ECF โชว์ผลประกอบการ Q1/62 กวาดรายได้รวม 372.26 ล้านบาท กำไรสุทธิ 9.68 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 2 % เผยแนวโน้ม Q2/62 ฟอร์มดีต่อเนื่อง

15 May 2019
ECF โชว์ผลประกอบการ Q1/62 กวาดรายได้รวม 372.26 ล้านบาท กำไรสุทธิ 9.68 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 2 % เผยแนวโน้ม Q2/62 ฟอร์มดีต่อเนื่อง ธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ ออเดอร์ส่งออกแน่น เพิ่มช่องทางจำหน่ายใหม่ในประเทศ ECF OUTLET ขยายฐานลูกค้าเพิ่ม ด้านธุรกิจพลังงาน โรงไฟฟ้าชีวมวล ผลิตไฟฟ้าได้ตามเป้า เตรียมรับรู้รายได้เพิ่มจากโครงการมินบู เมียนมาร์ ชูกลยุทธ์ดันมาร์จิ้น บริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ
ECF โชว์ผลประกอบการ Q1/62 กวาดรายได้รวม 372.26 ล้านบาท กำไรสุทธิ 9.68 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 2 % เผยแนวโน้ม Q2/62 ฟอร์มดีต่อเนื่อง

นายอารักษ์ สุขสวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีสต์โคสท์เฟอร์นิเทค จำกัด (มหาชน) (ECF) เปิดเผยถึง ผลประกอบการไตรมาส 1/62 ว่า บริษัทมีรายได้รวม 372.26 ล้านบาท ซึ่งถือว่าใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่บริษัทยังสามารถสร้างกำไรได้ โดยมีกำไรสุทธิ 9.68 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 9.48 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 2%

สำหรับแนวโน้มธุรกิจในช่วงไตรมาส 2/62 คาดว่าจะเติบโตดีต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการขยายตลาดธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ โดยตลาดในประเทศ บริษัทมุ่งเน้นกระตุ้นยอดขายผ่านแบรนด์ Costa ขยายฐานตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่ต่างๆเพิ่มเติม จากปัจจุบันกระจายสินค้าเข้าสู่ร้านค้าปลีก-ส่งเฟอร์นิเจอร์ทั่วประเทศแล้วกว่า 1,500 แห่ง และขยายช่องทางจำหน่ายร้านโมเดิร์นเทรดชั้นนำที่มีการเปิดสาขาใหม่ทั่วประเทศ ล่าสุดเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายใหม่ ECF OUTLET บนพื้นที่โชว์รูมแสงอุดมไลท์ติ้ง รังสิต เปิดโชว์รูมจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ทุกแบรนด์ ภายใต้การผลิตและจำหน่ายของบริษัท ซึ่งถือเป็นการเพิ่มช่องทางการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าในประเทศ และสร้างความหลากหลายของช่องทางการจำหน่ายสินค้า

ด้านตลาดต่างประเทศ มีสัญญาณการเติบโตที่ดี จากกลุ่มลูกค้าหลักในญี่ปุ่นและกลุ่มลูกค้า รายใหม่ ที่บริษัทได้ขยายฐานการจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ส่งออกไปประเทศจีน ประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งมี ยอดคำสั่งซื้อสินค้าเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก โดยในปีนี้จะเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าดังกล่าวเพิ่มขึ้น เพราะมองว่าเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีศักยภาพ มีกำลังซื้อ และสามารถที่จะส่งคำสั่งซื้อได้อย่างต่อเนื่อง ปัจจุบัน บริษัทมีสัดส่วนรายได้จากยอดขายต่างประเทศอยู่ที่ 59 % และในประเทศ อยู่ที่ 41 %

ขณะที่ธุรกิจพลังงานทดแทน ปีนี้จะเห็นการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรอย่างชัดเจนมากขึ้น โดยที่ผ่านมาได้รับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวลภาคใต้ขนาด 7.5 เมกะวัตต์ ขณะที่โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ขนาด 220 MW มินบู ประเทศ เมียนมาร์ คาดว่าจะเริ่ม COD เฟสที่ 1 ขนาดกำลังการผลิต 50 เมกะวัตต์DC ภายในไม่เกินไตรมาส 2 นี้ คาดว่าบริษัทจะสามารถรับรู้ส่วนแบ่งกำไรได้ทันทีในช่วงครึ่งปีหลัง ส่วนการเริ่ม COD ของเฟสที่ 2 3 และ 4 จะทยอยการก่อสร้างให้แล้วเสร็จ โดยมีกำหนดระยะเวลาดำเนินการหลัง COD 360 วันของแต่ละเฟสเป็นลำดับต่อไป

อีกทั้งบริษัทมีการวางแผนงานบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเริ่มเห็นผลจากนโยบายการควบคุมค่าใช้จ่ายตั้งแต่ช่วงไตรมาสที่ 1 ปีนี้เป็นต้นมา นอกจากนี้จะเน้นเพิ่มความสามารถในการทำกำไรในธุรกิจต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้บริษัทมีการเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ ตั้งเป้ารายได้โต 10-12 % และรักษาอัตรากำไรสุทธิให้อยู่ในช่วง 5% - 7%