รายงานแนวโน้มดิจิทัลประจำปี 2563 ของอะโดบี ร่วมกับอีคอนซัลแทนซี (Econsultancy) ระบุสองในห้า (40%) ของบริษัททั่วโลกที่เป็นผู้นำด้านประสบการณ์ลูกค้า (Customer Experience - CX) สามารถดำเนินงานได้ดีเกินกว่าเป้าหมายทางธุรกิจที่ตั้งไว้ในปี 2562 ขณะที่บริษัทอีก 13% ไม่ได้มีความเป็นผู้นำในด้านนี้
สก็อต ริกบี้ หัวหน้าฝ่ายดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น อะโดบี เอเชีย-แปซิฟิก กล่าวว่า “ความสำเร็จของแบรนด์ที่ขับเคลื่อนด้วยประสบการณ์ลูกค้าคือเครื่องยืนยันการปรับใช้แนวทางการดำเนินงานที่มุ่งเน้น “ลูกค้า” เป็นหลัก อย่างไรก็ดี การเปลี่ยนไปสู่รูปแบบที่ให้ความสำคัญกับลูกค้าเป็นอันดับแรกไม่ได้เป็นแค่เรื่องของการดำเนินโครงการใดโครงการหนึ่งหรือการติดตั้งเทคโนโลยีเพียงอย่างเดียว แต่จำเป็นที่จะต้องมองภาพรวมที่กว้างขึ้นและปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ทางธุรกิจ การลงทุน และวัฒนธรรมองค์กร โดยอาศัยเครื่องมือและกระบวนการที่เหมาะสม และจะต้องอาศัยการลงทุนอย่างจริงจัง แต่มั่นใจได้เลยว่าผลตอบแทนที่ได้รับจะคุ้มค่าอย่างแน่นอน”
CX คือภารกิจสำคัญสำหรับการขยายธุรกิจในเอเชียแปซิฟิก แต่การพัฒนายังล่าช้า
ในปี 2563 บริษัทต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเข้าใจความสำคัญของ CX และมีแผนที่จะปรับปรุงการให้บริการลูกค้า โดยหนึ่งในห้า (19%) ของบริษัทในภูมิภาคนี้ ระบุว่าการปรับปรุง CX ให้ดียิ่งขึ้นคือโอกาสสำคัญที่สุดสำหรับปีนี้ นอกจากนั้น บริษัทต่างๆ ในเอเชียแปซิฟิก ยังเป็นผู้นำด้านการลงทุนในเทคโนโลยี CX เมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่นๆ โดยกว่าครึ่งหนึ่ง (57%) มีแผนที่จะลงทุนเพิ่มเติมในเทคโนโลยี CX ขณะบริษัทในยุโรปมี 51% และอเมริกาเหนือ 41%
อย่างไรก็ดี การพัฒนาด้าน CX ในเอเชียแปซิฟิก ยังคงล้าหลังเมื่อเทียบกับส่วนอื่นๆ ของโลก โดยมีองค์กรในเอเชียแปซิฟิกเพียง 7% เท่านั้นที่ระบุว่าตนเองมีการพัฒนาอย่างเพียงพอในส่วนนี้ เปรียบเทียบกับ 12% ในอเมริกาเหนือ และ 11% สำหรับส่วนอื่นๆ ของโลก
ริกบี้กล่าวว่า “บริษัทในเอเชียแปซิฟิก พยายามที่จะพัฒนาด้าน CX ให้ทัดเทียมกับประเทศอื่นๆ เพื่อให้สามารถกำหนดกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพสำหรับการนำเสนอประสบการณ์ที่ดีขึ้นให้แก่ลูกค้า ในทางกลับกัน จะช่วยให้บริษัทสามารถสร้างความได้เปรียบเหนือคู่แข่ง อย่างไรก็ตาม การพัฒนาที่ล่าช้าของภูมิภาคนี้ส่งผลให้ภูมิภาคนี้ยังคงตามหลังภูมิภาคอื่นๆ ในเรื่องของการสร้างและนำเสนอกลยุทธ์การตลาดดิจิทัลที่มุ่งเน้นประสบการณ์ลูกค้า แต่กระนั้น นักการตลาดในเอเชียแปซิฟิกกำลังวางแผนการลงทุนอย่างจริงจังเพื่อลดช่องว่างดังกล่าว”
