กรุงไทยชี้ธุรกิจรีไซเคิลขยะผ่านดิจิทัลแพลตฟอร์ม เพิ่มศักยภาพในการรับมือความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อม

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

ศูนย์วิจัยธนาคารกรุงไทย ประเมินตลาดรีไซเคิลไทย จะเติบโตเฉลี่ยปีละ 5.7% จากมูลค่า 1.7 แสนล้านบาท ในปี 2019 มาอยู่ที่ 2.24 แสนล้านบาท ในปี 2024 หรือมีขนาด 1.2% ของจีดีพีรวม มองรีไซเคิลแพลตฟอร์มจะเข้ามามีบทบาทสำคัญ เป็นตัวกระตุ้นการคัดแยกขยะที่ต้นทาง ลดต้นทุนการเก็บขนขยะที่ไม่เป็นระบบ ทำให้ขยะรีไซเคิลที่มีคุณภาพกลับสู่กระบวนการรีไซเคิลได้เร็วขึ้น รวมทั้งสร้าง Big Data ที่ใช้สนับสนุนความยั่งยืนของธุรกิจ ใช้ในการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ ทั้งการวางแผนธุรกิจ และออกแบบบรรจุภัณฑ์

กรุงไทยชี้ธุรกิจรีไซเคิลขยะผ่านดิจิทัลแพลตฟอร์ม เพิ่มศักยภาพในการรับมือความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อม

ดร.พชรพจน์ นันทรามาศ ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส ศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า จากแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) การรีไซเคิลถือเป็นแนวทางสำคัญที่ทำให้ขยะหรือสิ่งของเหลือทิ้งต่าง ๆ ถูกนำกลับมาใช้ประโยชน์ใหม่อย่างคุ้มค่า ทั้งนี้ในปีที่ผ่านมา ธุรกิจรีไซเคิลขยะมีมูลค่าประมาณ 1.7 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปี 2018 รายได้ส่วนใหญ่กระจุกตัวในกลุ่มธุรกิจรับซื้อของเก่าและวัสดุรีไซเคิล โดยผู้ประกอบการที่จดทะเบียนพาณิชย์และเข้าข่ายเป็นธุรกิจรีไซเคิลมีจำนวนกว่า 3,484 ราย ประกอบด้วยผู้ประกอบการรายใหญ่ที่ให้บริการแบบครบวงจร และผู้ประกอบการที่ดำเนินธุรกิจแบบเดี่ยวหรืออยู่ในกระบวนการใดกระบวนการหนึ่ง โดยมีรูปแบบแฟรนไชส์เพิ่มขึ้น แต่ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจขนาดเล็กที่ทำธุรกิจแบบซื้อมาขายไป

“จากการศึกษาพบว่าใน 5 ปีข้างหน้า ตลาดรีไซเคิลของไทยมีแนวโน้มเติบโตเฉลี่ยปีละ 5.7% สร้างรายได้กว่า 2.24 แสนล้านบาท ภายในปี 2024 หรือคิดเป็น 1.2% ของจีดีพีรวม โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากนโยบายการขับเคลื่อนโมเดลเศรษฐกิจ Bio-Circular-Green Economy (BCG Model) ซึ่งให้ความสำคัญกับการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่ามากที่สุด รวมทั้งภาครัฐได้ตั้งเป้าหมายลดขยะพลาสติกให้เป็นศูนย์ภายในปี 2027 การขับเคลื่อนนโยบายต่าง ๆ ได้สร้างความตื่นตัวด้านสิ่งแวดล้อมและกระตุ้นความต้องการวัสดุรีไซเคิลในกระบวนการผลิต แต่อุปสรรคสำคัญอยู่ที่การไม่คัดแยกขยะที่แหล่งกำเนิดอย่างมีประสิทธิภาพ ในส่วนนี้ รีไซเคิลแพลตฟอร์มจะเข้ามามีบทบาทในการสร้างเครือข่ายระหว่างผู้ขายและผู้รับซื้อขยะรีไซเคิล  นำไปสู่การหมุนเวียนของขยะรีไซเคิลในวงจรเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น”

