"ครั้งแรกที่ได้เข้ามาสอนที่โรงเรียนนี้ บราเดอร์ (ผู้อำนวยการโรงเรียน) ท่านตั้งเป้าไว้ว่าจะต้องมีเด็กนักเรียนสนใจมาเรียนโขนให้ได้ ซึ่งถือเป็นเป้าที่ตั้งไว้สูงมาก กับการสอนเด็กในยุคที่นิยมการร้องเพลง เต้นรำ ตามสมัยนิยม ในขณะที่โขนเป็นหนึ่งในวิชานาฎศิลป์ไทยชั้นสูง ที่มีครู มีกฎระเบียบ และท่าทางที่จะทำให้ขาดตกบกพร่องไปไม่ได้เลย" ครูแยมทิพย์มงคล ทองอ่อน ผู้สอนวิชานาฎศิลป์ไทย เล่าถึงช่วงแรกที่เริ่มนำโขนมาสอนในสถานศึกษาแห่งนี้
เป้าหมายแรกของครูแยมคือการดึงเด็กชั้นมัธยมปลายเข้าร่วมชมรมโขนให้ได้เพราะดูแล้วน่าจะมีความพร้อมมากกว่าเด็กเล็ก แต่ยอมรับว่าช่วงแรกมีเด็กให้ความสนใจเรียนกันน้อย แต่ยังโชคดีที่มีเด็กมากพอที่จะเปิดเป็นชมรมและจัดการแสดงโขนชุดเล็กขึ้นมาได้โดยเริ่มทุกอย่างตั้งแต่ศูนย์ โดยมี "การแสดงโขนขั้นต่ำอย่างน้อยต้องมี 7 คนขึ้นไป ต้องมีพระ ยักษ์ และลิง ปีแรกเราฝึกซ้อมและเริ่มการแสดงด้วยนักเรียนประมาณ 10 คน แสดงในงานโรงเรียนตอนนั้นครูคิดว่าถ้าเราแสดงโขนแล้วมีการขึ้นลอย ทุกคนน่าจะร้องว้าวในระดับหนึ่ง เพราะการขึ้นลอยเป็นหนึ่งในองค์ประกอบการแสดงที่ทำให้คนดูรู้สึกชื่นชอบทำให้ทุกคนรู้ว่าโรงเรียนของเราก็มีการเรียนโขนด้วยผ่านงานแรกด้วยเสียงชื่นชมและมีคนมาสมัครเรียนโขนที่ชมรมมากขึ้น จนมีนโยบายของโรงเรียนให้เด็กทุกชั้นปีได้เรียนโขนอย่างทั่วถึง จนได้เด็กรุ่นใหม่อย่างน้องพีค กับ น้องโฮป เข้ามาเป็นตัวแทนพี่ ๆ ที่เรียนจบออกไปมาสานต่อการแสดงโขนของชมรม" ครูแยม กล่าว
เกิดมาเพื่อเล่นโขน
เด็กผู้ชายวัย 6 ขวบส่วนใหญ่ชอบเล่นฟุตบอล วิ่งเล่น ไม่ก็เล่นเกมในโทรศัพท์มือถือ แต่ไม่ใช่กับน้องพีค ด.ช.ศิวพงษ์ พึ่งสายยัน ที่ชื่นชอบการเล่นโขนตั้งแต่อายุเพียง 1 ขวบ จนดูเหมือนเขาเกิดมาเพื่อการแสดงโขนเท่านั้น
เพียงเพ็ญ วงศ์นิมิตรกุล คุณแม่ของน้องพีคเล่าว่า "แม่ไม่ได้คิดว่าลูกจะมาทางนี้ แต่เราเห็นแววของเขาตั้งแต่อายุ 1 ขวบ เขาดูการแสดงโขนในรายการโทรทัศน์แล้วก็เริ่มรำตามโดยที่ไม่รู้ว่าคืออะไร รำโดยไม่มีครูสอน พาไปดูการแสดงโขนสมเด็จยิ่งทำให้เขาชอบมากขึ้น เวลาเพลงไทยขึ้นเขาก็จะเริ่มรำตามจึงเริ่มหาครูมาสอนเขาอย่างจริงจัง แต่หาครูสอนได้ยากมาก ส่วนใหญ่จะบอกว่าเด็กเล็กเกินไปกลัวเขาจะเจ็บ หรือทำท่ายากไม่ได้ แล้วจะทำให้เขากลัวการเล่นโขนในอนาคต
