ผลสำรวจ “เอคเซนเชอร์ เทคโนโลยี วิชั่น 2019” ในไทย โลก “หลังยุคดิจิทัล” เปิดทางให้เกิดโอกาสใหม่สำหรับธุรกิจ

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

           รายงาน เอคเซนเชอร์ เทคโนโลยี วิชั่น 2019 ซึ่งจัดทำขึ้นเป็นรายปีโดยเอคเซนเชอร์ (NYSE: ACN) เพื่อคาดการณ์แนวโน้มหลักด้านเทคโนโลยีที่จะส่งผลให้มีการจำกัดความธุรกิจใหม่ในช่วง 3 ปีข้างหน้า ได้ชี้ให้เห็นว่าองค์กรต่าง ๆ กำลังก้าวเข้าสู่ช่วง "หลังยุคดิจิทัล" (post-digital era) ที่ความสำเร็จขององค์กรจะขึ้นอยู่กับความสามารถในการใช้เทคโนโลยีชุดใหม่ ในการสร้างความสมจริงและประสบการณ์ที่ตรงใจลูกค้า พนักงาน และพันธมิตรทางธุรกิจ 
          รายงานประจำปีนี้ในหัวข้อ "โลกหลังยุคดิจิทัลอยู่เบื้องหน้าเราแล้ว – คุณพร้อมสำหรับอนาคตแล้วหรือยัง" (The Post-Digital Era is Upon Us – Are You Ready for What's Next?) ได้ตอกย้ำการที่องค์กรต่าง ๆ ได้เดินทางมาถึง ณ จุดพลิกผัน เทคโนโลยีดิจิทัลได้ช่วยให้บริษัทเข้าใจลูกค้าได้ดีเพราะมีฐานข้อมูลใหม่เชิงลึก ช่วยเพิ่มช่องทางการเข้าถึงลูกค้า และยังช่วยขยายระบบนิเวศให้เชื่อมไปถึงพันธมิตรใหม่ที่มีศักยภาพ แต่ดิจิทัลไม่ได้เพียงสร้างความได้เปรียบเชิงแข่งขันอีกต่อไป แต่เป็นสิ่งที่ต้องพิจารณาอย่างรอบด้านเมื่อนำเข้ามาใช้ 
          อันที่จริง ราว 4 ใน 5 (ร้อยละ 79) ของผู้บริหารกิจการและที่ดูแลด้านไอทีกว่า 6,600 คนทั่วโลกที่เอคเซนเชอร์ทำการสำรวจในรายงานฉบับนี้ เชื่อกันว่าเทคโนโลยีดิจิทัล โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับสื่อสังคม โมบายล์ อนาลิติกส์ และคลาวด์ ได้ก้าวข้ามการเป็นสิ่งที่ใช้แยกส่วนกัน กลายเป็นส่วนหนึ่งของพื้นฐานเทคโนโลยีหลักขององค์กร
          "โลกหลังยุคดิจิทัล ไม่ได้แปลว่าหมดยุคของดิจิทัลแล้ว" นายนนทวัฒน์ พุ่มชูศรี กรรมการผู้จัดการ เอคเซนเชอร์ ประเทศไทยกล่าว "ในทางกลับกัน เรากำลังตั้งคำถามใหม่ว่า ขณะที่ทุกองค์กรได้พัฒนาขีดความสามารถด้านดิจิทัลกันหมด อะไรจะทำให้ "คุณ" ต่างจากคนอื่น? รายงานเทคโนโลยี วิชั่นของเราจึงเน้นให้เห็นถึงแนวทางต่าง ๆ ที่องค์กรจะนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ อันทรงพลังมาใช้คิดค้นโมเดลธุรกิจและสร้างประสบการณ์ส่วนบุคคลให้แก่ลูกค้า ขณะเดียวกัน ผู้นำขององค์กรก็ต้องให้ความสำคัญกับคุณค่าของมนุษย์ ทั้งในเรื่องความไว้วางใจและความรับผิดชอบ ซึ่งไม่ใช่เป็นเพียงคำกล่าวสวยหรู แต่เป็นตัวแปรสำคัญที่จะนำไปสู่ความสำเร็จได้"
          รายงานเทคโนโลยี วิชั่นได้หยิบยก 5 แนวโน้มเด่นด้านเทคโนโลยี ที่บริษัทต่าง ๆ จะต้องรับมือ หากต้องการประสบความสำเร็จท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่ผันแปรไปอย่างรวดเร็ว ได้แก่
          - DARQ Power: ทำความเข้าใจดีเอ็นเอของ DARQ เทคโนโลยีเปลี่ยนโลก เทคโนโลยี DARQ ได้แก่ Distributed ledger แบบบล็อกเชนที่กระจายข้อมูลเชื่อมโยงกัน, Artificial intelligence ปัญญาประดิษฐ์หรือเอไอ, Extended reality ความเป็นจริงขยาย และ Quantum computing การประมวลผลควอนตัม ได้กลายเป็นตัวเร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลง เพราะเทคโนโลยีเหล่านี้ช่วยผลักดันให้เกิดขีดความสามารถใหม่ ๆ ที่ไม่ธรรมดา และเปิดโลกให้ธุรกิจมองภาพรวมอุตสาหกรรมในมุมใหม่
เมื่อให้ผู้ตอบแบบสำรวจเรียงลำดับเทคโนโลยีที่จะส่งผลต่อองค์กรของตนมากที่สุดในช่วง 3 ปีข้างหน้า ก็พบว่าร้อยละ 41 ของผู้บริหารให้เทคโนโลยีเอไอมาเป็นอันดับหนึ่ง มากกว่าสองเท่าของที่เทคะแนนให้เทคโนโลยีอื่นในกลุ่ม DARQ
          - Get to Know Me: ถอดรหัสลูกค้าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ และเข้าถึงโอกาสเฉพาะเจาะกลุ่ม ปฏิสัมพันธ์ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีได้ช่วยสร้างอัตลักษณ์ทางเทคโนโลยีสำหรับผู้บริโภคแต่ละราย ซึ่งการรู้จักตัวตนของลูกค้าตรงนี้จะเป็นกุญแจสำคัญต่อการทำความเข้าใจลูกค้าคนรุ่นใหม่ ทำให้สามารถสร้างสัมพันธ์ผ่านประสบการณ์ที่ตอบโจทย์เฉพาะตัวและมีคุณค่าสาระ ซึ่งกว่า 4 ใน 5 ของผู้บริหาร (ร้อยละ 83) เผยว่า โครงสร้างประชากรดิจิทัลทำให้องค์กรต้องใช้วิธีการใหม่ในการหาโอกาสทางการตลาดเพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคที่ยังไม่มีใครตอบโจทย์
          - Human+ Worker: ปรับที่ทำงาน หรือปิดกั้นคนทำงาน เมื่อคนทำงานกลายเป็น human+ หรือก็คือคนที่มาพร้อมกับชุดทักษะและความรู้ บวกด้วยขีดความสามารถที่สั่งสมและพัฒนาขึ้นตามความสามารถของเทคโนโลยี กิจการต่าง ๆ จึงต้องสนับสนุนการทำงานรูปแบบใหม่ในช่วงหลังยุคดิจิทัล ผู้บริหารกว่า 2 ใน 3 (ร้อยละ 71) เชื่อว่า พนักงานของตนมีความคุ้นเคยและเชี่ยวชาญด้านดิจิทัลมากกว่าองค์กร ส่งผลให้คนทำงานต้อง "รอ" ให้องค์กรของตนก้าวตามให้ทัน
          - Secure Us to Secure Me: องค์กรไม่ใช่เหยื่อ แต่เป็นตัวนำ เมื่อธุรกิจที่ขับเคลื่อนด้วยระบบนิเวศต้องอาศัยการเชื่อมต่อถึงกัน แต่ความเชื่อมโยงเหล่านั้นกลับเพิ่มความเสี่ยงเข้ามาด้วย ธุรกิจชั้นนำตระหนักดีว่าความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญเมื่อต้องทำงานร่วมกับพันธมิตรในระบบนิเวศเพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ บริการ และประสบการณ์ที่ดีที่สุด ทว่ามีผู้บริหารเพียง
ร้อยละ 29 ที่เผยว่า ทราบดีว่าพันธมิตรในระบบนิเวศของตนได้ดำเนินการอย่างจริงจังด้านมาตรฐานความปลอดภัย และ
มีความสามารถในการแก้ไขฟื้นฟูระบบได้ทันท่วงที
          - MyMarkets: ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้ทันที "เดี๋ยวนี้ ตอนนี้" เทคโนโลยีได้สร้างโลกที่เต็มไปด้วยประสบการณ์เฉพาะตัวที่สรรสร้างได้ตามความต้องการของลูกค้า บริษัทจึงต้องปรับองค์กรใหม่ให้ก้าวทัน ให้สามารถค้นหาและไขว่คว้าโอกาสเหล่านั้นให้ได้ หมายความว่าจะต้องมองโอกาสแต่ละอย่างให้เป็นเหมือนหนึ่งตลาดหรือเป็นตลาดเฉพาะกิจ ซึ่งมีผู้บริหารสัดส่วน 6 ใน 7 (ร้อยละ 85) ที่เผยว่า การบูรณาการทั้งการตอบโจทย์แต่ละบุคคลและการนำเสนอแบบเรียลไทม์เข้าด้วยกัน จะเป็นคลื่นลูกถัดไปของความได้เปรียบเชิงแข่งขันของธุรกิจ

