สศท.11 ได้ดำเนินการสำรวจข้อมูลต้นทุน ผลผลิต และราคาที่เกษตรกรขายได้ จากการผลิตพืชอินทรีย์ ปี 2562 ของเกษตรกรกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเกษตรอินทรีย์บ้านหนองมัง อำเภอสำโรง จังหวัดอุบลราชธานี โดยผลการสำรวจพบว่า
ข้าวนาปี มีต้นทุนรวม 3,982 บาท/ไร่ ให้ผลผลิต 378 กิโลกรัม/ไร่ ราคาที่เกษตรกรขายได้อยู่ที่ 16.20 บาท/กิโลกรัม ผลตอบแทนสุทธิ (กำไร) 2,140 บาท/ไร่
พริก ต้นทุนรวม 22,768 บาท/ไร่ ให้ผลผลิต 1,613 กิโลกรัม/ไร่ ราคาที่เกษตรกรขายได้อยู่ที่ 48 บาท/กิโลกรัม ผลตอบแทนสุทธิ (กำไร) 54,047 บาท/ไร่
ถั่วเขียว ต้นทุนรวม 1,628 บาท/ไร่ ให้ผลผลิต 61 กิโลกรัม/ไร่ ราคาที่เกษตรกรขายได้อยู่ที่ 57 บาท/กิโลกรัม ผลตอบแทนสุทธิ (กำไร) 1,864 บาท/ไร่
ต้นหอม ต้นทุนรวม 27,650 บาท/ไร่ ให้ผลผลิต 1,180 กิโลกรัม/ไร่ ราคาที่เกษตรกรขายได้อยู่ที่ 44 บาท/กิโลกรัม ผลตอบแทนสุทธิ (กำไร) 24,659 บาท/ไร่
หอมแดง ต้นทุนรวม 16,045 บาท/ไร่ ให้ผลผลิต 896 กิโลกรัม/ไร่ ราคาที่เกษตรกรขายได้อยู่ที่ 60 บาท/กิโลกรัม ผลตอบแทนสุทธิ (กำไร) 37,428 บาท/ไร่
กระเทียม ต้นทุนรวม 26,115 บาท/ไร่ ให้ผลผลิต 369 กิโลกรัม/ไร่ ราคาที่เกษตรกรขายได้อยู่ที่ 180 บาท/กิโลกรัม ผลตอบแทนสุทธิ (กำไร) 40,309 บาท/ไร่
คะน้า ต้นทุนรวม 4,757 บาท/ไร่ ให้ผลผลิต 780 กิโลกรัม/ไร่ ราคาที่เกษตรกรขายได้อยู่ที่ 53 บาท/กิโลกรัม ผลตอบแทนสุทธิ (กำไร) 36,315 บาท/ไร่
นอกจากนี้ สศท.11 ยังได้สำรวจพืชอินทรีย์ต่างๆ ได้แก่ ผักกาดขาว มะเขือเปราะ ขึ้นฉ่าย ผักกาดหอม และ ผักกาดหัว ซึ่งภาพรวมพบว่า การทำเกษตรอินทรีย์ในพื้นที่ดังกล่าว เกษตรกรมีการควบคุมต้นทุนการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ สินค้าที่ผลิตมีราคาขายสูงเป็นที่น่าพอใจ ส่งผลให้ผลตอบแทนต่อไร่สูง เกษตรกรมีรายได้ดี อีกทั้งยังส่งผลเสริมสุขภาพและคุณภาพชีวิตทั้งเกษตรกรและผู้บริโภคอีกด้วย
กลุ่มวิสาหกิจชุมชนเกษตรอินทรีย์ บ้านหนองมัง จัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2549 ปัจจุบันมีสมาชิก 14 ครอบครัว ส่วนใหญ่ปลูกพืชหมุนเวียนตลอดทั้งปี เนื่องจากมีโรงเรือนพลาสติกคัดเลือกแสง สำหรับคลุมโรงเรือนเพาะปลูก ซึ่งช่วยให้เกษตรกรปลูกผักได้ดีในฤดูฝน ผลผลิตที่โดดเด่นของกลุ่ม คือ ข้าวสินเหล็ก ข้าวหอมนิล ข้าวหอมมะลิแดง และพืชหลังนา เช่น ปลูกผักอินทรีย์ หอมแดง กระเทียม ถั่วเขียว มีการกำหนดระเบียบ เพื่อควบคุมคุณภาพการผลิตตามมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ งดการใช้ปัจจัยการผลิตจากภายนอกเพื่อป้องกันการปนสารเคมี