เราจึงทำได้แค่พาเขาไปดูการแสดงโขน เปิดคลิปวิดีโอการแสดง หรือหาซื้อแผ่นซีดีการแสดงโขนให้เขาดู พาไปเรียนการแสดงโขนกับกลุ่มเด็กโฮมสคูลเพื่อให้เขาไม่ลืมในสิ่งที่เขาชอบที่เป็นสัญชาตญาณของเขาตั้งแต่เล็ก จนกระทั่งรู้ว่าที่โรงเรียนเซนต์คาเบรียล มีสอนการแสดงโขนก็ได้ครูแยมเป็นครูสอนเขาอย่างจริงจัง" คุณแม่เล่าพลางเปิดคลิปวิดีโอน้องพีคตอนรำโขน และท่องบทพร้อมทำท่าทางแบบโขนบนที่นอนให้ดู หากใครเห็นก็ต้องคิดว่าเด็กคนนี้มีพรสวรรค์ด้านการเล่นโขนตั้งแต่ยังเด็กจริงๆ
ครูแยม เล่าถึงน้องพีคว่า "ครั้งแรกที่เห็นน้องพีคคือคุณครูประจำชั้นเอาคลิปมาให้ดู บอกว่าเด็กคนนี้มีแววอยากให้ลองสอนดู พอเห็นคลิปที่น้องพูดบทโขนพร้อมท่ารำก็รู้เลยว่าเด็กคนนี้มีพรสวรรค์ คนเรียนนาฏศิลป์ได้จะต้องมีพรสวรรค์ และ พรแสวง ซึ่งน้องพีคมีทั้ง 2 อย่างพร้อม น้องมีความสามารถตั้งแต่ท่องบท และเล่นได้ทุกบทเป็นยักษ์ ลิง พระ ได้หมด สามารถเล่นแทนพี่คนอื่นได้ด้วย เพราะโดยปรกติแล้วการแสดงโขนจะแบ่งเป็นสายเฉพาะทาง คนที่แสดงเป็นยักษ์ก็จะฝึกท่าทางยักษ์จนชำนาญ คนที่เล่นเป็นพระก็จะฝึกท่าของสายพระอย่างเดียว แต่เด็กคนนี้เล่นได้ทุกสาย และมีความขยันพยายามฝึกซ้อมอย่างดี ถือว่าชมรมโขนเราได้เพชรมาเม็ดนึงแล้วต้องปั้นเขาขึ้นมาให้ได้"
ในขณะที่น้องโฮป พิชเทพ นาคสมบูรณ์ นักเรียนชั้น ม.4/6 โรงเรียนเซนต์คาเบรียล หนึ่งในสมาชิกชมรมโขน ผู้รับบทพระลักษณ์ กล่าวว่า "ผมชอบการแสดงโขนตั้งแต่จำความได้ ชอบในความเป็นไทย เรื่องราวประวัติศาสตร์ไทย ผมสนใจเรียนโขนมานานแล้วแต่หาที่เรียนยาก ได้แต่ไปเรียนวิชานาฏศิลป์อื่น จนกระทั่งได้มาเรียนโขนที่นี่ ซึ่งผมจะเล่นโขนสายพระเพราะคนที่จะแสดงโขนครูจะดูจากรูปร่าง หน้าตา ท่าทาง สีผิว และบุคลิกว่าเหมาะจะเล่นเป็นบทอะไร แล้วฝึกสายนั้นเฉพาะทาง ตอนนี้เรากำลังฝึกซ้อมการแสดงโขนในงาน100 ปี โรงเรียนเซนต์คาเบรียลที่จะมีการแสดงหน้าพาทย์ ซึ่งเป็นการแสดงที่โขนชุดใหญ่เล่นกัน และนักแสดงโขนที่จะแสดงหน้าพาทย์ได้จะต้องผ่านพิธีครอบครูมาก่อนถึงจะแสดงหน้าพาทย์ได้ ซึ่งผมรู้สึกภูมิใจ และให้ความสำคัญกับการแสดงใหญ่ครั้งนี้อยากให้ทุกคนได้มาชมการแสดงของพวกเรา"
เด็กเล่นใหญ่ โขนที่ใครๆ ก็อยากดู
