1. ระหว่างวันที่ 14 พฤษภาคม 2561 (วันที่พระราชบัญญัติการยาสูบแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2561 ใช้บังคับ) ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2562 กำหนดให้ การยาสูบแห่งประเทศไทยเสียภาษีเงินได้แทนผู้ขายสินค้ายาสูบ ในอัตราร้อยละ 12.5 ของกำไรของผู้ขายส่งไม่ว่าทอดใด และในอัตราร้อยละ 10 ของกำไรของผู้ขายปลีก ทั้งนี้ กรณีผู้ขายสินค้ายาสูบที่เสียภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีเงินได้ที่การยาสูบแห่งประเทศไทยได้ออกแทนนั้นให้ถือเป็นเครดิตภาษีของผู้ขายสินค้ายาสูบ และกรณีผู้ขายสินค้ายาสูบที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เงินได้จากการขายสินค้ายาสูบที่การยาสูบแห่งประเทศไทยได้ออกภาษีเงินได้แทนนั้น ได้รับยกเว้นไม่ต้องนำมารวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
2. ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2562 การยาสูบแห่งประเทศไทยจะไม่มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้ออกแทนให้ผู้ขายส่งและผู้ขายปลีกสินค้ายาสูบ ดังนั้น ผู้ขายสินค้ายาสูบทั้งที่เป็นนิติบุคคลและบุคคลธรรมดามีหน้าที่นำเงินได้จากการขายสินค้ายาสูบมารวมคำนวณและยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้ประจำปีต่อไป
ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวจะทำให้ผู้ประกอบการที่ขายสินค้ายาสูบของการยาสูบแห่งประเทศไทยมีภาระภาษีเงินได้เช่นเดียวกับการขายสินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไป และยังเป็นการสร้างความเท่าเทียมในการแข่งขันทางการค้าระหว่างผู้ผลิตสินค้าบุหรี่ในประเทศและผู้นำเข้าสินค้าบุหรี่จากต่างประเทศ
ภาพข่าว: พีเอ็มจีผนึกพันธมิตรสร้าง 100 ผู้ประกอบการใหม่ โครงการ “ชี้ช่องรวยมอบอาชีพ สร้างชีวิต สู้โควิด19”
ภาพข่าว: กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ การยาสูบแห่งประเทศไทย ซึ่งจดทะเบียนแล้ว วางใจแต่งตั้ง บลจ.กสิกรไทย เป็นบริษัทจัดการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพต่อเนื่องเป็นวาระที่ 4
ส.ส.เศรษฐกิจใหม่ จี้ รบ. เร่งแก้ปัญหาภาษี ช่วยชาวไร่ยาสูบ
ภาพข่าว: นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานจัดสร้างสวนป่าเบญจกิติ
ความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกยาสูบที่ได้รับผลกระทบจากการลดปริมาณการรับซื้อใบยาสูบ เฉพาะฤดูการผลิต 2561/2562 ของการยาสูบแห่งประเทศไทย
ภาพข่าว: พิธีทำบุญตักบาตรเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร
ภาพข่าว: การประชุมกำหนดมาตรการการป้องกันการลักลอบนำเข้าบุหรี่ต่างประเทศ
ภาพข่าว: การยาสูบฯ แถลงผลการดำเนินงานปีงบประมาณ 2561 และทิศทางการดำเนินงานในปีงบประมาณ 2562