กรมศุลกากร ร่วมมือกับ ไอบีเอ็มและเมอส์ นำเทคโนโลยีบล็อคเชนมาใช้เพื่อพัฒนาการค้าระหว่างประเทศของไทย ('TradeLens’ Platform with Blockchain Technology)

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

          กรมศุลกากรเป็นหน่วยงานราชการลำดับที่สองในประเทศกลุ่มเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่นำแพลตฟอร์มเทรดเลนส์มาใช้ในการค้าทั้งภายในและระหว่างประเทศ เพื่อความรวดเร็ว ถูกต้องและปลอดภัย
          กรมศุลกากร ภายใต้สังกัดกระทรวงการคลัง ร่วมมือกับ ไอบีเอ็ม ประเทศไทยและเมอส์กประกาศนำแพลตฟอร์ม 'เทรดเลนส์' (TradeLens) ที่พัฒนาขึ้นบนเทคโนโลยีบล็อคเชนมาใช้ในประเทศไทยเพื่อพัฒนาการค้าระหว่างประเทศของไทย โดยแพลตฟอร์มดังกล่าว ทำให้กรมศุลกากรเป็นหน่วยงานราชการลำดับที่สองในประเทศกลุ่มเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นอันดับที่สามในประเทศกลุ่มเอเชียแปซิฟิกที่ส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีดังกล่าว 
          'เทรดเลนส์' คือ แพลตฟอร์มระบบดิจิตอลที่ใช้ในการค้าระหว่างประเทศที่ทำให้การติดตามระบบขนส่งมีความแม่นยำและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และยังสามารถแลกเปลี่ยนและแบ่งปันข้อมูลระหว่างผู้ใช้แพลตฟอร์มได้ ระบบดังกล่าวถูกพัฒนาขึ้นโดยความร่วมมือของบริษัทขนส่ง เอ.พี.มอลเลอร์-เมอส์กและไอบีเอ็ม ที่เปลี่ยนกระบวนการขนส่งแบบเก่าที่ต้องใช้เอกสารมาเป็นระบบดิจิตอล ที่จะช่วยเสริมให้ระบบขนส่งครบวงจร มีความรวดเร็ว และถูกต้องแม่นยำ
          การที่แพลตฟอร์มเทรดเลนส์ช่วยเปลี่ยนกระบวนการขนส่งให้เป็นระบบดิจิตอล ซึ่งจะช่วยให้กรมศุลกากรมีเครื่องมือในการติดตามแบบอัตโนมัติและแม่นยำ ส่งผลให้การทำงานมีความปลอดภัย โปร่งใส และมีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้วยการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ Near Real-time ระหว่างสมาชิกเครือข่ายของทางระบบ โดยเจ้าหน้าที่
          กรมศุลกากรจะสามารถทราบข้อมูลการส่งสินค้าเกือบจะในทันทีที่ตู้สินค้าออกจากท่าเรือต้นทาง ซึ่งจะทำให้เจ้าหน้าที่มีเวลาในการเตรียมรับสินค้าที่กำลังจะมาถึง และทำให้การตรวจสอบสินค้าผิดกฎหมายและสินค้าหลีกเลี่ยงการเสียภาษีอากรมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยให้การเก็บภาษีและค่าธรรมเนียมเป็นไปอย่างสม่ำเสมอและโปร่งใส
          นายชูชัย อุดมโภชน์ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบสิทธิประโยชน์ศุลกากร กรมศุลกากร กล่าวว่า "ความร่วมมือในการเชื่อมโยงข้อมูลบนแพลตฟอร์มเทรดเลนส์ทำให้กรมศุลกากรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งทางเรือระหว่างประเทศสามารถเข้าถึงข้อมูลทางการค้าระหว่างประเทศบนแพลตฟอร์มเดียวกันได้แบบ Real-time ซึ่งการตรวจปล่อยสินค้าล่วงหน้าจากข้อมูลบนแพลตฟอร์มเทรดเลนส์ กรมศุลกากรสามารถเพิ่มประสิทธิภาพด้านการบริหารความเสี่ยง (Risk Management) ในการควบคุมทางศุลกากร อีกทั้ง เป็นการลดระยะเวลาในการผ่านพิธีการศุลกากร ลดค่าใช้จ่าย และลดการใช้ดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่ สร้างความโปร่งใส ความพึงพอใจต่อผู้ใช้บริการ 
          อันเป็นการตอบรับ Ease of doing business ภายใต้พันธกิจด้านอำนวยความสะดวกทางการค้า ด้านสังคม และความมั่นคงของประเทศต่อไป"
          คุณปฐมา จันทรักษ์ รองประธานด้านการขยายธุรกิจในกลุ่มประเทศอินโดจีน และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทไอบีเอ็ม ประเทศไทย กล่าวว่า "เราภูมิใจที่ได้ร่วมมือกับทางกรมศุลกากรเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจทั้งภายในและระหว่างประเทศ เราเชื่อว่าแพลตฟอร์มเทรดเลนส์และการนำเทคโนโลยีบล็อคเชนมาใช้ในหลายๆ ด้าน จะส่งผลดีให้ทุกฝ่ายในระบบนิเวศของการขนส่ง ซึ่งจะยกระดับการค้าการลงทุนให้ทันสมัยทั้งในระดับประเทศ ภูมิภาค และระดับสากล"
          ในแต่ละปีสินค้ามูลค่ากว่า 4 แสนล้านบาทถูกขนส่งระหว่างประเทศ โดย 80 เปอร์เซ็นต์ของสินค้าดังกล่าวส่งผ่านทางอุตสาหกรรมขนส่งทางทะเล ขั้นตอนทางเอกสารต่างๆ สร้างความยุ่งยากให้ระบบขนส่งทั่วโลก ทั้งสร้างความไม่แน่นอน ความไม่ถูกต้องของข้อมูล ความล่าช้าหรือการหยุดชะงักในขั้นตอนการเช็คสินค้าและกรอกข้อมูลด้วยมือ ขาดการประเมินความเสี่ยง การสื่อสารที่ไร้ประสิทธิภาพและมีต้นทุนสูงจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง และยังมีความไม่โปร่งใสอีกด้วย


