเพื่อผู้พิการ – ผู้สูงวัย

ประเทศไทยปัจจุบัน มีจำนวนผู้พิการสูงกว่า 1.8 ล้านคน และมีเพียง 13,000 คน เท่านั้นที่มีงานทำ จึงเป็นที่มาของ Inclusive Recruitment Company ไอเดียโมเดลบริษัทสตาร์ทอัพจัดหางาน บนดิจิทัลแพลต์ฟอร์ม ที่เปิดให้ผู้พิการได้เข้ามาค้นหาตำแหน่งงานที่เปิดรับ จากบริษัทพาร์ทเนอร์ที่เข้าร่วม ทั้งในรูปแบบงานประจำ และอาชีพอิสระ โดยนอกเหนือจากฟังก์ชันการจัดหางานแล้ว ทางบริษัทยังมีการส่งเสริมการเทรนนิ่งฝึกอาชีพให้กับผู้พิการก่อนเข้าสู่การทำงานจริง ซึ่งนอกเหนือจากจะเป็นการสร้างรายได้ ให้ผู้พิการสามารถพึ่งพาตัวเองได้แล้ว ยังสร้างความมั่นใจ และพัฒนาจิตใจให้กับผู้พิการ ให้รู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของสังคมได้อย่างไม่แตกต่าง โดยแนวคิดดังกล่าว สามารถต่อยอดแพลตฟอร์มเพื่อรองรับการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้สูงอายุในอนาคต

  • แอปพลิเคชันท่องเที่ยวสำหรับขาลุย บนเส้นทางวัฒนธรรมชุมชนริมน้ำ

ไอเดียนวัตกรรมเชื่อมต่อระหว่างนักท่องเที่ยว กับชุมชนแหล่งท่องเที่ยวท้องถิ่น ในรูปแบบแอปพลิเคชัน ในชื่อ "the Root Routes" ที่ได้รับแรงบันดาลใจเพื่อการอนุรักษ์อัตลักษณ์ของชุมชน ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม อันนำไปสู่การส่งเสริมรายได้ และส่งเสริมธุรกิจสร้างสรรค์ให้กับชาวบ้านในชุมชนอย่างยั่งยืน โดยโมเดลธุรกิจเพื่อสังคมดังกล่าว มีแนวคิดนำร่องในชุมชนริมน้ำของกรุงเทพ เพื่อให้เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีชีวิตกลางแจ้ง หรือ Living heritage and open-air museum ซึ่งภายในแอปพลิเคชันมาพร้อมฟังก์ชันนำเสนอข้อมูลเชิงลึกอย่างครอบคลุมของพื้นที่ที่ต้องการไป อาทิ การเดินทาง ที่พัก เอกลักษณ์ของชุมชน ไปจนถึงกิจกรรม วัฒนธรรม ประเพณีของชุมชนหรือท้องถิ่นนั้นๆ เพื่ออำนวยความสะดวกในการท่องเที่ยวแก่นักท่องเที่ยว และเผยแพร่คุณค่าด้าน นอกจากนี้ ยังมีฟังก์ชันการจองตารางเข้าร่วมกิจกรรมท้องถิ่น เพื่อให้นักท่องเที่ยวร่วมสัมผัสประสบการณ์การเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอย่างเต็มรูปแบบ