การสรรหาและรักษาบุคลากรคือปัญหาท้าทายสำหรับผู้นำด้าน CX
เพื่อรักษาความได้เปรียบ ผู้นำด้าน CX ทั่วโลกพยายามที่จะสรรหาและพัฒนาบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถ โดยสองในห้า (40%) ของบริษัทที่เป็นผู้นำด้าน CX ระบุว่าการดึงดูดและรักษาบุคลากรในสายงานที่เกี่ยวข้องกับดิจิทัล ดาต้า และ CX ถือเป็นความท้าทายสูงสุดสำหรับปี 2563 ทั้งนี้ กว่าหนึ่งในสี่ (26%) ระบุว่าการค้นหาและรักษาบุคลากรที่มีทักษะที่เหมาะสมถือเป็นความท้าทายอย่างหนึ่งสำหรับการสร้างสรรค์ประสบการณ์ดิจิทัลให้ประสบความสำเร็จ
ในการรักษาและพัฒนาบุคลากร ผู้นำด้าน CX มีแนวโน้มมากกว่า 27% ที่จะลงทุนในด้านการฝึกอบรม เมื่อเทียบกับองค์กรที่ไม่ได้เป็นผู้นำด้าน CX (20%) โดยมุ่งเน้นการให้ความรู้เกี่ยวกับแนวคิดด้านธุรกิจในขอบเขตที่กว้างขวางกว่าเรื่องของการตลาด ผลการศึกษาฉบับล่าสุดของ Econsultancy ชี้ว่า ผู้บริหารกว่า 90% ระบุว่านักการตลาดจำเป็นที่จะต้องเข้าใจเกี่ยวกับดัชนีชี้วัดและกลยุทธ์ของธุรกิจในวงกว้าง
“การสรรหาและพัฒนาบุคลากรนับเป็นความท้าทายที่สำคัญสำหรับนักการตลาด โดยองค์กรธุรกิจจำเป็นต้องเพิ่มและปรับปรุงทักษะของบุคลากรอย่างต่อเนื่อง แต่ความท้าทายทำให้เกิดโอกาส ดังนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องลงทุนอย่างจริงจังในด้านบุคลากร เทคโนโลยี และกระบวนการ เพื่อให้สามารถสร้างสรรค์ประสบการณ์ลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ การสนับสนุนและปรับปรุงบุคลากรแต่เนิ่นๆ จะช่วยให้องค์กรธุรกิจได้รับประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรมในระยะยาว” ริกบี้กล่าว
“ระบบอัตโนมัติ” เสริมศักยภาพให้กับนักการตลาด
การนำเอาระบบคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีเข้ามาใช้งานจะช่วยเสริมสร้างขีดความสามารถของบุคลากร เพราะในปัจจุบัน นักการตลาดต้องจัดการกับข้อมูลจำนวนมหาศาล และใช้เวลามากมายในการสร้างรายงานและวิเคราะห์เมตริกซ์แคมเปญ อย่างไรก็ดี งานเหล่านี้จะถูกดำเนินการโดยระบบอัตโนมัติใน 5-10 ปีข้างหน้า เพื่อแบ่งเบาภาระของนักการตลาด
ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเป็นผู้นำในการปรับใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) และแมชชีนเลิร์นนิ่ง (ML) เหนือกว่ายุโรปและอเมริกาเหนือ โดยองค์กรธุรกิจในเอเชียแปซิฟิก กว่าครึ่งหนึ่ง (54%) กำลังใช้งานหรือมีแผนที่จะใช้งานเครื่องมือเหล่านี้ ตัวอย่างของบริษัทที่ใช้ระบบอัตโนมัติเพื่อขับเคลื่อน CX ก็คือ ซีโร่ (Xero) บริษัทซอฟต์แวร์ด้านระบบบัญชีบนแพลตฟอร์มคลาวด์
ราเชล พาวเวลล์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายลูกค้าของซีโร่ กล่าวว่า “เราเปลี่ยนจากรูปแบบจากการให้บริการสนับสนุนแก่ลูกค้า (customer support) ไปสู่การสร้างความสำเร็จให้แก่ลูกค้า (customer success) โดยเราได้ลงทุนอย่างจริงจังในเรื่องของบุคลากร เทคโนโลยี และโครงการฝึกอบรมให้ความรู้ เพื่อปรับปรุงประสบการณ์สำหรับลูกค้า ทั้งนี้ 'Xero Central' ซึ่งเป็นไซต์บริการสนับสนุนและการเรียนรู้สำหรับผลิตภัณฑ์ของ Xero และพาร์ทเนอร์ ใช้ประโยชน์จากความสามารถของ AI และแมชชีนเลิร์นนิ่ง เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคาดการณ์ ซึ่งช่วยให้เราสามารถคาดการณ์ปัญหาของลูกค้า ตอบข้อซักถามของลูกค้า หรือให้โซลูชั่นลูกค้าได้ในแบบเรียลไทม์ เราใช้เทคโนโลยีดังกล่าวเพื่อจัดการกับงานทั่วไปที่ทำเป็นประจำ และช่วยให้บุคลากรของเรามีเวลาเพิ่มมากขึ้นในการสร้างสรรค์ประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้น”
บริษัทในเอเชียแปซิฟิก มุ่งมั่นที่จะลดช่องว่างในด้านการพัฒนา CX ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณด้านไอที โดย 34% ขององค์กรธุรกิจในเอเชียแปซิฟิก มีแผนที่จะลงทุนในเทคโนโลยี ML และ AI ขณะที่บริษัททั่วโลกเพียง 25% เท่านั้นที่มีแผนลงทุน ML และ AI
ริกบี้กล่าวว่า “รายงานแนวโน้มดิจิทัลประจำปี 2563 จัดทำขึ้นเป็นปีที่ 10 และข้อมูลในรายงานดังกล่าวแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าองค์กรธุรกิจที่มุ่งเน้นประสบการณ์ลูกค้าประสบความสำเร็จเหนือคู่แข่งอย่างต่อเนื่อง ทุกวันนี้เราสามารถติดต่อสื่อสารและเข้าใจลูกค้าผ่านช่องทางที่หลากหลายมากขึ้นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน อานุภาพของเทคโนโลยีและข้อมูลที่ถูกใช้งานร่วมกันจะช่วยให้องค์กรธุรกิจเริ่มต้นดำเนินธุรกิจในรูปแบบใหม่ๆ และส่งผลให้ CX กลายเป็น “ภารกิจหลักสำหรับธุรกิจ” ไม่ใช่เพียงแค่เป้าหมายด้านการตลาด”
โดยรายงานฉบับนี้ได้สำรวจความคิดเห็นของบุคลากรด้านการตลาด โฆษณา อีคอมเมิร์ซ ครีเอทีฟ และไอทีกว่า 13,000 คน ซึ่งทำงานให้กับบริษัทเจ้าของแบรนด์และเอเจนซี่ในประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (APAC), ยุโรป และอเมริกาเหนือ ในปี 2563
เกี่ยวกับรายงานแนวโน้มดิจิทัลของอะโดบีและอีคอนซัลแทนซี
รายงานแนวโน้มดิจิทัล (Digital Trends Report) ฉบับที่ 10 จัดทำโดยอะโดบีและอีคอนซัลแทนซี (Econsultancy) โดยมีการสำรวจความคิดเห็นของบุคลากรด้านการตลาด โฆษณา อีคอมเมิร์ซ ครีเอทีฟ และไอทีกว่า 13,000 คน
*องค์กรธุรกิจชั้นนำหมายถึงองค์กร 9% ที่มีผลการดำเนินงานดีที่สุดและสูงเกินกว่าเป้าหมายทางธุรกิจที่ตั้งไว้
เกี่ยวกับ Adobe Experience Cloud
อะโดบีปฏิวัติการจัดการประสบการณ์ลูกค้า (Customer Experience Management - CXM) ด้วย Adobe Experience Cloud ซึ่งเป็นโซลูชั่นแบบครบวงจรเพียงหนึ่งเดียวสำหรับการสร้างสรรค์ประสบการณ์ การตลาด โฆษณา การวิเคราะห์ข้อมูล และการค้า ขณะที่แพลตฟอร์มระดับองค์กรรุ่นเก่าประกอบด้วยข้อมูลโปรไฟล์ลูกค้าที่ตายตัวและแยกออกจากกัน แต่ Adobe Experience Cloud จะช่วยให้บริษัทต่างๆ สามารถนำเสนอประสบการณ์ที่น่าประทับใจ ต่อเนื่อง และสอดคล้องกัน ผ่านทุกช่องทางการติดต่อสำหรับลูกค้า ควบคู่ไปกับการขยายธุรกิจให้เติบโตอย่างรวดเร็ว นักวิเคราะห์อุตสาหกรรมระบุว่าอะโดบีคือผู้นำที่โดดเด่นในรายงานผลการศึกษาสำคัญๆ กว่า 20 ฉบับที่มุ่งเน้นเรื่องประสบการณ์ ซึ่งมากกว่าบริษัทเทคโนโลยีอื่นๆ
เกี่ยวกับอะโดบี
อะโดบีเปลี่ยนโลกผ่านประสบการณ์ด้านดิจิทัล รายละเอียดเพิ่มเติม www.adobe.com/sea
ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ชูแนวคิด "Homes of the Future" ด้วยผลิตภัณฑ์ไฮไลท์ตอบโจทย์บ้านแห่งอนาคต สร้าง "ชุมชนช่างไฟชไนเดอร์" ตอกย้ำกลยุทธ์เพื่อความยั่งยืน
ชไนเดอร์ อิเล็คทริค หนุน PEA จัดงานวิ่งมินิมาราธอน 2025 ชูแนวคิด "Digital green grid one step for the better energy"
ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ครองอันดับ 1 ในการจัดอันดับของ Gartner(R) Top 25 Supply Chain เป็นปีที่สามติดต่อกัน
ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ชวนผู้ประกอบการไทยก้าวสู่การเป็น Impact Maker ปั้นโรงงาน ผลิตน้ำตาลอัจฉริยะที่ยั่งยืน ใน "ชูการ์เร็ก ไทยแลนด์ 2025" ครั้งใหญ่แห่งเอเชีย
ชไนเดอร์ อิเล็คทริค เปิดตัว "Miluz E" สวิตช์-เต้ารับซีรีส์ใหม่ ดีไซน์น้อยแต่มากฟังก์ชั่น ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การใช้งาน คุ้มค่า คุ้มราคา
ชไนเดอร์ อิเล็คทริค เผยความคืบหน้าเป้าหมายด้านความยั่งยืนในไตรมาส 2 ปี 2568 ประสบความสำเร็จอย่างมีนัยสำคัญ
ชไนเดอร์ อิเล็คทริค เปิดเวที Innovation Talk แนะใช้นวัตกรรมโซลูชั่นจัดการพลังงานพลิกโฉมวงการเฮลท์แคร์สู่ความยั่งยืน ตอบรับนโยบาย พ.ร.บ.โลกร้อน
ชไนเดอร์ อิเล็คทริค เปิดตัวแพลตฟอร์ม "Zeigo(TM) Hub" ตัวช่วยสร้างความยั่งยืนองค์กร เร่งลดคาร์บอนในซัพพลายเชน ขับเคลื่อนเป้าหมาย Net-Zero ทั่วโลก
ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ชี้ป้องกันก่อนเกิดเหตุคือหัวใจสำคัญงานเซฟตี้ ชูนวัตกรรมโซลูชั่น "EcoStruxure(TM) Advanced Process Control (APC)"