นายแพทย์ดนัย เจียรกูล ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 10 จังหวัดอุบลราชธานี (สคร.10) เปิดเผยว่า จากสภาพอากาศร้อนอบอ้าวและร้อนจัดในหลายพื้นที่ของภาคอีสาน ซึ่งในช่วงอากาศร้อนจัดประชาชนมีความเสี่ยงเจ็บป่วยเนื่องจากร่างกายปรับตัวไม่ทันกับความร้อนที่เกิดขึ้น ปกติร่างกายมนุษย์มีอุณหภูมิ 37 องศาเซลเซียส หากเผชิญกับอากาศที่ร้อนกว่านี้และไม่สามารถปรับลดอุณหภูมิได้อาจเกิดโรคลมแดด หรือฮีตสโตรก (Heat Stroke) อาจทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตจากการทำงานที่ผิดปกติของระบบสมอง อาการคือตัวร้อนจัดขึ้นเรื่อยๆ เกินกว่า 40 องศาเซลเซียส หายใจเร็ว ไม่มีเหงื่อออก อ่อนเพลีย คลื่นไส้ ปวดศีรษะ ความดันต่ำ มึนงง ชักเกร็ง และหมดสติ
          นายแพทย์ดนัย กล่าวต่อไปว่า กลุ่มเสี่ยงที่มีโอกาสเกิดโรคลมแดด 6 กลุ่มเสี่ยงได้แก่ 1.ผู้ที่ทำงานหรือทำกิจกรรมกลางแดด เช่น เล่นกีฬาหรือฝึกทหารโดยขาดการเตรียมตัวมาก่อน ผู้ใช้แรงงานกลางแดด เช่น กรรมกร ก่อสร้าง เกษตรกร 2.เด็กอายุต่ำกว่า 5 ปีและผู้สูงอายุ 3.ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคความดันโลหิตสูง 4.คนอ้วน 5.คนอดนอน และ 6.คนที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จัด
          สำหรับการช่วยเหลือผู้ป่วยโรคลมแดดมี 5 ขั้นตอน ได้แก่ 1.นำผู้มีอาการเข้าร่ม นอนราบ ยกเท้าสูงทั้งสองข้าง ถอดเสื้อผ้าชั้นนอกออก 2.เทน้ำเย็นราดลงบนตัวเพื่อลดอุณหภูมิร่างกายให้ลดต่ำลงโดยเร็วที่สุด 3.ใช้ผ้าชุบน้ำเย็นหรือน้ำแข็งประคบตามซอกคอ รักแร้ ขาหนีบ 4.ไม่ควรใช้ผ้าเปียกคลุมตัวเพราะจะขัดขวางการระเหยของน้ำออกจากร่างกาย 5.รีบนำส่งโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดหรือโทรศัพท์ขอความช่วยเหลือสายด่วน 1669
          ส่วนการป้องกันไม่ให้เป็นลมแดด คือหลีกเลี่ยงการอยู่กลางแดดที่ร้อนจัด โดยเฉพาะเด็ก ผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัวด้านหลอดเลือดหรือหัวใจ หากจำเป็นให้กางร่มหรือใส่หมวก ดื่มน้ำเปล่ามาก ๆ ตลอดทั้งวันโดยไม่ต้องรอหิวน้ำ ไม่ทิ้งเด็กเล็กหรือผู้ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ไว้ในรถที่จอดตากแดดเพราะอาจเสียชีวิตจากความร้อนได้ หากรู้สึกหิวน้ำมาก ตัวร้อนแต่เหงื่อไม่ออก หายใจถี่ ปากคอแห้ง อาจวิงเวียนศีรษะ ให้รีบไปพบแพทย์ หากประชาชนมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422
                    
                                                                                                                                        
                                                                                        
                            
                            สคร.12 สงขลา เตือน โรคพิษสุนัขบ้า ติดเชื้อถึงตาย แนะ หากถูกสุนัขกัดให้รีบไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า
                        
                            สคร.12 สงขลา ชวนปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เพื่อป้องกัน โรคหัวใจและหลอดเลือด เนื่องในวันหัวใจโลก 2568
                        
                            สคร.12 สงขลา เตือนผู้ปกครอง ระวังบุตรหลาน ป่วยด้วยโรคติดเชื้อทางเดินหายใจจากเชื้อไวรัสอาร์เอสวี (RSV)
                        
                            ลุยน้ำ ย่ำโคลน เสี่ยง เลปโตสไปโรสิส (โรคไข้ฉี่หนู) สคร. 12 สงขลา เตือน มีไข้ ปวดน่อง อย่าซื้อยาทานเอง ให้รีบพบแพทย์
                        
                            สคร.12 สงขลา เตือนโรคไข้เลือดออกอันตรายในช่วงหน้าฝน แนะสังเกตอาการบุตรหลาน หากสงสัยป่วยเป็นไข้เลือดออก อย่าซื้อยากินเอง ให้รีบพาไปพบแพทย์ทันที
                        
                            สคร.12 สงขลา แนะวิธีปฏิบัติให้ปลอดภัยจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 พร้อมแนะให้ติดตามและเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
                        
                            สคร.12 สงขลา เตือน ระวังป่วยโรค มือ เท้า ปาก พบบ่อยในเด็กเล็ก
                        
                            สคร.12 สงขลา เตือน ระวังป่วยโรคเมลิออยโดสิส เสี่ยงอันตรายถึงชีวิต
                        
                            สคร.12 สงขลา ร่วมรณรงค์วันไข้เลือดออกอาเซียน 2568 อาเซียนร่วมใจ สร้างอนาคตปลอดภัย ไม่ป่วยตายด้วยไข้เลือดออก