กรมศุลกากร ร่วมมือกับ ไอบีเอ็มและเมอส์ นำเทคโนโลยีบล็อคเชนมาใช้เพื่อพัฒนาการค้าระหว่างประเทศของไทย ('TradeLens’ Platform with Blockchain Technology)

กรมศุลกากร ร่วมมือกับ ไอบีเอ็มและเมอส์ นำเทคโนโลยีบล็อคเชนมาใช้เพื่อพัฒนาการค้าระหว่างประเทศของไทย ('TradeLens’ Platform with Blockchain Technology) กรมศุลกากร ร่วมมือกับ ไอบีเอ็มและเมอส์ นำเทคโนโลยีบล็อคเชนมาใช้เพื่อพัฒนาการค้าระหว่างประเทศของไทย ('TradeLens’ Platform with Blockchain Technology)

ข่าวการค้าระหว่างประเทศ+ไอบีเอ็ม ประเทศไทยวันนี้

เยาวชนไทยคว้าสิทธิ์เป็นตัวแทนประเทศไทย ร่วมแข่งขันชิงชนะเลิศ บนเวทีระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค ในโครงการ FedEx/JA International Trade Challenge 2025

เฟดเอ็กซ์ คอร์ปอเรชั่น (Federal Express Corporation) หนึ่งในบริษัทขนส่งด่วนรายใหญ่ที่สุดของโลก เดินหน้าส่งเสริมศักยภาพเยาวชนไทยอย่างต่อเนื่อง ผ่านโครงการ FedEx/ Junior Achievement International Trade Challenge (FedEx/JA ITC) ประจำปี 2568 โดยในปีนี้ โครงการได้เปิดโอกาสให้เยาวชนไทยจากทั่วประเทศนำเสนอแนวคิดการเป็นผู้ประกอบการและกลยุทธ์การค้าระหว่างประเทศ ซึ่งมีนักเรียน 6 คนได้รับคัดเลือกเป็นตัวแทนประเทศไทย เพื่อเข้าร่วมการแข่งขันระดับภูมิภาคในเดือนสิงหาคม ณ ประเทศสิงคโปร์ โครงการ FedEx/JA ITC ในประ

DITP ยกระดับตรา Thai SELECT ใหม่ สะท้อนอั... พาณิชย์ ยกระดับ Thai SELECT เน้นย้ำอัตลักษณ์อาหารไทยสู่มาตรฐานร้านอาหารระดับโลก — DITP ยกระดับตรา Thai SELECT ใหม่ สะท้อนอัตลักษณ์ของอาหารไทยได้อย่างมีประ...

บริษัท ดั๊บเบิ้ล เอ (1991) จำกัด (มหาชน) ... ดั๊บเบิ้ล เอ แข็งแกร่งเติบโตต่อเนื่อง ไตรมาสแรก ปี 68 กำไรเพิ่มขึ้น 42.56% — บริษัท ดั๊บเบิ้ล เอ (1991) จำกัด (มหาชน) รายงานผลประกอบการไตรมาสแรก ปี 2568 โ...

ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนา... DITP ส่งเสริมภาพลักษณ์อาหารไทยสู่เวทีโลก ในงาน 'Royal Gala Night' — ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เสด็จเป็นองค์ประธาน ณ งาน "Thai SELEC...

S&P รับมอบตราสัญลักษณ์ "Thai SELECT ประจำ... รับรางวัลThai select68 — S&P รับมอบตราสัญลักษณ์ "Thai SELECT ประจำปี 2568" การันตีคุณภาพอาหารไทยสำเร็จรูป ในงานแสดงสินค้าอาหาร THAIFEX-ANUGA ASIA 2025...

จากแนวโน้มความต้องการอาหารฮาลาลและอาหารออ... DITP ดันส่งออกอาหาร "ฮาลาล-ออร์แกนิก" สู่ตลาดโลก ในงาน THAIFEX - ANUGA ASIA 2025 — จากแนวโน้มความต้องการอาหารฮาลาลและอาหารออร์แกนิกที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง...