สธ. ใช้มาตรการ 1-3-7 พร้อมร่วมมือทุกภาคส่วนเร่งกำจัดโรคไข้มาลาเรียให้หมดจากประเทศไทยในปี 2567

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

          25 เมษายน ของทุกปี ตรงกับวันมาลาเรียโลก คำขวัญปี 2562 นี้ รณรงค์ด้วยแนวคิด "เริ่มต้นที่ตัวเราสู่เป้ามาลาเรียเป็นศูนย์" เน้นให้ประชาชนร่วมกันป้องกันตนเองจากโรคไข้มาลาเรีย กระทรวงสาธารณสุข เดินหน้าใช้มาตรการ 1-3-7 หากพบผู้ป่วยให้แจ้งเตือนภายใน 1 วัน ระบุแหล่งแพร่เชื้อภายใน 3 วัน ควบคุมแหล่งแพร่เชื้อภายใน 7 วัน และติดตามอาการผู้ป่วยอย่างต่อเนื่องครบทุกราย พร้อมร่วมมือทุกภาคส่วนเร่งกำจัดโรคไข้มาลาเรียให้หมดจากประเทศไทยในปี 2567
          นายแพทย์ปรีชา เปรมปรี รองอธิบดีกรมควบคุมโรค พร้อมผู้แทนสถานทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ผู้แทนองค์การอนามัยโลก(WHO)และผู้แทน Asia Pacific Leader Malaria Alliance (APLMA)กว่า 10 ประเทศร่วมเปิดกิจกรรมรณรงค์ World Malaria day: Zero Malaria Starts with me "เริ่มต้นที่ตัวเรา สู่เป้ามาลาเรียเป็นศูนย์" เนื่องในวันมาลาเรียโลก 25 เมษายน เพื่อความร่วมมือที่เข้มแข็งจากทุกภาคส่วนในการกำจัดโรคไข้มาลาเรียให้หมดจากประเทศไทยในปี 2567 พร้อมมอบใบประกาศนียบัตรรับรอง 25 อำเภอที่สามารถหยุดการแพร่เชื้อไข้มาลาเรียมากกว่า 2 ปี โดยมีคณะกรรมการอำนวยการกำจัดมาลาเรียแห่งชาติ ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุข จากส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค เครือข่ายภาคประชาสังคม ร่วมงานกว่า 200 คนซึ่งงานนี้ได้รับเกียรติจากผู้แทน สถานทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย องค์การอนามัยโลก (WHO) และ Asia Pacific Leader Malaria Alliance (APLMA) ร่วมกล่าวแสดงความยินดีกับความก้าวหน้าของประเทศไทย พร้อมแสดงเจตนารมณ์ให้การสนับสนุนการกำจัดโรคไข้มาลาเรียทั้งในประเทศไทยและทั่วโลกด้วย
          นายแพทย์ปรีชา กล่าวว่า 25 เมษายน ของทุกปี ตรงกับ "วันมาลาเรียโลก" คำขัวญปี2562นี้รณรงค์ด้วยแนวคิด "เริ่มต้นที่ตัวเราสู่เป้ามาลาเรียเป็นศูนย์"เน้นให้ประชาชนร่วมกันป้องกันตนเองจากโรคไข้มาลาเรีย เพื่อเร่งกำจัดโรคไข้มาลาเรียให้หมดไปจากประเทศไทยในปี 2567 โดยประเทศไทยได้ปรับนโยบาย จากการ"ควบคุมโรค" เป็นการ "กำจัดโรค" ตามเกณฑ์องค์การอนามัยโลก และจากรายงานสถานการณ์โรคไข้มาลาเรียในประเทศไทยพบผู้ป่วยโรคไข้มาลาเรียในปี 2553 จาก 150,000 ราย ลดลงในปี 2561 เหลือ 6,607 ราย หรือลดลงประมาณร้อยละ 95 และพบว่าพื้นที่แหล่งแพร่เชื้อลดลงเหลือเพียง 161 อำเภอ ในจำนวนดังกล่าวมี 25 อำเภอที่สามารถหยุดการแพร่เชื้อโรคมาลาเรียได้มากกว่า 2 ปี นับว่าประสบความสำเร็จในการควบคุมโรค ดังนั้นเพื่อกำจัดโรคมาลาเรียให้หมดไปจากประเทศไทยขอให้ทุกภาคส่วนร่วมมือกัน โดยเฉพาะประชาชนขอให้มีส่วนร่วมดำเนินการตามแนวคิด "เริ่มต้นที่ตัวเรา สู่เป้ามาลาเรียเป็นศูนย์" เพื่อหยุดการแพร่โรค ก้าวสู่จังหวัดปลอดมาลาเรียต่อไป
          สำหรับมาตรการดำเนินการกำจัดโรคไข้มาลาเรียตามลักษณะของพื้นที่ประกอบด้วย 1.อำเภอที่มีการแพร่เชื้อให้เร่งรัดค้นหาผู้ติดเชื้อ กำหนดพื้นที่เสี่ยง ประชากรกลุ่มเสี่ยง ค้นหาผู้ป่วยเชิงรุกในกลุ่มเสี่ยงอย่างน้อย 2 ครั้ง/ปี ขยายการให้บริการตรวจรักษาเชิงรับ ควบคุมยุงพาหะให้ครอบคลุมทุกหลังคาเรือน 2.อำเภอหยุดการแพร่เชื้อ 1-2 ปี ค้นหาผู้ป่วยเชิงรุกในกลุ่มเสี่ยงอย่างน้อย 1 ครั้ง/ปี ขยายการให้บริการตรวจรักษาเชิงรับครอบคลุมทุกหลังคาเรือน 3.อำเภอปลอดโรคไข้มาลาเรียให้ดำเนินมาตรการเฝ้าระวังโรค หากพบผู้ป่วยต้องทำมาตรการ 1-3-7 แจ้งเตือนโรคภายใน 1 วัน สอบสวนโรคเพื่อระบุแหล่งแพร่เชื้อภายใน 3 วัน ควบคุมแหล่งแพร่เชื้อภายใน 7 วัน ติดตามการกินยาและผลการรักษาให้ครบทุกราย และรณรงค์ให้ประชาชนร่วมกันป้องกันตนเองจากโรคไข้มาลาเรีย
          "โรคไข้มาลาเรีย" มียุงก้นปล่องเป็นพาหะนำโรค ยุงชนิดนี้มีแหล่งเพาะพันธุ์บริเวณป่าเขาสูง ป่าทึบ สวนยางพารา แหล่งน้ำธรรมชาติ เริ่มออกหากินเวลาใกล้ค่ำจนรุ่งสาง จึงขอแนะนำประชาชนที่อาศัยหรือเดินทางไปพักค้างคืนในพื้นที่ดังกล่าว ป้องกันตัวเองไม่ให้ยุงกัด เช่น นอนในห้องที่มีมุ้งลวดหรือกางมุ้ง มุ้งคลุมเปล ใช้ยาทากันยุง เป็นต้น ส่วนอาการของโรคหลังจากถูกยุงก้นปล่องที่มีเชื้อมาลาเรียกัด ประมาณ 10-14 วัน จะมีอาการไข้สูง ปวดศีรษะ หนาวสั่น สลับร้อน เหงื่อออก รู้สึกสบาย แล้วกลับมาเป็นไข้ใหม่อีกครั้ง ถ้ามีอาการดังกล่าวให้สงสัยว่าเป็นไข้มาลาเรีย ขอให้รีบไปพบแพทย์ เพื่อเจาะเลือดตรวจหาไข้มาลาเรียและแจ้งประวัติการไปในพื้นที่เสี่ยงให้แพทย์ทราบด้วย เพื่อการรักษาที่รวดเร็ว หากล่าช้าอาจมีอาการแทรกซ้อนร้ายแรง เช่น มาลาเรียขึ้นสมอง น้ำตาลในเลือดต่ำ เหลืองซีด ปัสสาวะสีดำ ไตล้มเหลว ปอดบวมน้ำ ทำให้เสียชีวิตได้
สธ. ใช้มาตรการ 1-3-7 พร้อมร่วมมือทุกภาคส่วนเร่งกำจัดโรคไข้มาลาเรียให้หมดจากประเทศไทยในปี 2567
 

ข่าวปรีชา เปรมปรี รองอธิบดี+อธิบดีกรมควบคุมโรควันนี้

มจพ .มอบหุ่นยนต์ประดู่แดงฉายแสง UVC แก่สถาบันบำราศนราดูร สู้ภัยโควิค

ศ.ดร.สุชาติ เซี่ยงฉิน อธิการบดี พร้อมด้วยคุณภรณี ลีนุตพงษ์ กรรมการสภามหาวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิ ผศ.สมชาย เวชกรรม รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษาและศิษย์เก่าสัมพันธ์ อาจารย์ ดร.สราวุฒิ สืบแย้ม ผู้ช่วยอธิการบดีการคลังและกิจการทั่วไป ผศ.ดร.ณัฐพงศ์ มกระธัช ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายพัฒนาสิ่งแวดล้อมและกายภาพ และทีมผู้วิจัย รศ.ดร.ศุภชัย ตระกูลทรัพย์ทวี และผศ.ดร.สถาพร วังฉาย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) ร่วมมอบหุ่นยนต์ประดู่แดงฉายแสง UVC รับมอบโดย นพ.ปรีชา เปรมปรี รองอธิบดีกรมควบคุมโรค

คุณสุพร วัธนเวคิน ประธานกรรมการมูลนิธิอิอ... มูลนิธิอิออนประเทศไทย สนับสนุนเงินให้กรมควบคุมโรค เพื่อเดินหน้าสู้ภัยโควิด-19 — คุณสุพร วัธนเวคิน ประธานกรรมการมูลนิธิอิออนประเทศไทย มอบเงินจำนวน 200,000 ...

เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2564 นายพุทธิพงษ์ ป... ดีอีเอส- ร่วมทีมพัฒนาฯ จับมือแถลงส่งมอบหมอชนะให้รัฐบาล — เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2564 นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสัง...

แพทย์หญิงอัจฉรา นิธิอภิญญาสกุล อธิบดีกรมอ... กรมอนามัย ร่วมกับ ภาคีเครือข่าย รณรงค์ป้องกัน “4 เน้น 4 เดือน” ลดผู้ป่วยไข้เลือดออก — แพทย์หญิงอัจฉรา นิธิอภิญญาสกุล อธิบดีกรมอนามัย มอบหมายแพทย์หญิงนงนุช...

นายแพทย์ปรีชา เปรมปรี รองอธิบดี กรมควบคุม... ภาพข่าว: อิมแพ็ค ส่งมอบอาหารกล่องขอบคุณทีมแพทย์เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานสถานการณ์โควิด-19 — นายแพทย์ปรีชา เปรมปรี รองอธิบดี กรมควบคุมโรค พร้อมด้วย นายแพทย์...