มะเร็งลำไส้ เกิดขึ้นจากเซลล์เยื่อบุผิวภายในลำไส้ใหญ่โดยนิดที่พบบ่อยมากกว่าร้อยละ 90 คือ เนื้อเยื่อ ของมะเร็งที่มีลักษณะทางพยาธิวิทยาที่เรียกว่า Adenocarcinoma โดยประมาณ 60-70 เปอร์เซ็นต์ ของมะเร็ง ลำไส้ใหญ่ ได้แก่ ลำไส้ส่วนซิกมอยด์ และไส้ตรง ทั้งนี้ มะเร็งลำไส้ใหญ่ มักจะกลายมาจากเนื้องอกธรรมดาที่เยื่อบุผนังภายในลำไส้ เนื้องอกเหล่านี้ไม่ จำเป็นต้องกลายเป็นมะเร็งเสมอไปแต่โอกาสที่จะกลายเป็นมะเร็งขึ้นอยู่กับชนิด และขนาดของเนื้องอกเหล่านี้
ความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่
1.อาหารและรูปแบบการใช้ชีวิต
- โรคอ้วน
- การรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง, อาหารแปรรูปต่างๆ เช่น แฮม เบคอน ไส้กรอก
- รับประทานผักและผลไม้ในปริมาณต่ำ
- การสูบบุหรี่เป็นระยะเวลานาน
- การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมาก
- ขาดการออกกำลังกาย
2.พันธุกรรม
- มีประวัติส่วนตัว หรือบุคคลในครอบครัวเป็นติ่งเนื้อ หรือมะเร็งลำไส้ใหญ่
- โรคซึ่งถ่ายทอดทางพันธุกรรมและสัมพันธ์กับมะเร็งลำไส้ใหญ่
- กลุ่มโรคที่มีการอักเสบของระบบทางเดินอาหาร
อาการที่แสดงออกว่าเป็นมะเร็งลำไส้
- ถ่ายอุจจาระเป็นเลือด เป็นอาการที่พบบ่อยที่สุดจากมะเร็งของไส้ตรง และลำไส้ซิกมอยด์
- ถ่ายอุจจาะเป็นลำเล็กลง ปริมาณและความถี่อุจจจาระน้อยลงหรือเพิ่มขึ้น
- ถ่ายท้องผูกสลับท้องเสีย
- ปวดท้อง แน่นท้อง ท้องอืด คลำได้ก้อนในท้อง
- ซีด มักพบเป็นอาการแสดงออกของมะเร็งลำไส้ใหญ่ด้านขวา
- คลื่นไส้ อาเจียน
- อ่อนเพลีย ผอมลง เบื่ออาหาร
ในปัจจุบันมีเทคโนโลยี และนวัตกรรมในการรักษามะเร็งลำไส้ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่หากผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่ตรวจพบโรคได้ในระยะแรกเริ่มและพบเป็นเพียงติ่งเนื้อแพทย์จะทำการรักษาด้วยการตัดชิ้นเนื้อออกด้วยวิธี การส่องกล้องลำไส้ใหญ่ เป็นการผ่าตัดโดยใช้กล้องเรียวเล็กที่สามารถขยายภาพ และเห็นภาพได้ชัดกว่า ปกติ ส่องเข้าไปในทวารหนัก และใช้อุปกรณ์ตัดติ่งเนื้อลำไส้ นอกจากนี้ยังมีวิธีการรักษาอื่นๆ ตามระยะโรค ได้แก่ วิธีการผ่าตัดร่วมกับการให้ยาเคมีบำบัด หรือให้ยารักษาแบบพุ่งเป้า โดยการรักษามะเร็งลำไส้ใหญ่ แพทย์จะทำการ ประเมินระยะโรคของผู้ป่วย ดังนั้น อยากจะเน้นย้ำว่าให้ผู้ป่วยมาตรวจคัดกรองตั้งแต่เนิ่นๆ เพราะจะทำให้การรักษา มีประสิทธิภาพและได้ผลดี เช่น ถ้าเจอในระยะแรกเริ่มอาจจะรักษาด้วยการส่องกล้อง และสามารถตัดชิ้นเนื้อออก ได้ แต่ถ้าตรวจพบในระยะหลังอาจจะใช้วิธีการรักษาด้วยการผ่าตัดร่วมกับการให้ยาเคมี หรือบำบัดแบบพุ่งเป้า ประสิทธิภาพในการรักษาก็จะแตกต่างกันออกไปทั้งนี้ต้องดูระยะโรคของคนไข้เป็นหลัก
สอบถามรายละเอียดและข้อมูลเพิ่มได้ที่ ศูนย์อายุรกรรมโรคทางเดินอาหารและตับ โรงพยาบาลสุขุมวิท
เดอะไนน์ เซ็นเตอร์ ติวานนท์ ร่วมกับ สถาบันมะเร็งแห่งชาติ ชวนตรวจมะเร็งปากมดลูก ในงาน วันมะเร็งโลก Close the care gap "ปิดช่องว่างเพื่อการดูแลที่สมคุณค่า"
สถาบันมะเร็งแห่งชาติ ขอเชิญผู้สนใจร่วมงาน “สัปดาห์มะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก”
สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เสด็จทรงเป็นองค์ประธานเปิดโครงการ PRINCESS COLLECTION 2025 กิจกรรมเพื่อสังคมแห่งปี ร่วมรณรงค์ต้านภัยมะเร็งเต้านม
การประชุมพิษวิทยาแห่งชาติครั้งที่ 15 (NCT15) "Toxicology for Health and Well-being"
กลุ่มเซ็นทรัล ส่งมอบ "รถพยาบาลฉุกเฉินพร้อมอุปกรณ์การแพทย์" แก่สถาบันมะเร็งแห่งชาติ เสริมศักยภาพดูแลผู้ป่วย ในโครงการ "Central Group Women Cancer"
นีเวีย จับมือ บิ๊กซี และมูลนิธิเครือข่ายมะเร็งจัดหน่วยและรถตรวจคัดกรองมะเร็งเคลื่อนที่ทั่วกรุงเทพฯและปริมณฑล ขยายโอกาสในการเข้าถึงการตรวจคัดกรองฟรี ภายใต้โครงการ "เคียงข้างทุกช่วงเวลาการดูแล"
ให้การต้อนรับคณะกระทรวงสาธารณสุข
"มะเร็งลำไส้ใหญ่" ภัยร้ายที่มักพบเมื่อสาย…แพทย์ รพ.วิมุต ชี้ "ส่องกล้องลำไส้ใหญ่" จำเป็น ย้ำอายุ 45 ปีขึ้นไปควรตรวจคัดกรองแม้ไม่มีอาการ