บลจ.กสิกรไทย แนะซื้อ LTF/RMF ท่ามกลางความผันผวนชวนมองผลตอบแทนในระยะยาว

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

          บลจ.กสิกรไทย เผยสถานการณ์ความผันผวนในช่วงนี้ส่อเศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะชะลอตัวในระยะสั้น มองเป็นโอกาสให้นักลงทุนทยอยซื้อกองทุน LTF/RMF เพื่อโอกาสรับผลตอบแทนในระยะยาว เนื่องจาก ไทยมีปัจจัยพื้นฐานที่น่าสนใจในสายตานักลงทุนต่างชาติมากขึ้น
          นางสาวธิดาศิริ ศรีสมิต Chief Investment Officer (รองกรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการลงทุน) บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนกสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) เปิดเผยถึงภาวะตลาดหุ้นไทยที่ได้รับแรงกดดันจากประเด็นสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนที่กลับมาร้อนระอุอีกครั้ง หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศจะขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนอีก 10% เป็นมูลค่า 3 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ มีผลในวันที่ 1 ก.ย. 62 ทำให้ธนาคารกลางของจีนปล่อยให้เงินหยวนอ่อนค่าลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 11 ปี มาอยู่ที่ 7 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งประธานาธิบดีทรัมป์มองว่าจีนมีการแทรกแซงค่าเงิน (Currency Manipulation) เพื่อเป็นการตอบโต้มาตรการทางภาษีที่สหรัฐฯประกาศเก็บเพิ่มไปล่าสุด
          นางสาวธิดาศิริกล่าวต่อไปว่า จากสถานการณ์ดังกล่าวส่งผลให้เงินลงทุนไหลกลับเข้าสู่สินทรัพย์ปลอดภัยมากขึ้น โดยจะเห็นได้จากราคาทองคำปรับตัวสูงสุดในรอบ 6 ปี ในขณะที่ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลง 3-5% ส่วนตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลงตาม โดยที่ผ่านมาตลาดหุ้นไทยมีการปรับตัวลงแตะระดับต่ำสุดกว่า 50 จุด (จากราคาปิด ณ วันที่ 1 ส.ค. 62) ก่อนมีการฟื้นตัวกลับเล็กน้อย อีกทั้งอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ปรับลดลงต่ำสุดในรอบ 3 ปี 
          "บลจ.กสิกรไทย มองว่าในระยะสั้นตลาดหุ้นไทยยังคงได้รับความผันผวนจากปัจจัยต่างประเทศเป็นหลัก โดยเฉพาะในประเด็นสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนที่ยังไม่คลี่คลาย แถมมีทีท่าว่าจะยืดเยื้อ ซึ่งอาจทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นได้ โดยล่าสุดกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ได้พิจารณาตัดสินให้จีนเป็นชาติที่ปั่นค่าเงิน นับเป็นคำกล่าวหาแบบเป็นทางการครั้งแรกตั้งแต่ปี 1994 ด้านจีนได้สั่งระงับการนำเข้าสินค้าเกษตรของสหรัฐฯ ซึ่งถือเป็นการโต้ตอบให้เกิดความขัดแย้งและสร้างความปั่นป่วนต่อตลาดการเงิน ทำให้เศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะชะลอตัวอย่างมีนัยยะ 
          สำหรับมุมมองในระยะยาวยังมีมุมมองเป็นบวก เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำและสภาพคล่องในระบบมีอยู่สูง ซึ่งล่าสุดคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ต่อปี จาก 1.75% เป็น 1.50% ต่อปี ทำให้ผลตอบแทนจากตลาดหุ้นยังมีความน่าสนใจในเชิงเปรียบเทียบถึงแม้ว่าจะมีความกังวลเพิ่มขึ้นในเรื่องที่เศรษฐกิจจะชะลอตัวลงต่ำกว่าศักยภาพ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลไทยมีความชัดเจนในการสานต่อนโยบายโครงสร้างภาครัฐขนาดใหญ่และ EEC พร้อมทั้งเร่งพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานเพื่อเพิ่มศักยภาพของประเทศ จึงมองเป็นโอกาสที่จะเริ่มทยอยเข้าลงทุนในกองทุน LTF/RMF โดยมองว่าดัชนีหุ้นไทยในระดับต่ำกว่า 1,650 จุด ถือเป็นระดับที่น่าสนใจเข้าลงทุนโดยพิจารณาจากปัจจัยพื้นฐาน เพื่อโอกาสรับผลตอบแทนในระยะยาว อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องติดตามการตอบโต้ระหว่างสหรัฐฯและจีน รวมถึงทิศทางนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน" นางสาวธิดาศิริกล่าว
          นางสาวธิดาศิริกล่าวเพิ่มเติมว่า ในปีนี้ถือเป็นปีสุดท้ายที่นักลงทุนจะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีผ่านการลงทุนในกองทุน LTF ก่อนที่จะเริ่มมีกองทุนรูปแบบใหม่ขึ้นมาทดแทนในปี 2563 โดยกองทุน LTF/RMF ของกสิกรไทย ที่สามารถรับมือกับความผันผวนได้ดีและเข้าได้กับทุกภาวะตลาด ได้แก่ กองทุนเปิดเค หุ้นระยะยาวปันผล (KDLTF) ที่เน้นลงทุนในหุ้นไทยที่มีปัจจัยพื้นฐานดี หลากหลายกลุ่มอุตสาหกรรม อีกทั้งยังมีอัตราการจ่ายปันผลสูงสุดเมื่อเทียบกับ LTF อื่นๆ ของกสิกรไทย โดยนับตั้งแต่ปีพ.ศ. 2551 จนถึงปัจจุบันกองทุนมีการจ่ายปันผลทุกปีมากถึง 18 ครั้ง และกองทุนเปิดเค หุ้นทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ (KEQRMF) ที่เน้นลงทุนในหุ้นบริษัทขนาดใหญ่ชั้นนำที่มีความมั่นคงสูงและเป็นผู้นำในแต่ละหมวดอุตสาหกรรม อีกทั้งยังเพิ่มโอกาสในการรับผลตอบแทนจากการลงทุนในต่างประเทศ
          ผู้ลงทุนที่สนใจกองทุน LTF/RMF กสิกรไทย สามารถดาวน์โหลดแอป K-My Funds หรือสมัครบริการ K-Cyber Invest เพื่อดูผลการดำเนินงานของกองทุนได้สะดวกยิ่งขึ้น และเริ่มต้นลงทุนได้เพียง 500 บาท ผ่านแอป K PLUS, K-My Funds, บริการ K-Cyber Invest, ธนาคารกสิกรไทย และผู้สนับสนุนการขายและรับซื้อคืนหน่วยลงทุน โดยติดต่อขอรับหนังสือชี้ชวนได้ตามช่องทางดังกล่าว สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ KAsset Contact Center 0 2673 3888
          ผู้ลงทุนโปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง และศึกษาข้อมูลภาษีในคู่มือการลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวมมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
บลจ.กสิกรไทย แนะซื้อ LTF/RMF ท่ามกลางความผันผวนชวนมองผลตอบแทนในระยะยาว
 