ใช้เฉพาะปัจจัยการผลิตที่ร่วมกันทำขึ้นเอง อาทิ ปุ๋ยหมัก จุลินทรีย์สังเคราะห์แสง เชื้อรา ไตรโคเดอร์มา ไส้เดือนฝอย โดยมีการพัฒนากระบวนการผลิตอย่างต่อเนื่อง ทำให้ปัจจุบันได้กลายเป็นศูนย์ถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านเกษตรอินทรีย์ ให้แก่เกษตรกรที่สนใจเรียนรู้การทำเกษตรอินทรีย์แบบยั้งยืน สินค้าอินทรีย์กลุ่มวิสาหกิจชุมชนเกษตรอินทรีย์บ้านหนองมัง เป็นที่ต้องการของตลาดอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งหน่วยงานในพื้นที่ทั้งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงสาธารณสุข องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา รวมทั้งภาคเอกชนต่างๆ ให้การสนับสนุนตลาดสินค้าข้าวอินทรีย์ พืชผักอินทรีย์ เพื่อส่งไปจำหน่ายตามสถานที่ต่างๆ เช่น โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ โรงพยาบาลสำโรง ร้านบุญนิยม เลมอนฟาร์ม รวมถึงการจำหน่ายด้วยตนเอง สำหรับท่านที่สนใจข้อมูลผลการสำรวจพืชอินทรีย์เพิ่มเติม สามารถสอบถามสอบเพิ่มเติมได้ที่ สศท.11 โทร. 0 4534 4653 อีเมล [email protected] และสามารถขอคำปรึกษาได้ที่ นายปิยะทัศน์ ทัศนิยม ประธานกลุ่มฯ โทร. 09 5532 9707 ซึ่งยินดีให้คำปรึกษาแก่เกษตรกร/กลุ่มเกษตรกร ที่สนใจทำการผลิตแบบอินทรีย์
ของดีเมืองสงขลา 'ส้มโอหอมควนลัง' GI เกษตรกรรวมกลุ่มผลิตส้มโอคุณภาพ ออกตลาด ต.ค. - พ.ย. นี้
'แปลงใหญ่ทั่วไป (ข้าว)' จ.สุพรรณบุรี ผลิตข้าว GAP คุณภาพ แหล่งให้บริการเครื่องจักรกลการเกษตรในพื้นที่ สร้างรายได้ให้กลุ่ม 810,000 บาท/ปี
สศท.12 ชวนศึกษาวิถี เกษตรอินทรีย์ 'บ้านสวนน้อยชมจันทร์' จ.เพชรบูรณ์ แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรแบบยั่งยืน
สศท.5 หนุน 'ผำ' อาหารแห่งอนาคต สู่โปรตีนทางเลือกยุคใหม่ ตามนโยบายเกษตรมูลค่าสูง
ปีนี้ ไม้ผลภาคใต้ 4 ชนิด ผลผลิตรวม 6.7 แสนตัน สศท.8 ชวนบริโภค 'ลองกอง' ในฤดู ก.ย. - ต.ค. นี้ ออกตลาด ร้อยละ 42
สศท.6 ชวนเช็คอิน 'สวนผลอำไพ' จ.ตราด แหล่งเรียนรู้เกษตรอินทรีย์ สร้างมูลค่าเพิ่มเชื่อมโยงการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
สศท.2 เกาะติดสถานการณ์ผลิตทุเรียนภาคเหนือตอนล่าง ปี 68 รวม 6 จังหวัด แตะ 55,000 ตัน เพิ่มขึ้น 12.47%
ภาพรวม ลำไย 8 จังหวัด ภาคเหนือ ปี 68 ผลผลิตรวม 1.06 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 12% ลำไยในฤดูเริ่มออกตลาดแล้ว สศท.1 เชิญชวนบริโภคลำไยคุณภาพ
แปลงใหญ่ยางพารากลุ่มเกษตรกรชาวสวนยา อำเภอหัวตะพาน จังหวัดอำนาจเจริญ ยกระดับรายได้ด้วยมาตรฐาน EUDR