เจตาแบคไตรมาส 3 รายได้ 415.23 ล. เพิ่มขึ้น 79.32% มีกำไร 42.31 ล. ปี62 กลับสู่ภาวะปกติ-ลุยสร้างโรงงานใหม่ในเวียดนาม

08 Nov 2019
บมจ.เจตาแบค ประกาศงบไตรมาส 3 รายได้ 415.23 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 79.32%มีกำไร 42.31 ล. เพิ่มขึ้น 31.46 ล. จากช่วงเดียวกันของปีก่อน งวด 9 เดือนรายได้ 849.44 ล้านบาท มีกำไร 55.02 ล้านบาท กำ Backlog อีก 922.23 ล้านบาทรับรู้ช่วงที่เหลือของปีต่อเนื่องถึงปีหน้า ชี้ผลประกอบการรวมปีนี้เข้าสู่ภาวะปกติ หลังปีก่อนผลงานแผ่ว เหตุทุ่มพัฒนาสินค้าใหม่ที่มีtechnologyสูงเพื่อขยายและต่อยอดธุรกิจระยะยาว พร้อมลุยงานต่างประเทศ สร้างโรงงานเพิ่มในเวียดนาม และ บริษัทร่วมทุนในเยอรมนีเริ่มมีออเดอร์ต่อเนื่อง
เจตาแบคไตรมาส 3 รายได้ 415.23 ล. เพิ่มขึ้น 79.32% มีกำไร 42.31 ล. ปี62 กลับสู่ภาวะปกติ-ลุยสร้างโรงงานใหม่ในเวียดนาม

นายสุชาติ มงคลอารีย์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เจตาแบค จำกัด (มหาชน) หรือ GTB ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องกำเนิดไอน้ำ (Steam Boiler)และระบบเผาไหม้ (Combustion System)ที่ใช้ในโรงไฟฟ้าและอุตสาหกรรมแทบทุกประเภท งานวิศวกรรมพลังงานความร้อน (Thermal Energy Engineering)ที่เกี่ยวกับเรื่องประหยัดพลังงาน และ Energy Solution Provider เปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2562 ว่า บริษัทฯมีรายได้ 415.23 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 79.32% มีกำไร 42.31 ล้านบาท และงวด 9 เดือน บริษัทฯมีรายได้ 849.44 ล้านบาท มีกำไร 55.02 ล้านบาท โดยผลประกอบการดังกล่าวส่งผลจากที่บริษัทฯและบริษัทย่อยรับรู้รายได้จากส่วนของวิศวกรรมการออกแบบ ส่วนการผลิตและส่งมอบให้ลูกค้าได้ตามสัญญาทั้งในประเทศและต่างประเทศ และควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดี

จากผลประกอบการที่ปรับตัวดีขึ้นดังกล่าว ทำให้คาดว่าผลประกอบการของบริษัทฯโดยรวมในปี 2562 จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ภายหลังในปี 2561 กำไรลดลง สาเหตุหลักสืบเนื่องจากบริษัทฯได้ทุ่มเทให้กับการพัฒนาสินค้าใหม่ที่มี technology สูงเพื่อรองรับตลาด Industry 4.0 เช่น IGTB ที่บริษัทได้รับรางวัลทุนสนับสนุนจากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ(NIA) การขยายขอบเขตสู่ธุรกิจพลังงาน โดยเป็นEnergy Solution Provider คือการให้บริการ ออกแบบ ผลิต และ ติดตั้ง ระบบและอุปกรณ์ที่นำพลังงานความร้อนที่สูญเสียกลับใช้ประโยชน์ใหม่ในขบวนการผลิตรวมทั้งผลิตกระแสไฟฟ้า รวมทั้งการติดตั้งเครื่องจักรใหม่และขยายโรงงาน เพื่อรองรับโรงไฟฟ้าชีวมวลและโรงไฟฟ้าขยะที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอีกมาก เป็นการสร้างโอกาสทางธุรกิจเพื่อการเติบโตของบริษัทฯในระยะยาว

โดยช่วงที่เหลือของปี 2562 บริษัทมีงานในมืออีกกว่า 922.23 ล้านบาทพร้อมผลิตและส่งมอบเพื่อรับรู้รายได้ในช่วงครึ่งหลังของปีต่อเนื่องไปถึงปีหน้า ทั้งนี้ ปัจจุบันมีสัดส่วนรายได้มาจากในประเทศ 80% ต่างประเทศ 20%

ขณะเดียวกันบริษัทฯให้ความสำคัญกับการบุกตลาดต่างประเทศโดยเฉพาะประเทศในกลุ่มอาเซียนโดยเริ่มลุยที่ประเทศเวียดนามก่อน ได้จัดตั้งสำนักงานออฟฟิศเรียบร้อยแล้วดำเนินการภายใต้ บริษัท เจตาแบค เวียดนาม จำกัด (GTV) บริษัทมีแผนการจะก่อสร้างโรงงาน 1แห่งที่ประเทศเวียดนามเพื่อรองรับโครงการใหญ่หลายโครงการเพิ่มเข้ามาต่อเนื่อง ซึ่งเวียดนามมีการลงทุนจากทุกๆอุตสาหกรรมมากขึ้น อาทิ อุตสาหกรรมปิโตรเคมี อุตสาหกรรมรถยนต์ และอุตสาหกรรมอาหารที่มีการเติบโตอย่างมาก ส่งผลต่อความต้องการใช้เครื่องกำเนิดไอน้ำและอุปกรณ์ประหยัดพลังงานเพิ่มขึ้นตามไปด้วย โดยก่อนหน้านี้ GTV ได้รับคำสั่งซื้อจากลูกค้ารายใหญ่ 3 ราย มูลค่ารวมกว่า 100 ล้านบาท ที่คาดว่าจะมีการรับรู้รายได้ในปีนี้ประมาณ 60% และส่งผลให้ GTV ในปีนี้กลับมามีกำไรเมื่อเทียบกับผลการดำเนินงานขาดทุนในปีที่ผ่านมา

เช่นเดียวกับ บริษัทร่วมทุน SCHNEIDER Energy Systems GmbH จดทะเบียนและจัดตั้งในประเทศเยอรมนี โดยบริษัทถือหุ้นร่วมกับ SCHNEIDER-KESSEL Beteilligungs GmbH ในสัดส่วน 40 : 60 เพื่อดำเนินธุรกิจออกแบบทางวิศวกรรมด้านประหยัดพลังงาน ผลิตอุปกรณ์ประหยัดพลังงาน รวมทั้งงานติดตั้งและบริการ ขณะนี้เริ่มมีคำสั่งซื้อเข้ามา บริษัทคาดหวังว่าการร่วมทุนในครั้งนี้ นอกจากช่วยเพิ่มยอดขายให้กับกลุ่มบริษัท และขยายธุรกิจในประเทศแถบยุโรป และอเมริกา เพื่อสร้างผลตอบแทนให้กับบริษัทแล้ว ยังเป็นการถ่ายทอดเทคโนโลยีระดับสูงจากประเทศเยอรมัน มาให้กับกลุ่มบริษัทเจตาแบค จำกัด(มหาชน) หรือ GTBในการพัฒนาผลิตสินค้าใหม่ๆที่มีเทคนิคสูงเพื่อรองรับตลาด Industry 4.0

จากการขยายงานต่างประเทศที่กล่าวมาจะส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของสัดส่วนรายได้ที่เพิ่มขึ้นของบริษัทในอนาคต

ฝากข่าวประชาสัมพันธ์?

ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit