รัฐธรรมนูญมาตรา 47 กล่าวไว้ว่า บุคคลย่อมมีสิทธิได้รับการป้องกันและขจัดโรคติดต่ออันตรายจากรัฐ โดยถือเป็น "หน้าที่ของรัฐ” ที่ต้องจัดให้ประชาชน
จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ในปัจจุบันมีแนวโน้มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้เกิดความคาดหวังที่กลายเป็นการคุกคาม จนทำให้บุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งต้องปฏิบัติงานภายใต้ความกดดัน และความเสี่ยงจากการติดเชื้อในการที่ต้องตรวจคัดกรอง ดูแลรักษาผู้ป่วย เสียขวัญ และกำลังใจในการปฏิบัติงาน
ดร.เอกพันธุ์ ปิณฑวณิช ผู้อำนวยการสถาบันสิทธิมนุษยชนและสันติศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า การรักษาพยาบาลเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน โดยรัฐมีหน้าที่ที่จะต้องปกป้องประชาชนจากการแพร่ระบาด รวมทั้งให้เข้าถึงการรักษาพยาบาล ไม่ว่าคนรวยหรือคนจนก็ควรจะได้รับการปกป้องรักษาสิทธิดังกล่าว ทว่าในขณะนี้บุคลากรทางการแพทย์กำลังทำงานกันอย่างเต็มที่ แต่ก็ยังมีศักยภาพในการรักษาสิทธิของผู้ป่วยได้เพียงในระดับหนึ่ง ซึ่งทุกคนจะต้องเข้าใจถึงข้อจำกัดที่เกิดขึ้นในสถานการณ์ดังกล่าวด้วย
จากการบอกเล่าของผู้เชี่ยวชาญในห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ท่านหนึ่งเปิดเผยว่า ในการตรวจว่าติดเชื้อหรือไม่ ผู้เข้ารับการตรวจจะต้องได้รับการทำ swab หรือเก็บสารคัดหลังจากด้านหลังตรงจมูก และลำคอไปตรวจหาเชื้อ นอกเหนือไปจากการดูว่ามีไข้ หรือการเอกซเรย์ปอด ซึ่งทำได้ยากมาก เนื่องจากต้องอาศัยความชำนาญในการเก็บตัวอย่าง และเสี่ยงต่อผู้ทำการตรวจซึ่งมีโอกาสสูงที่จะติดเชื้อไปด้วย
ดร.เอกพันธุ์ ปิณฑวณิช กล่าวต่อไปว่า ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดที่ผ่านมา สถาบันสิทธิมนุษยชนและสันติศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล พยายามจะสื่อสารให้ความรู้ในเรื่องสิทธิขั้นพื้นฐานที่ทุกคนควรจะได้รับ แต่ในสภาวการณ์เช่นนี้จะเห็นได้ว่ากลุ่มคนที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด คือ กลุ่มคนที่อยู่ในระดับล่างของสังคม ไม่ว่าจะเป็นพวกแรงงานรายวัน ไปจนถึงคนไร้บ้าน ซึ่งจะได้รับผลกระทบจากสภาวการณ์ฉุกเฉินนี้เป็นลำดับแรกๆ โดยอาจจะไม่ใช่เฉพาะเรื่องการติดเชื้อ แต่หมายถึงการดำรงชีวิตโดยทั่วไปด้วย ซึ่งที่ผ่านมา เราพยายามสื่อสารกับสังคม และผู้ที่มีอำนาจว่าควรจะปกป้องผู้ที่ด้อยโอกาสทางสังคมมากที่สุดก่อน
นอกจากนี้ การเห็นคุณค่าของเพื่อนมนุษย์ในเวลานี้เป็นสิ่งที่สำคัญมากที่สุด ณ เวลาที่ยากลำบากเช่นนี้ เราควรจะเป็นกำลังใจให้กันและกัน พยายามรักษาสุขภาพตัวเองให้ดี แล้วก็ให้อยู่ในบ้านของตัวเอง งดการมีปฏิสัมพันธ์กันในช่วงนี้ ซึ่งจะเป็นการช่วยลดปัญหาการแพร่ระบาดได้ในระดับหนึ่ง
"ในขณะที่เรารู้สึกปลอดภัยที่บ้าน อย่าลืมว่ายังมีบุคลากรทางการแพทย์ที่ต้องทำงานอย่างหนักและมีความเสี่ยงสูงเพื่อพวกเรา ตลอดจนอาชีพที่ถ้าเกิดหยุดทำงานขึ้นมา สังคมก็จะอยู่ไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นพนักงานขับรถโดยสาร พนักงานเก็บขยะ แม่บ้าน คนกวาดถนน ฯลฯ จึงอยากขอให้ร่วมเป็นกำลังใจ เพื่อเราจะได้ผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปด้วยกัน" ดร.เอกพันธุ์ ปิณฑวณิช กล่าวทิ้งท้าย
นับจากอดีตเป็นต้นมา ปัญหาหลักของประชาชนที่ยากจนในประเทศไทย คือ การไม่มีที่ดินทำกิน ไม่มีที่ดินเพื่อการอยู่อาศัยของตนเอง ทำให้ต้องไปเช่าที่ดินจากนายทุน เช่าที่ดินจากรัฐ หรือแม้กระทั่งการบุกรุกที่ดินของรัฐโดยไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ส่วนหนึ่งเข้าไปบุกรุกพื้นที่ป่าสงวน ส่งผลให้เกิดการตัดไม้ทำลายป่าที่เป็นแหล่งต้นน้ำลำธารที่สำคัญของประเทศ จนเกิดข้อพิพาทระหว่างราษฎรกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ และเกิดปัญหาอีกหลายด้านตามมาอีกมากมาย ปัจจุบันภายใต้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา ๖๕
เขตพระนครรุดตรวจสอบไม่พบการขายสติกเกอร์วินจักรยานยนต์เถื่อน พร้อมจัดระเบียบจราจรรอบสนามหลวง
—
นายโกศล สิงหนาท ผู้อำนวยการเขตพระนคร กทม. กล่าวกรณีมีข้อร้อง...
สำนักงานศาลปกครองนครศรีธรรมราช เชิญชวนผู้สนใจร่วมสัมมนา เสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจ ในการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทในคดีปกครองฯ 17 ก.ค.นี้
—
วิทยาลัยการยุติธรรมท...
เวียตเจ็ทประกาศให้บริการเส้นทางบิน ฮานอย - ฮิโรชิมา ขณะร่วมประชุม G7
—
เวียตเจ็ท (เวียดนาม) ประกาศให้บริการเส้นทางบินระหว่างประเทศเส้นทางใหม่เชื่อมต่อระหว...