จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยศาสตราจารย์ ดร.บัณฑิต เอื้ออาภรณ์ อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือใน "โครงการการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์" ร่วมกับนายอนันต์ วงศ์เบญจรัตน์ รองปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วยนายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) - อพท. ณ ห้องประชุม 111 อาคารมหาจุฬาลงกรณ์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ศาสตราจารย์ ดร.บัณฑิต เอื้ออาภรณ์ อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับหน่วยงานหลักด้านการท่องเที่ยวอย่างกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และ อพท. นับเป็นอีกก้าวสำคัญของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในการขับเคลื่อนการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพท้องถิ่นและชุมชน โดยใช้องค์ความรู้และนวัตกรรมเพื่อพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์อย่างยั่งยืน สอดคล้องกับนโยบายคณะรัฐมนตรีชุดปัจจุบันที่ได้แถลงต่อรัฐสภา ในด้านการพัฒนาเศรษฐกิจและความสามารถในการแข่งขันของไทย การพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจและกระจายความเจริญสู่ภูมิภาค รวมถึงการพัฒนาสร้างความเข้มแข็งจากฐานราก
"อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวถือเป็นฟันเฟืองสำคัญของระบบเศรษฐกิจไทยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ถึงแม้การพัฒนาการท่องเที่ยวที่ผ่านมาจะเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวได้อย่างต่อเนื่อง แต่ก็ก่อให้เกิดความเสื่อมโทรมด้านสิ่งแวดล้อมตามมา ประกอบกับการที่ประเทศไทยติดอยู่ในกับดักรายได้ปานกลางเป็นเวลานาน จากปัญหาเหล่านี้ จึงได้เกิดแนวคิดการขับเคลื่อนโครงการการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ขึ้น เพื่อเป็นทางเลือกการท่องเที่ยวที่นอกเหนือจากการท่องเที่ยวกระแสหลัก ซึ่งแนวคิดนี้ก็ยังสอดคล้องกับแผนแม่บทเทคโนโลยีสารสนเทศการสื่อสารของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พ.ศ. 2558 – 2562 รวมถึงสอดคล้องกับยุทธศาสตร์การพัฒนาการท่องเที่ยวเมืองรองของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่ต้องการลดการกระจุกตัวของนักท่องเที่ยวในเมืองท่องเที่ยวขนาดใหญ่"
โครงการการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ (Development of Creative Tourism) เป็นหนึ่งในชุดโครงการแผนพัฒนาวิชาการ "สร้างเสริมพลังจุฬาฯ ก้าวสู่ศตวรรษที่ 2" ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยสถาบันเอเชียศึกษา ร่วมกับนักวิจัยจากสหสาขาวิชาจาก 11 คณะและสถาบัน บูรณาการศาสตร์ ความรู้และความเชี่ยวชาญต่าง ๆ ประกอบด้วย ชุดโครงการที่ 1 การพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ในพื้นที่จังหวัดน่าน และ ชุดโครงการที่ 2 การพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์เพื่อสังคมพหุวัฒนธรรม โดยมีระยะเวลาดำเนินโครงการ 3 ปี ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2562 ถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2565 โดยได้รับงบประมาณสนับสนุน จำนวน 54.4 ล้านบาท
สำหรับโครงการชุดที่ 1 พื้นที่จังหวัดน่าน ประกอบด้วย 8 โครงการย่อย ซึ่งคณะผู้วิจัยจะทำการศึกษาการพัฒนาการท่องเที่ยวในจังหวัดน่านในบริบทเชิงธรรมชาติ สุขภาพและวัฒนธรรมเพื่อให้เกิดการท่องเที่ยว การผลิตสินค้าและบริการรูปแบบใหม่ โดยใช้ภูมิปัญญาและต้นทุนทางวัฒนธรรมเป็นตัวขับเคลื่อน เพื่อให้ชุมชนมีรายได้อย่างยั่งยืนและพึ่งพาตนเองได้ รวมถึงทำการศึกษาและรวบรวมข้อมูลเพื่อยกระดับและเพิ่มศักยภาพของการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ ทั้งในด้านการจัดการขนส่งเพื่อการท่องเที่ยวในจังหวัดน่าน การประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ในจังหวัดน่าน การจัดการท่องเที่ยวเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวอิสระชาวจีนที่จะมาท่องเที่ยวในจังหวัดน่านเพิ่มขึ้นเมื่อการเดินทางระหว่างน่านและหลวงพระบางสะดวกขึ้นในอนาคตอันใกล้
โครงการชุดที่ 2 ครอบคลุมพื้นที่ฝั่งอันดามัน ประกอบด้วย 4 โครงการย่อย โดยจะทำการศึกษาและรวบรวมข้อมูลด้านประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมเบื้องต้นเกี่ยวกับชาวเล คนไทยพลัดถิ่น และกลุ่มชาติพันธุ์ในมะริด จัดทำเอกสารสื่อความหมายทางชาติพันธุ์และวัฒนธรรม พัฒนาเส้นทางท่องเที่ยว สร้างกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์และแหล่งเรียนรู้ในรูปแบบของศูนย์วัฒนธรรมหรือพิพิธภัณฑ์ ภายใต้กรอบแนวคิดการมีส่วนร่วมในชุมชน ยกระดับและเพิ่มศักยภาพของการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ด้วยการจัดการขนส่งเพื่อการท่องเที่ยวระหว่างอันดามันและเมียนมา รวมถึงส่งเสริมความเข้าใจเรื่องการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ของชุมชน และสร้างพื้นที่สื่อสารระหว่างชุมชน นักท่องเที่ยวและพื้นที่สาธารณะ
ทั้งนี้ ภายใต้กรอบความร่วมมือพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ ระหว่าง 3 หน่วยงาน จะครอบคลุมการดำเนินงาน 3 ด้าน ได้แก่ 1. ร่วมมือในการสนับสนุนการวิจัยเพื่อพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ที่ยั่งยืน 2. ร่วมมือในการสนับสนุนด้านงานวิจัย เพื่อสร้างและพัฒนานักวิจัย ตลอดจนจัดการเรียนการสอนเพื่อการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์และ 3. นำองค์ความรู้และผลจากการวิจัยไปใช้ประโยชน์ในมิติต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อการพัฒนาประเทศ
"การลงนามครั้งนี้ เป็นการสร้างมิติความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ และสถาบันการศึกษาในการพัฒนาศักยภาพของชุมชนบนฐานทรัพยากรทางการท่องเที่ยวที่มีอยู่ ยกระดับพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์บนพื้นฐานการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ตลอดจนสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับภาคธุรกิจและภาคส่วนต่าง ๆ เพื่อสร้างความยั่งยืนและการกระจายรายได้สู่ชุมชน ขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศและสังคมไทย"
นายอนันต์ วงศ์เบญจรัตน์ รองปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ความร่วมมือกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในโครงการการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ มีความสอดคล้องกับแผนแม่บทด้านการท่องเที่ยว ภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2561-2580) ซึ่งได้กำหนดแนวทางหนึ่งในการพัฒนาการท่องเที่ยวของประเทศ คือ การพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์และวัฒนธรรม โดยมีเป้าหมายการกระจายรายได้สู่พื้นที่เมืองรอง โดยเฉพาะการส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาการท่องเที่ยวโดยชุมชน เพิ่มรายได้ให้แก่เศรษฐกิจฐานราก ซึ่งเป็นประเด็นเร่งด่วนที่กระทรวงฯ จะต้องเร่งขับเคลื่อนในระยะ 5 ปีแรก
"เป้าหมายภายใต้แผนแม่บทด้านการท่องเที่ยวที่สำคัญประเด็นหนึ่ง คือ สัดส่วนรายได้จากการท่องเที่ยวพื้นที่เมืองรองเพิ่มสูงขึ้น ดังนั้นการร่วมกันขับเคลื่อนการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ จึงเป็นการดำเนินการพัฒนาสินค้าและบริการของชุมชนอย่างสร้างสรรค์ โดยเฉพาะชุมชนที่อยู่ในพื้นที่เมืองรอง ซึ่งสอดคล้องกับความต้องการของนักท่องเที่ยวที่มีความนิยมในอัตลักษณ์ของสินค้าและบริการท้องถิ่น และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง การพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการท่องเที่ยวโดยชุมชน ยังมีความต้องการให้เกิดเป็นอัตลักษณ์ของท้องถิ่นอีกมาก และผลิตภัณฑ์ ดังกล่าว ยังสามารถต่อยอดเป็นสินค้าที่ระลึกของชุมชน เกิดการกระจายรายได้เข้าสู่เศรษฐกิจฐานรากในพื้นที่ใหม่"
นอกจากการพัฒนาสินค้าและบริการอย่างสร้างสรรค์แล้ว การพัฒนาบุคลากรและทรัพยากรมนุษย์ในด้านการสร้างภาคเครือข่ายการท่องเที่ยวโดยชุมชน ยังทำให้ทุกภาคส่วนเกิดความเข้าใจและเชื่อมโยงซึ่งกันและกัน อันจะเป็นรากฐานและกลไกสำคัญในการผลักดันให้การพัฒนาการท่องเที่ยวของไทยประสบความสำเร็จ
ด้าน นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการ อพท. กล่าวว่า อพท. มีภารกิจหน้าที่ในการพัฒนาการท่องเที่ยวให้เกิดความยั่งยืนเพื่อเพิ่มรายได้และกระจายรายได้สู่ชุมชนท้องถิ่น โดยมี "แผนขับเคลื่อน อพท. ระยะ 4 ปี (2562-2565)" ภายใต้วิสัยทัศน์"เป็นองค์กรแห่งความเป็นเลิศด้านการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนเพื่อสร้างชุมชนแห่งความสุข" และมีพันธกิจสำคัญที่ต้องดำเนินการ 4 ประการ ดังนี้ (1) พัฒนาพื้นที่ต้นแบบเพื่อสร้างการท่องเที่ยวโดยชุมชน (2) พัฒนาการบริหารจัดการการท่องเที่ยวโดยชุมชน (3) ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์เสริมสร้างเศรษฐกิจชุมชน และ (4) บูรณาการร่วมกับทุกภาคีเพื่อพัฒนาขีดความสามารถในการบริหารจัดการการท่องเที่ยว
"ตลอดระยะเวลาการดำเนินงาน ๑๖ ปีที่ผ่านมา อพท. ตระหนักดีว่า ชุมชนท้องถิ่นคือเจ้าของทรัพยากรการท่องเที่ยวที่แท้จริง และการท่องเที่ยวจะยั่งยืนได้นั้น ผลประโยชน์จะต้องเกิดกับคนในชุมชน ดังนั้น การท่องเที่ยวโดยชุมชนจึงเป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน โดยมีกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์เข้ามาช่วยเพิ่มมูลค่าการท่องเที่ยว ทำให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสวิถีชีวิตท้องถิ่น ภูมิปัญญา ศิลปวัฒนธรรมอย่างลึกซึ้ง และใช้เวลาอยู่ในชุมชนนานขึ้น ใช้จ่ายในชุมชนมากขึ้น จึงนับเป็นกลไกสำคัญในการเพิ่มรายได้และกระจายรายได้สู่ชุมชนได้อย่างแท้จริง พร้อมทั้งสืบสานวัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่นให้คงอยู่ต่อไป"
ศาสตราจารย์ ดร.บัณฑิต เอื้ออาภรณ์ อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ยังกล่าวด้วยว่า "จุฬาฯ มุ่งหวังว่าความร่วมมือครั้งนี้ นอกเหนือมิติด้านเศรษฐกิจ สนับสนุนการขยายตัวของภาคการท่องเที่ยวตามนโยบายของภาครัฐแล้ว ยังมีเป้าหมายหลักให้เกิดการพัฒนายกระดับคุณภาพด้านการท่องเที่ยวโดยชุมชน ภายใต้ทรัพยากรทางการท่องเที่ยว ทุนทางวัฒนธรรมที่มีอยู่ผนวกเข้ากับนวัตกรรมที่เชื่อมโยงองค์ความรู้จากงานวิจัย หลังจากสิ้นสุดโครงการแล้วจะมีการทำวิจัยเพื่อการถอดบทเรียน และการผลักดันเชิงนโยบายเพื่อพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์อย่างยั่งยืน เป็นต้นแบบให้กับพื้นที่อื่น ๆ ในภูมิภาค"
 
                                                                                                                                         
                                                                                                                            
                                                                                                                             
                             กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จัดประชุมเผยแพร่ผลการศึกษาโครงการประเมินผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการท่องเที่ยวเชิงธุรกิจ ปี 2568
                            กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จัดประชุมเผยแพร่ผลการศึกษาโครงการประเมินผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการท่องเที่ยวเชิงธุรกิจ ปี 2568
                         รองผู้ว่าฯ นครปฐม ร่วมชิม "สำรับทับแก้ว" นักศึกษาปริญญาเอก ม.ศิลปากร โชว์เสน่ห์ปลายจวัก ดึงของดีเมืองพระปฐม ลงเมนูโภชนศิลป์ถิ่นทวารวดี
                            รองผู้ว่าฯ นครปฐม ร่วมชิม "สำรับทับแก้ว" นักศึกษาปริญญาเอก ม.ศิลปากร โชว์เสน่ห์ปลายจวัก ดึงของดีเมืองพระปฐม ลงเมนูโภชนศิลป์ถิ่นทวารวดี
                         กลุ่มเซ็นทรัล ผนึก ททท. ปลุกไทยสู่จุดหมายท่องเที่ยวคุณภาพระดับโลก อัดบิ๊กอีเวนต์และแคมเปญปลายปี รับกระแสท่องเที่ยวฟื้นตัว
                            กลุ่มเซ็นทรัล ผนึก ททท. ปลุกไทยสู่จุดหมายท่องเที่ยวคุณภาพระดับโลก อัดบิ๊กอีเวนต์และแคมเปญปลายปี รับกระแสท่องเที่ยวฟื้นตัว
                         เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ ใส่ใจสุขภาพคนไทย สนับสนุนพื้นที่ กรมพลศึกษา จัดการประกวด LINE DANCE พร้อมร่วมมอบรางวัล ตอกย้ำศูนย์การค้าที่เชื่อมต่อการใช้ชีวิตที่หลากหลายของทุก Generation
                            เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ ใส่ใจสุขภาพคนไทย สนับสนุนพื้นที่ กรมพลศึกษา จัดการประกวด LINE DANCE พร้อมร่วมมอบรางวัล ตอกย้ำศูนย์การค้าที่เชื่อมต่อการใช้ชีวิตที่หลากหลายของทุก Generation
                         จัดเต็ม! ปรากฏการณ์แสง สี เสียง และสื่อผสม ร่วมสัมผัสประสบการณ์ความงามเหนือกาลเวลา ในงาน VIJIT @ Lampang ภายใต้คอนเซปต์ นครลำปาง: เสน่ห์เหนือกาลเวลา Lampang: The Timeless Cit
                            จัดเต็ม! ปรากฏการณ์แสง สี เสียง และสื่อผสม ร่วมสัมผัสประสบการณ์ความงามเหนือกาลเวลา ในงาน VIJIT @ Lampang ภายใต้คอนเซปต์ นครลำปาง: เสน่ห์เหนือกาลเวลา Lampang: The Timeless Cit
                         เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ ร่วมกับ กรมพลศึกษา จัดประกวด "ไลน์ แดนซ์" จากทีมแข่งทั่วประเทศ ร่วมชมร่วมเชียร์ร่วมสัมผัสเสน่ห์ของ "ไลน์ แดนซ์" 10-11 กันยายนนี้ที่ลาน MBK AVENUE โซน A
                            เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ ร่วมกับ กรมพลศึกษา จัดประกวด "ไลน์ แดนซ์" จากทีมแข่งทั่วประเทศ ร่วมชมร่วมเชียร์ร่วมสัมผัสเสน่ห์ของ "ไลน์ แดนซ์" 10-11 กันยายนนี้ที่ลาน MBK AVENUE โซน A
                         กรมการท่องเที่ยว เปิดตัวภารกิจ 'Thailand Green Tourism Plan 2030' ชูแนวทางการพัฒนาระบบนิเวศการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนของไทย
                            กรมการท่องเที่ยว เปิดตัวภารกิจ 'Thailand Green Tourism Plan 2030' ชูแนวทางการพัฒนาระบบนิเวศการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนของไทย
                         เที่ยวไทยอุ่นใจได้ ททท. เร่งเสริมความเชื่อมั่นการเดินทางท่องเที่ยวไทย เปิดตัวตราสัญลักษณ์ "Trusted Thailand" พร้อมยกระดับมาตรฐานเสริมความมั่นใจนักท่องเที่ยวทุกย่างก้าว เตรียมนำร่องประเมินโรงแรมที่พัก เริ่มภายในกันยายน นี้
                            เที่ยวไทยอุ่นใจได้ ททท. เร่งเสริมความเชื่อมั่นการเดินทางท่องเที่ยวไทย เปิดตัวตราสัญลักษณ์ "Trusted Thailand" พร้อมยกระดับมาตรฐานเสริมความมั่นใจนักท่องเที่ยวทุกย่างก้าว เตรียมนำร่องประเมินโรงแรมที่พัก เริ่มภายในกันยายน นี้
                         กรมการท่องเที่ยว เตรียมจัดกิจกรรมเปิดตัว Thailand Green Tourism Plan 2030 ขับเคลื่อนการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนของประเทศไทยให้เข้าสู่ระดับสากล
                            กรมการท่องเที่ยว เตรียมจัดกิจกรรมเปิดตัว Thailand Green Tourism Plan 2030 ขับเคลื่อนการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนของประเทศไทยให้เข้าสู่ระดับสากล