ข่าวบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน+หลักทรัพย์จัดการกองทุนวันนี้

บลจ.ทิสโก้เพิ่มทุน TEMxCH เป็น 2,000 ล้านบาท ชี้ลูกค้ายังต้องการลงทุนเพิ่ม รับภาษีนำเข้าสหรัฐฯ เริ่มชัด

บลจ.ทิสโก้ประกาศเพิ่มทุน กองทุนเปิด ทิสโก้ อีเมอร์จิ้ง มาร์เก็ต เอ็กซ์ ไชน่า (TEMxCH) เป็นจำนวนเงินทุนโครงการทั้งสิ้น 2,000 ล้านบาท เพราะลูกค้ายังต้องการลงทุนในตลาดหุ้นกลุ่มประเทศเกิดใหม่ (Emerging Market) ที่มีโอกาสเติบโตในระยะยาว ประกอบกับการเจรจาภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ เริ่มชัดเจน นายสาห์รัช ชัฎสุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด (Mr. Saharat Chudsuwan Managing Director of TISCOASSET) เปิดเผยว่า ในช่วงปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา บลจ.ทิสโก้ได้ประกาศเพิ่มจำนวนเงินทุน

นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริ... KTAM แนะนำโอกาสสร้างผลตอบแทนเหนือเงินฝากในภาวะเศรษฐกิจผันผวน ผ่านกองทุน "KTSV" — นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไท...

นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริ... KTAM แนะกระจายสินทรัพย์รับมือเศรษฐกิจผันผวน ผ่านกลุ่มกองทุนผสม "KTWC Series" — นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย ...

จัดใหญ่ รับ Fund Back มูลค่าสูงสุด 5,000 ... SCBAM ส่งแคมเปญเสริมแกร่งพอร์ตเกษียณ — จัดใหญ่ รับ Fund Back มูลค่าสูงสุด 5,000 บาท(*) สำหรับผู้ที่โอนย้ายกองทุน RMF มาที่ SCBAM ตั้งแต่วันนี้ 30 ก.ย. 68...

บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม เอ็กซ์สปร... XAM ร่วมเวที Hubbis Wealth Management Forum 2025 ชูแนวคิด Investment Advisory ยุคใหม่ — บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม เอ็กซ์สปริง จำกัด (XSpring Asset M...

บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำก... บลจ.กสิกรไทย เปิดคลาส "กองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง"หลักประกันใหม่ที่แรงงานไทยควรรู้ — บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) ร่วมกับกรมสวัส...