"ตอนนี้เด็กๆ กำลังฝึกซ้อมการแสดงโขนชุดใหญ่ ความยาวประมาณ 2 ชั่วโมง มีนักแสดง 40 ชีวิตทั้งเด็กนักเรียนและคุณครูอีกหลายท่านที่เข้ามาช่วยในงานแสดง 99 ปี โรงเรียนเซนต์คาเบรียล จากจุดเริ่มต้นที่มีเด็กมาสมัครเรียนไม่กี่คน ไม่มีพื้นฐานทางนาฏศิลป์แต่พวกเขาตั้งใจฝึกซ้อมกันเป็นอย่างดีแม้บางครั้งอาจจะยากเกินไปสำหรับเด็กเล็ก ซึ่งเราก็ตัดสินใจไปปรึกษากับบรมครูครอบโขน ละครพระราชทานของประเทศไทยว่าสามารถดัดแปลงให้เหมาะสมกับเด็กๆ ได้หรือไม่ ครูท่านก็ได้ให้คำแนะนำท่าทางต่างๆที่สามารถนำมาใช้สอนเด็กๆได้โดยไม่ผิดหลักการแสดงโขนแต่อย่างใดถือเป็นความกรุณาของครู อีกทั้งยังได้สอนบางท่าซึ่งเป็นท่าโขนโบราณมาใช้แสดงในบางตัวละครครั้งนี้อีกด้วย
ปัจจุบันการจะหาคนมาสืบทอดศิลปะการแสดงโขนได้น้อยจึงอยากให้ทุกคนมาชมความตั้งใจและความสามารถของเด็ก ๆ ที่จะมาแสดงโขนชุดใหญ่ มีการรำหน้าพากย์ มุขตลก และองค์ประกอบในการแสดงโขนครบครัน เหมือนกับรุ่นใหญ่เขาแสดงกันจริงๆ อยากให้ทุกคนมาชมการแสดงของเด็กที่ตั้งใจสืบสานวัฒนธรรมไทยที่เป็นมรดกโลก" ครูแยม กล่าวด้วยความภาคภูมิใจในตัวลูกศิษย์ทุกคน
แผนต่อไปของชมรมโขนโรงเรียนเซนต์คาเบรียลแห่งนี้คือ ยกระดับเป็นการแสดงโขนกลางแปลงในงานครบรอบ 100 ปี โรงเรียนเซนต์คาเบรียลซึ่งมีความท้าทายมากกว่าเดิม แต่ความสำเร็จเหล่านี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากขาดการสนับสนุนจากผู้ใหญ่และคนไทยทุกคน มาร่วมเห็นคุณค่าของการแสดงโขน ซึ่งเป็นหนึ่งในรากเหง้าวัฒนธรรมไทยให้ดำรงอยู่ต่อไปในงานเฉลิมฉลองโรงเรียนเซนต์คาเบรียล99 ปี เพื่อก้าวไปสู่ 100 ปีอย่างภาคภูมิที่กำลังจะถึงนี้
ดิจิทัลมีเดีย SPU บุก "เซนต์คาเบรียล" จัดกิจกรรม "Third Person Controller in 3D World" สอนสร้างเกมด้วยโปรแกรม Vroid-Unity
สจล. จับมือ ม.กรุงเทพ รวมพลังกับ 34 โรงเรียนปูทางสู่อนาคตสร้างบัณฑิตสองศาสตร์ด้านปัญญาประดิษฐ์และผู้ประกอบการ
ภาพข่าว: มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย UTCC ลงนามความร่วมมือกับ ร.ร.เซนต์คาเบรียล
ภาพข่าว: คณะวิศวกรรมศาสตร์ ม.มหิดล ลงนาม MOU ร่วมกับ รร.เซนต์คาเบรียล พัฒนาเยาวชนไทย
25 ปีโมเดิร์นด็อก 'ป๊อด’ จัดเซอร์ไพรส์แบบแน่นๆ 25 ปีโมเดิร์นด็อก 'ป๊อด’ จัดเซอร์ไพรส์แบบแน่นๆ
25 ปีโมเดิร์นด็อก 'ป๊อด’ จัดเซอร์ไพรส์แบบแน่นๆ สมาชิกรุ่นแรกรวมตัวครบทีมในคอนเสิร์ต 'Past Perfect Concert’
'นภ พรชำนิ’ รวมพลศิษย์เก่าคนดังขึ้นเวที “Past Pefect Concert” เนรมิต แสงสีเสียง เวที สุดอลังการ กลางสนามฟุตบอล ฉลองสุดยิ่งใหญ่ก้าวสู่100 ปี เซนต์คาเบรียล’
'นภ พรชำนิ’ รวมพลศิษย์เก่าคนดังขึ้นเวที “Past Pefect Concert” เนรมิต แสงสีเสียง เวที สุดอลังการ กลางสนามฟุตบอล ฉลองสุดยิ่งใหญ่ก้าวสู่100 ปี เซนต์คาเบรียล’