ดร.ชัยสิทธิ์ อนุชิตวรวงศ์ นักวิเคราะห์อาวุโส กล่าวว่า จากการถอดประสบการณ์ของต่างประเทศ พบว่า Tech Startup ได้พัฒนารีไซเคิลแพลตฟอร์มร่วมกับการปรับใช้เทคโนโลยีดิจิทัลอื่น ๆ เพื่อต่อยอดบริการ โดยรีไซเคิลแพลตฟอร์มช่วยลดค่าใช้จ่ายการกำจัดขยะลง 20-30% ลดค่าใช้จ่ายการเดินรถและเก็บขนขยะลง 50% และมีบริษัท Startup ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจจัดการขยะกระจายทั่วโลกถึง 4,500 ราย สำหรับในไทย ขยะที่ไม่ได้ถูกกำจัดอย่างถูกต้องและยังไม่ได้ถูกนำกลับมาใช้ประโยชน์ใหม่มีจำนวนมาก โดยเฉพาะพลาสติกที่แต่ละปีมีการทิ้งเป็นขยะมากถึง 2 ล้านตัน แต่มีเพียง 25% ที่ถูกนำกลับมาใช้ประโยชน์ ดังนั้น หาก Startup ไทยที่กำลังพัฒนาดิจิทัลแพลตฟอร์ม นำโมเดลต่างประเทศที่ประสบความสำเร็จมาประยุกต์ใช้ เชื่อว่าธุรกิจจัดการขยะรีไซเคิลด้วยดิจิทัลแพลตฟอร์มของไทยมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก

“รีไซเคิลแพลตฟอร์มในประเทศไทยอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการขยายฐานผู้ใช้บริการ และพัฒนาความร่วมมือกับภาคธุรกิจและหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง โดยภาคส่วนต่าง ๆ จะได้ประโยชน์จากการนำขยะมารีไซเคิลผ่านช่องทางออนไลน์ ในขณะเดียวกันผู้รับซื้อขยะรีไซเคิลสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายการเดินรถและเก็บขนขยะ นอกจากนั้น ฐานข้อมูลที่รวบรวมได้จากรีไซเคิลแพลตฟอร์ม จะช่วยผู้ประกอบการรับมือกับความท้าทายในการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) และเป็นแหล่งข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับพฤติกรรมการบริโภคสินค้าของผู้บริโภคที่ธุรกิจสามารถนำไปใช้วางแผนกลยุทธ์ทางธุรกิจ การออกแบบบรรจุภัณฑ์ ตลอดจนการพัฒนาฉลากบนบรรจุภัณฑ์ ที่ช่วยลดต้นทุนของธุรกิจและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้อีกด้วย”


ข่าวพชรพจน์ นันทรามาศ+ดิจิทัลแพลตฟอร์มวันนี้

Krungthai COMPASS ชี้ Data Center หนุนเศรษฐกิจไทย ดึงเม็ดเงินลงทุนเข้าประเทศกว่า 3.2 แสนล้านบาท

ศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS ชี้บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของโลก เดินหน้าขยายการลงทุน Data Center ในไทย หนุนขนาด Data Center เพิ่มขึ้นถึง 13.9 เท่า ภายในปี 2571 ซึ่งก่อให้เกิดการลงทุนกว่า 3.2 แสนล้านบาท และสร้างรายได้ให้ผู้ประกอบการไทยในระหว่างพัฒนา Data Center สูงถึง 1.3 แสนล้านบาท แนะภาครัฐเพิ่มประสิทธิภาพโครงข่ายข้อมูลอินเทอร์เน็ต และอนุญาตผู้ให้บริการ Data Center ใช้ไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนของภาคเอกชน เพื่อดึงเม็ดเงินลงทุนต่อเนื่อง ดร.พชรพจน์ นันทรามาศ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย

ศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS ประเมินเศรษฐ... "กรุงไทย" คาด GDP ปี 2568 เติบโต 2.7% จับตา 5 ประเด็นความท้าทาย จุดพลิกผันศรษฐกิจไทย — ศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS ประเมินเศรษฐกิจไทยในปี 2568 เติบโต 2.7...

ศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS ชี้ ประเทศคู... กรุงไทยชี้เทรนด์ Sustainable Sourcing มาแรง กระทบมูลค่าส่งออกเกษตรและอาหารกว่า 2 แสนล้านบาท — ศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS ชี้ ประเทศคู่ค้าของประเทศไทยมีแ...

ศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS ชี้ Data Cen... Krungthai COMPASS ชี้ Data Center ปัจจัยหนุนสร้างศักยภาพ SME ไทย — ศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS ชี้ Data Center เป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญที่ต้องพัฒนา เพื่...

ศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS ชี้ การยกระด... กรุงไทยชี้ การแพทย์จีโนมิกส์ จะนำไทยสู่ Medical Hub เต็มรูปแบบ — ศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS ชี้ การยกระดับและสนับสนุนด้านการแพทย์จีโนมิกส์ จะช่วยหนุนไทย...