ผลสำรวจเด่นที่ได้จากผู้บริหารไทย
          - ร้อยละ 95 ได้เริ่มทดลองใช้เทคโนโลยีในกลุ่ม DARQ (Distributed ledger แบบบล็อกเชนที่กระจายข้อมูลเชื่อมโยงกัน, Artificial intelligence ปัญญาประดิษฐ์หรือเอไอ, Extended reality ความเป็นจริงขยาย และ Quantum computing) แล้ว หนึ่งประเภทหรือมากกว่านั้น
          - ร้อยละ 90 เห็นด้วยว่า โครงสร้างประชากรดิจิทัลทำให้องค์กรต้องใช้วิธีการใหม่ในการหาโอกาสทางการตลาดเพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคที่ยังไม่มีใครตอบโจทย์
          - ร้อยละ 60 เห็นด้วยว่า พนักงานของตนมีความคุ้นเคยและเชี่ยวชาญด้านดิจิทัลมากกว่าองค์กร ส่งผลให้คนทำงานต้อง "รอ" ให้องค์กรของตนก้าวตามให้ทัน
          - มีเพียงร้อยละ 28 เท่านั้นที่เผยว่า ทราบดีว่าพันธมิตรในระบบนิเวศของตนได้ดำเนินการอย่างจริงจังด้านมาตรฐานความปลอดภัย และมีความสามารถในการแก้ไขฟื้นฟู
          - ร้อยละ 95 ยอมรับว่า การบูรณาการทั้งการตอบโจทย์แต่ละบุคคลและการนำเสนอแบบเรียลไทม์เข้าด้วยกัน จะเป็นคลื่นลูกถัดไปของความได้เปรียบเชิงแข่งขันของธุรกิจ
          รายงานฉบับนี้ยังชี้ให้เห็นว่า นวัตกรรมสำหรับองค์กรในยุคหลังดิจิทัล หมายรวมถึงการหาทางพัฒนาโลกโดยเน้นคนเป็นสำคัญ และเลือกเวลาที่เหมาะสมในการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการ องค์กรได้เริ่มก้าวไปสู่โลกที่ต้องปรับตัวเองให้เข้ากับทุก ๆ สภาวการณ์ เป็นโลกที่ผลิตภัณฑ์ บริการ และแม้แต่สภาพแวดล้อมรอบตัวผู้คน ก็ปรับเปลี่ยนให้ตรงกับตามความต้องการได้ และเป็นโลกที่ธุรกิจตอบโจทย์ของแต่ละบุคคล ทุก ๆ ด้านของชีวิตและการงาน สร้างสิ่งต่าง ๆ ให้เห็นเป็นรูปธรรม
          บริษัทหนึ่งที่ยกระดับการสนองต่อความแตกต่างและความต้องการของแต่ละบุคคล (individualization and customization) ไปอีกขั้นคือ Zozotown กิจการอีคอมเมิร์ซรายใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ซึ่งได้นำ Zozosuit เส้นใยสแปนเด็กซ์แนบเนื้อ มาเชื่อมเข้ากับ แอปฯ Zozotown ช่วยให้ลูกค้าวัดขนาดรูปร่างได้ตรงเป๊ะ ผ้าทุกชิ้นตามขนาด ก็จะถูกส่งตรงมาจากฝ่ายผลิตในบริษัทภายในเวลาเพียง 10 วัน และไม่เพียงแต่ในแวดวงแฟชั่นเท่านั้นที่เทคโนโลยีได้เข้ามาช่วยตอบสนองความต้องการของแต่ละคน ซึ่งเป็นเรื่องที่ในอดีตทำไม่ได้ กิจการค้าปลีกของสหรัฐฯ คือ Sam's Club ได้พัฒนาแอปฯ โดยใช้เทคโนโลยีแมชชีนเลิร์นนิ่งและข้อมูลการซื้อของลูกค้าในอดีตมาป้อนข้อมูลอัตโนมัติไว้ให้ในรายการซื้อของ และบริษัทก็มีแผนเพิ่มฟีเจอร์นำทางไปซื้อของแต่ละชิ้นในร้านด้วยเส้นทางที่ดีที่สุดด้วย
          รายงานฉบับนี้ยังได้ระบุว่า กิจการที่ยังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านไปสู่ยุคดิจิทัล ต่างมองหาจุดเด่นเฉพาะที่เป็นข้อได้เปรียบ อาจเป็นด้านบริการเชิงนวัตกรรม ประสิทธิภาพที่สูงขึ้น หรือการสนองต่อโจทย์ส่วนบุคคลได้ดีขึ้น ส่วนบริษัทในโลกหลังยุคดิจิทัลนั้น มองไปไกลกว่าการแข่งขัน โดยพยายามรวมเอาจุดแข็งต่าง ๆ มาเปลี่ยนกลไกของตลาด จากที่เคยเป็นตลาดเดียว ก็กลายเป็นหลาย ๆ ตลาดที่ตอบโจทย์เฉพาะ ตอบสนองได้ตามต้องการและในเวลานั้น ๆ ดังเช่นที่ JD.com แพลตฟอร์มค้าปลีกของจีนที่ใช้ "Toplife" เป็นแพลตฟอร์มให้บริการบุคคลภายนอกในการขายของผ่าน JD โดยเข้าไปช่วยเปิดร้านให้ในลักษณะที่ต้องการ ให้เข้าถึง
          ซัพพลายเชนที่มีบริการขนส่งด้วยเทคโนโลยีหุ่นยนต์และโดรนที่ทันสมัย นอกจากนี้ ยังได้ร่วมมือกับวอลมาร์ต (Walmart) เปิดร้านในเมืองเสิ่นเจิ้น นำเสนอสินค้ากว่า 8,000 รายการ ที่สามารถมาเลือกชมด้วยตนเองหรือให้จัดส่งจากร้านโดยใช้เวลาไม่ถึง 30 นาที ประสิทธิภาพในการตอบโจทย์ส่วนบุคคลและความเร็วในการบริการ ทำให้ JD ช่วยบริษัทอื่น ๆ ได้ไปพร้อมๆ กับการสร้างตลาดใหม่ให้กับตัวเอง 
          เป็นเวลาเกือบ 2 ทศวรรษที่เอคเซนเชอร์ได้สำรวจสถานการณ์ธุรกิจอย่างเป็นระบบ เพื่อค้นหาแนวโน้มทางเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่อาจทรงประสิทธิภาพจนสามารถปฏิวัติวงการหรือ disrupt ธุรกิจและอุตสาหกรรมต่าง ๆ ได้ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรายงานปีนี้ ติดตามได้ทาง www.accenture.com/technologyvision หรือติดตามความเคลื่อนไหวได้ทางทวิตเตอร์ที่แฮชแท็ก #TechVision2019

วิธีการวิจัย
          รายงานเอคเซนเชอร์ เทคโนโลยี วิชั่นจัดทำขึ้นทุกปีโดยเอคเซนเชอร์ แล็บ แอนด์ เอคเซนเชอร์ รีเสิร์ช (Accenture Labs and Accenture Research) สำหรับรางานประจำปี 2019 นี้ ได้ทำการวิจัยโดยการรวบรวมข้อมูลจากคณะกรรมการที่ปรึกษาภายนอกของรายงานเทคโนโลยี วิชั่น ที่ประกอบด้วยบุคคลผู้มากประสบการณ์กว่า 24 ท่านที่มาทั้งจากภาครัฐฯ และเอกชน แวดวงวิชาการ องค์กรร่วมลงทุนและบริษัทผู้ประกอบการทั้งหลาย นอกจากนี้ ทีมงานของเทคโนโลยี วิชั่นได้ทำการสัมภาษณ์ผู้มีชื่อเสียงในแวดวงเทคโนโลยีและผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม รวมถึงผู้บริหารในเอคเซนเชอร์ร่วม 100 คน ในขณะเดียวกันเอคเซนเชอร์ รีเสิร์ชยังได้จัดทำการสำรวจออนไลน์ไปยังผู้บริหารธุรกิจและไอที 6,672 คน เพื่อให้เข้าใจมุมมองต่อการนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาใช้ การสำรวจนี้ได้ช่วยให้พบประเด็นและปัจจัยที่มีความสำคัญอันดับต้น ๆ ในการเลือกใช้และลงทุนด้านเทคโนโลยี ผู้ตอบแบบสำรวจล้วนเป็นผู้บริหารระดับอาวุโส (C-level) และกรรมการของบริษัทต่าง ๆ ใน 27 ประเทศ ร่วม 20 อุตสาหกรรม ส่วนใหญ่เป็นกิจการที่มีรายได้ต่อปีมากกว่า 6 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ

เกี่ยวกับเอคเซนเชอร์
          เอคเซนเชอร์ เป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์ ให้คำปรึกษาทางธุรกิจ ดิจิทัล การบริหารเทคโนโลยีและการปฏิบัติการชั้นนำของโลก และด้วยประสบการณ์ การทำงานอย่างลึกซึ้ง ผนวกกับศักยภาพที่สมบูรณ์แบบในกว่า 40 อุตสาหกรรมซึ่งครอบคลุมทุกสายงานของธุรกิจ พร้อมด้วยเครือข่ายการให้บริการที่ใหญ่ที่สุดในโลก ทำให้เอคเซนเชอร์สามารถร่วมมือกับลูกค้า เชื่อมต่อธุรกิจและเทคโนโลยีเข้าด้วยกัน ยกระดับองค์กรของลูกค้าให้เป็นองค์กรที่มีศักยภาพและสมรรถภาพสูง สามารถสร้างคุณค่าอันยั่งยืนแก่ผู้ถือหุ้นได้ ปัจจุบันเอคเซนเชอร์ มีพนักงานประมาณ 469,000 คนในกว่า 120 ประเทศ เอคเซนเชอร์มุ่งพัฒนานวัตกรรมที่ช่วยให้การใช้ชีวิตและการทำงานมีคุณภาพดีขึ้น ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.accenture.com
ผลสำรวจ “เอคเซนเชอร์ เทคโนโลยี วิชั่น 2019” ในไทย โลก “หลังยุคดิจิทัล” เปิดทางให้เกิดโอกาสใหม่สำหรับธุรกิจ

ข่าวเอคเซนเชอร์+ยุคดิจิทัลวันนี้

เปิดรับสมัครแล้ว! PIM International Hackathon #5 ชิงทุนการศึกษากว่า 200,000 บาท ชวนนักเรียน-นักศึกษา ร่วมออกแบบโมเดลธุรกิจสีเขียวฉบับคนรุ่นใหม่! ตอบโจทย์โลกที่ยั่งยืน

วิทยาลัยนานาชาติ สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ (International College Panyapiwat Institute of Management) ร่วมกับ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ธนาคารเอชเอสบีซี ประเทศไทย (HSBC Thailand) บริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค แฟคทอรี่ ออโตเมชั่น (ประเทศไทย) จำกัด กลุ่มบริษัทซีดีจี (CDG Group) เอคเซนเชอร์ ประเทศไทย (Accenture Thailand) คณะบริหารธุรกิจ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (KMITL Business School) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และ อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย

FII เผยประชากรทั่วโลกวิตกปัญหาค่าครองชีพ ความโดดเดี่ยว เทคโนโลยี และสภาพอากาศมากขึ้น

การสำรวจความคิดเห็นผู้คน 50,000 คนจาก 23 ประเทศทั่วโลก เผยให้เห็นความวิตกกังวลที่เพิ่มขึ้นในประเด็นต่าง ๆ สถาบันโครงการลงทุนเพื่ออนาคต (Future Investment Initiative) หรือ FII องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรระดับโลก ร่วมกับ เอค...

นิตยสารฟอร์จูน เผย 100 สตรีผู้ทรงอิทธิพลที่สุดในวงการธุรกิจ

แคเรน เอส ลินช์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของซีวีเอส เฮลธ์ อยู่ในอันดับที่ 1 ติดต่อกันเป็นปีที่ 3 ในการจัดรายชื่อประจำปีครั้งที่ 26 ตามมาด้วยจูลี สวีต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเอคเซนเชอร์ และแมรี บาร์รา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของจีเอ็ม...

ความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นในโลกอย่างต่อเนื่... ธุรกิจไทยไม่ควรพลาด! ส่อง 5 เทรนด์ใหญ่ทิศทางความสัมพันธ์ระหว่างคนกับธุรกิจ ในครึ่งปีหลัง 2566 — ความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นในโลกอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่...

บริษัท ซีโร่แบงก์ ดีไซน์ แฟกทอรี จำกัด (Z... Zerobank Design Factory พัฒนาระบบหลักให้ Minna Bank ยกระดับสู่บริการธนาคารบนคลาวด์เต็มรูปแบบ — บริษัท ซีโร่แบงก์ ดีไซน์ แฟกทอรี จำกัด (Zerobank Design Fa...