ธนาคารพาณิชย์-ธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ เตรียมเปิดให้บริการตามปกติตั้งแต่ 30 มี.ค. 63 งดรับการเปิดบัญชี-ผูกพร้อมเพย์ที่สาขา ช่วง 30-31 มี.ค. เลี่ยงแพร่ระบาดโรคโควิด 19
ธนาคารแห่งประเทศไทย
(ธปท.) สมาคมธนาคารไทย สมาคมธนาคารนานาชาติ และสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ ขอแจ้งว่า
ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (30 มีนาคม 2563) ธนาคารพาณิชย์และธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ รวมถึงธนาคารออมสินที่ได้ประกาศปิดทำการไปก่อนหน้านี้
พร้อมเปิดให้บริการตามปกติ แต่งดให้บริการเปิดบัญชีใหม่ และบริการผูกพร้อมเพย์ที่สาขา
ในระหว่างวันที่ 30-31 มีนาคม 2563 แต่สามารถดำเนินการผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์และออนไลน์
เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรการของศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน
(ศอฉ.)
ที่ได้ขอความร่วมมือให้ยกเว้นกิจกรรมที่จะก่อให้เกิดการเดินทางหรือเคลื่อนย้ายประชาชนจำนวนมากมารวมตัวกัน
เพื่อไม่ให้การแพร่ระบาดขยายไปในวงกว้างและเป็นการรับผิดชอบต่อสังคมโดยรวม
ทั้งนี้ ทุกธนาคารยังคงให้ความสำคัญต่อสวัสดิภาพและความปลอดภัยของลูกค้า
พนักงาน และสาธารณชน และขอแนะนำให้ลูกค้าเลือกเปิดบัญชี ผูกพร้อมเพย์ และทำธุรกรรมทางการเงินผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์และออนไลน์ของธนาคารต่างๆ
เป็นลำดับแรก ซึ่งปัจจุบันยังคงให้บริการได้ตามปกติ เช่น
เครื่องบริการถอนเงิน-ฝากเงินอัตโนมัติ (ATM/CDM) โมบายแบงก์กิ้ง
(Mobile
Banking) และอินเทอร์เน็ตแบงก์กิ้ง (Internet
Banking) เป็นต้น ทั้งนี้การผูกพร้อมเพย์สามารถทำได้ด้วยตนเองที่เครื่อง
ATM
และทาง Online โดยไม่ต้องเข้ามาที่สาขาเช่นกัน
สำหรับลูกค้าที่ต้องการลงทะเบียนเพื่อขอรับสิทธิ์ตาม 'มาตรการเยียวยา 5,000 บาท (3 เดือน)’ ของทางรัฐบาลนั้น ลูกค้าไม่ต้องเดินทางมาติดต่อที่ธนาคาร สามารถลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.เราไม่ทิ้งกัน.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยใช้บัญชีเงินฝากของธนาคารใดก็ได้ที่มีอยู่แล้ว เพียงชื่อ-นามสกุลเจ้าของบัญชี ต้องตรงกับผู้ที่ลงทะเบียน หรือเลือกให้โอนเงินเข้าบัญชีที่ผูกพร้อมเพย์กับหมายเลขประจำตัวประชาชนได้เช่นกัน
ธนาคารแห่งประเทศไทย
(ธปท.) สมาคมธนาคารไทย สมาคมธนาคารนานาชาติ และสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ
ต้องขออภัยในความไม่สะดวก
ทั้งเชื่อมั่นว่าด้วยความร่วมมือร่วมใจของลูกค้าและคนไทยทั้งประเทศจะสามารถก้าวข้ามสถานการณ์แห่งความยากลำบากในครั้งนี้ด้วยกันได้ในที่สุด
กรณีต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
สามารถสอบถามได้ที่ Call Center สถาบันการเงินทุกแห่ง
ธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.) สถาบันการเงินของรัฐ ที่มีพันธกิจ "ทำให้คนไทยมีบ้าน" พร้อมเดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อดูแลความปลอดภัยให้กับลูกค้าในการทำธุรกรรมผ่าน Application : GHB ALL GEN ตามนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) โดยให้สแกนใบหน้าเพื่อยืนยันตัวตนเมื่อทำธุรกรรมการโอนเงิน สำหรับลูกค้าที่ต้องการโอนเงินตั้งแต่ 50,000 บาทขึ้นไปต่อรายการ ลูกค้าที่มียอดทำธุรกรรมสะสม 200,000 บาทต่อวัน และลูกค้าที่ต้องการขอปรับเพิ่มวงเงินการทำรายการโอนตั้งแต่ 50,000 บาทต่อวัน ขึ้นไป โดยทางธนาคารขอให้ผู้ใช้บริการ
สมาคมสถาบันการเงินของรัฐ ยกระดับมาตรฐานการตรวจสอบภายในสู่ระดับสากล จัดงานสัมมนา "ความท้าทายที่ SFIs และการตรวจสอบภายในจะเผชิญในปัจจุบันและอนาคต"
—
นายรัฐสภา จ...
ธปท. สมาคมธนาคารไทย และสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ จับมือยกระดับการจัดการภัยทุจริตทางการเงิน
—
ตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ออกมาตรการจัดการภัยทุจริตท...
คลัง ร่วมกับ 4 สถาบันการเงินรัฐ จัดงาน มหกรรมร่วมใจแก้หนี้ ครั้งที่ 5 สัญจรภาคใต้ จ.สงขลา ระหว่างวันที่ 27-29 มกราคม 2566
—
กระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเท...
ไอแบงก์ เดินหน้าแก้หนี้ ในงาน "มหกรรมร่วมใจแก้หนี้" ครั้งที่ 4 จังหวัดชลบุรี
—
ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ไอแบงก์) เดินหน้าร่วมงาน "มหกรรมร่วมใจแก้หนี้" ค...
ธอส. ผนึกกำลังสถาบันการเงิน จัดงานร่วมใจแก้หนี้ฯ สัญจร ครั้งที่ 4 จ.ชลบุรี ขนมาตรการแก้ไขหนี้ เติมเงิน เสริมสภาพคล่องช่วยเหลือประชาชน
—
ธอส. ผนึกกำลังสถาบ...
ไอแบงก์ ออกบูธขนโปรโต้ลมหนาว ร่วมงาน "มหกรรมร่วมใจแก้หนี้" สัญจร ครั้งที่ 3 จ.เชียงใหม่
—
ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ไอแบงก์) ออกบูธขนโปรโมชั่นและมาตรการช...
SAM บริษัทบริหารสินทรัพย์ของคนไทย สนองนโยบายปีแห่งการแก้หนี้ภาคครัวเรือน นำทีมปรับโครงสร้างหนี้ NPL และ "โครงการคลินิกแก้หนี้ by SAM"
—
นายธรัฐพร เตชะกิจ...
ไอแบงก์ ร่วมงาน มหกรรมร่วมใจแก้หนี้ สัญจร ครั้งที่ 1 พร้อมยกขบวนโปรโมชันและมาตรการช่วยเหลือทางการเงินมากมาย
—
ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ไอแบงก์) เข้าร่วม...