มร.อี้ เสี่ยวปิง (Mr. Yi Xiaobing) กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไฮเซ่นส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า จากรายงาน "BrandZ Top 50 Chinese Global Brand Builders" ฉบับล่าสุดซึ่งจัดทำโดย WPP และ KANTAR โดยความร่วมมือกับ Google จากรายงานดังกล่าวยังได้เปิดเผยถึงดัชนีชี้วัดอิทธิพลของแบรนด์ ซึ่งไฮเซนส์มีอัตราการเติบโตสูงถึง 55% จาก 530 สู่ 823 คะแนน โดยได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในห้าแบรนด์ที่เติบโตเร็วที่สุดแห่งปีร่วมกับแบรนด์ชั้นนำ ได้แก่ เทนเซ็นต์ (Tencent) และ กรี (Gree)
ทั้งนี้ การที่ไฮเซนส์ติดอันดับ "BrandZ Top 10 Chinese Global Brand Builders" ถือเป็นความสำเร็จจากอิทธิพลและกลยุทธ์ของแบรนด์ในระดับโลก ปัจจุบัน ไฮเซนส์ เป็นเจ้าของบริษัทที่ตั้งอยู่ทั่วโลกจำนวนทั้งสิ้น 54 แห่ง มีฐานการผลิตตั้งอยู่ในต่างประเทศ 5 แห่ง ซึ่งดำเนินงานเพื่อรองรับห่วงโซ่อุปทานของแบรนด์ และยังมีศูนย์ R&D อีก 7 แห่ง ทำการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อสร้างผลิตภัณฑ์อันทันสมัยสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง
สำหรับการเติบโตอันรวดเร็วของแบรนด์ไฮเซนส์นั้น เกิดจากดำเนินกลยุทธ์ Sport Marketing โดยไฮเซนส์ได้ให้การสนับสนุนและร่วมกิจกรรมการตลาดระดับโลกกับการแข่งขันฟุตบอลโลก หรือ ฟีฟ่า เวิลด์คัพ 2018 (FIFA World Cup(TM)) ส่งผลให้การรับรู้ของแบรนด์ไอเซนส์ในระดับโลกเพิ่มขึ้นถึง 6% ภายหลังจากการแข่งขันสิ้นสุดลง นอกจากนี้ ไฮเซนส์ยังมีโอกาสได้ร่วมมือกับสหภาพสมาคมฟุตบอลยุโรป หรือ ยูฟ่า (EUFA) อีกครั้ง และได้ร่วมเป็นหนึ่งในพันธมิตรระดับโลกของการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2020 (UEFA EURO 2020) ซึ่งจะทำให้แบรนด์ไฮเซนส์ได้รับความสนใจและเป็นที่จดจำในตลาดระดับนานาชาติเพิ่มมากขึ้น
"ปีที่ผ่านมา ไฮเซนส์ กรุ๊ป (Hisense Group) มียอดขายเพิ่มขึ้น 14.02% ส่วนรายได้จากต่างประเทศเพิ่มสูงขึ้นถึง 29.9% โดยรายได้จากยอดขายของไฮเซนส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (Hisense International) ปรับตัวเพิ่มขึ้น 10.7% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า แสดงให้เห็นถึงการเติบโตอย่างต่อเนื่องและการได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภคในด้านคุณภาพและความคุ้มค่า" มร.เสี่ยวปิง กล่าว
ทั้งนี้ จากข้อมูลในรายงาน "BrandZ Top 50 Chinese Global Brand Builders" ยังแสดงให้เห็นว่า แบรนด์จากประเทศจีนนั้นมีการเติบโตอย่างรวดเร็วในตลาดญี่ปุ่น ฝรั่งเศส และสเปน โดยเฉพาะการเติบโตในด้านอิทธิพลของแบรนด์ โดยไฮเซนส์ซึ่งถือเป็นบริษัทจีนชั้นนำในด้านการพัฒนาตลาดต่างประเทศ และยังคงมีผลการดำเนินงานที่ดีในตลาดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นภูมิภาคอเมริกาเหนือ, ยุโรป, แอฟริกา, ตะวันออกกลาง, และเอเชีย-แปซิฟิก โดยในปี 2561 ยอดขายของแบรนด์ไฮเซนส์ในประเทศแคนาดาและอังกฤษเติบโตขึ้นถึง 30% ส่วนในประเทศแอฟริกาใต้ สเปน ญี่ปุ่น และฝรั่งเศส ก็มียอดขายที่เติบโตในอัตราตัวเลขสองหลักอีกด้วย ส่วนในประเทศไทยไฮเซ่นส์ยังคงใช้กลยุทธ์ที่เน้นความแข็งแกร่งของช่องทางจัดจำหน่ายต่อไป พร้อมดำเนินกิจกรรมต่างๆ กับพันธมิตรอย่างต่อเนื่อง
"JAS" เข้าร่วมงานเปิดตัว "พรีเมียร์ลีก" ประเทศเวียดนาม "FPT Play" จัดยิ่งใหญ่ประกาศความพร้อมการถ่ายทอดสด
"ฮอนด้า วันเมคเรซ แชมเปี้ยนส์ อวอร์ดส์ 2025" มอบแชมป์ประจำปีสุดยิ่งใหญ่ "ประพจน์-ทัศไนย" ครองบัลลังก์โอเวอร์ออลล์ "หทัย-ปิยะวดี-สิรภพ" ผงาด ฮอนด้าคลับ
"HANN" จับธุรกิจแพทย์เฉพาะด้าน เตรียมเปิดคลินิกสุขภาพผู้ชาย แห่งแรกของอีสาน
มูลนิธิ อินเตอร์เนชั่นแนล เอสโอเอส เผยแพร่รายงานฉบับใหม่ เตือนความเสี่ยงด้านความปลอดภัยจากสภาพอากาศสุดขั้วและภัยธรรมชาติ
ไฮเซ่นส์จับมือเป็นพันธมิตรระยะยาวกับฟีฟ่า มุ่งสร้างอนาคตอันสมบูรณ์แบบ ใช้เทคโนโลยีทำให้โลกดีขึ้น
ไฮเซ่นส์ ปล่อยโปรเด็ดแห่งปี กับ Hisense 8.18 Super Brand Day มอบส่วนลดสูงสุดกว่า 60% วันที่ 18 สิงหาคมนี้ วันเดียวเท่านั้น!
ไฮเซ่นส์ ประกาศเปิดตัว VIDAA แพลตฟอร์มสมาร์ททีวีโฉมใหม่ทั่วโลก
ภาพข่าว: เหล่าสุดยอดนักขายไฮเซ่นส์เปิดประสบการณ์