  • แอปพลิเคชันช้อปปิ้งอาหารออนไลน์ ลดปัญหา กินได้...แต่ขายไม่หมด

ปัญหาขยะ ที่มีปริมาณมากเป็นอันดับหนึ่งของประเทศ หนีไม่พ้นขยะเปียก หรือขยะเศษอาหาร และส่งผลให้ประเทศสูญเสียงบประมาณจำนวนมากในการจัดการขยะ รวมถึงต้องเผชิญผลกระทบปัญหาสิ่งแวดล้อม โดย ขยะจำนวนมหาศาล มาจากอาหารปรุงสุก ของสด และผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร ที่วางขายตามห้างสรรพสินค้า และร้านอาหาร ที่มีมากเกินความต้องการ จนทำให้ผู้ขายต้องทิ้งเป็นขยะในท้ายที่สุด จึงเกิดเป็น "Food Hunter" ไอเดียนวัตกรรมอีคอมเมิร์ซ ที่รวบรวมอาหารที่ยังสามารถรับประทานได้ แต่ขายไม่หมดในแต่ละวัน และกำลังจะถูกทิ้งจากห้างร้าน มาขายให้แก่ผู้บริโภคในราคาที่ถูกลง โดยใช้ระบบ Location Based จับตำแหน่งผู้บริโภค และค้นหาซูเปอร์มาร์เก็ตใกล้ที่สุดสำหรับการสั่งซื้อ พร้อมฟังก์ชันอำนวยความสะดวกผู้บริโภคอย่างการจัดส่งสินค้า หรือการแจ้งเตือนเมื่อมีสินค้าจากร้านค้าที่ตนชื่นชอบวางขาย ซึ่งนอกจากจะช่วยให้ผู้บริโภคสามารถซื้อสินค้าได้ในราคาที่ถูกลงแล้ว ผู้ขายยังมีรายรับเพิ่มขึ้น ยังช่วยลดปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นจากขยะดังกล่าวอีกด้วย

นอกเหนือจาก 3 ไอเดียเจ๋งดังกล่าวแล้ว ยังมีอีกหลากหลายไอเดียสร้างสรรค์ ที่สร้างความแปลกใหม่ให้กับการจัดการปัญหาสังคม เพื่อการพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืน ตลอดจนยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ประชาชนในสังคมอย่างเท่าเทียม โครงการยูธ โคแล็บ จัดขึ้นเป็นปีที่ 2 โดยมีเยาวชนสนใจเข้าร่วมกว่า 150 คน ซึ่งสะท้อนศักยภาพของเยาวชนไทย ที่ต้องการนำความรู้ความสามารถ เข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาประเทศในอนาคต ทั้งนี้ ระหว่างวันที่ 4 - 5 เมษายน 2562 จะมีการจัดงาน ยูธ โคแล็บซัมมิท 2019 (Youth Co:Lab Summit 2019) ขึ้นที่มหาวิทยาลัย เนชั่นเนล อีโคโนมิคส์ ฮานอย ประเทศเวียดนาม โดยมีตัวแทนจาก 20 ประเทศเข้าร่วมในการประชุม และคาดว่าจะมีผู้สนใจ และเยาวชนเข้าร่วมกว่า 1,000 คนจากทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งภายในงานจะมีตัวแทนจากทีมที่ชนะเลิศการประกวดจากประเทศไทยเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวอีกด้วย ผู้สนใจสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการยูธ โคแล็บ ได้โดยการติดตาม #YouthCoLab และ youthcolab.org

เกี่ยวกับ มูลนิธิซิตี้

มูลนิธิซิตี้ มีบทบาทในการทำงานที่ส่งเสริมความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ เพื่อพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ ของผู้มีรายได้น้อยในชุมชนทั่วโลกให้ดีขึ้น ด้วยการเพิ่มโอกาสการเข้าถึงแหล่งเงินอย่างทั่วถึง การสร้างอาชีพสำหรับเยาวชน รวมถึงสร้างสภาพเศรษฐกิจของชุมชนที่ดีขึ้น นอกจากการให้ความช่วยเหลือแล้ว มูลนิธิซิตี้ ยังได้ใช้ความเชี่ยวชาญในฐานะสถาบันการเงินชั้นนำ และความพร้อมของพนักงาน ที่สนับสนุนให้พันธกิจของบริษัทประสบความสำเร็จ และขับเคลื่อนแนวคิดความเป็นผู้นำ และนวัตกรรม ดูข้อมูลเพิ่มเติมของมูลนิธิฯ ที่ www.citifoundation.com

เกี่ยวกับ "ซิตี้"

ธนาคารชั้นนำของโลก ที่ให้บริการแก่ลูกค้ากว่า 200 ล้านราย ในกว่า 160 ประเทศ และเขตปกครองทั่วโลก ซิตี้นำเสนอผลิตภัณฑ์ และบริการทางการเงินที่หลากหลายให้กับลูกค้าบุคคล องค์กร ภาครัฐและสถาบันต่างๆ โดยธุรกิจหลักครอบคลุมการธนาคารและสินเชื่อเพื่อลูกค้าบุคคล (สายบุคคลธนกิจ) ธนาคารเพื่อองค์กรและการลงทุน (สายสถาบันธนกิจและวาณิชธนกิจ) ธุรกิจนายหน้าค้าหลักทรัพย์ บริการธุรกรรมทางการเงินต่างๆ รวมถึงบริการบริหารความมั่งคั่ง ตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.citigroup.com | ทวิตเตอร์: @Citi | ยูทูป: www.youtube.com/citi | บล็อก: http://new.citi.com | เฟซบุ๊ก: www.facebook.com/citi | ลิงก์อิน: www.linkedin.com/company/citi

เกี่ยวกับ UNDP

โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ หรือ UNDP เป็นองค์กรพัฒนาในเครือขององค์กรสหประชาชาติซึ่งทำ งานกับกว่า 170 ประเทศทั่วโลกเพื่อสนับสนุนการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development Goals) โดยได้ดำเนินการสนับสนุนและเป็นพันธมิตรที่น่าเชื่อถือกับรัฐบาลไทยและประชาชนไทยมากว่า 50 ปี การทำ งานของโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติในประเทศไทยมุ่งเน้นไปที่การสนับสนุนและขับเคลื่อนการพัฒนาเพื่อให้มีการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสังคมอย่างรอบด้านและยั่งยืนตามแนวทางการยึดมนุษย์เป็นศูนย์กลาง ผ่านโครงการความร่วมมือต่างๆ ทั้งในเรื่องการปกป้องสิทธิมนุษยชน การเพิ่มขีดความสามารถและความเสมอภาคให้แก่ประชาชนทั้งเพศชายและหญิง ชนกลุ่มน้อย คนยากไร้ และผู้ด้อยโอกาสในประเทศไทย โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติทำ งานร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ เอกชน สถาบันการศึกษา และภาคประชาสังคม ในการให้คำ ปรึกษาระดับนโยบายและระดับผู้เชี่ยวชาญเพื่อการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และดำ เนินการพัฒนาในหลากหลายด้าน เช่น การจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน การรักษาความหลากหลายทางชีวภาพ การปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การต่อต้านคอร์รัปชั่น การสร้างชุมชนที่น่าอยู่และยั่งยืน และการพัฒนานวัตกรรมทางสังคม เป็นต้น

มูลนิธิซิตี้ ร่วมกับยูเอ็นดีพี โชว์ 3 ไอเดียเจ๋งฝีมือเยาวชนไทย ดึงสมาร์ทเทคโนโลยียุคใหม่ แก้ปัญหาสังคม ยกระดับคุณภาพชีวิตชุมชนอย่างยั่งยืน มูลนิธิซิตี้ ร่วมกับยูเอ็นดีพี โชว์ 3 ไอเดียเจ๋งฝีมือเยาวชนไทย ดึงสมาร์ทเทคโนโลยียุคใหม่ แก้ปัญหาสังคม ยกระดับคุณภาพชีวิตชุมชนอย่างยั่งยืน มูลนิธิซิตี้ ร่วมกับยูเอ็นดีพี โชว์ 3 ไอเดียเจ๋งฝีมือเยาวชนไทย ดึงสมาร์ทเทคโนโลยียุคใหม่ แก้ปัญหาสังคม ยกระดับคุณภาพชีวิตชุมชนอย่างยั่งยืน