รัฐบาลเตรียมพร้อมแผนสร้างความปลอดภัยทางถนนเชิงรุกช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2563

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

          เมื่อวันที่ 24 ธ.ค.62 เวลา 14.30 น. ณ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พล.ร.อ.ปวิตร รุจิเทศ ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทาน และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชุมกำหนดมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2563 น้อมนำพระราชกระแสรับสั่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในการดูแลความปลอดภัยของประชาชนอย่างดีที่สุด
          พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมหารือมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2563 เปิดเผยว่า รัฐบาลได้น้อมนำพระราชกระแสรับสั่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งทรงห่วงใยความปลอดภัยของประชาชนที่จะเดินทางในช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2563 โดยรัฐบาลได้เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานเกี่ยวข้องดำเนินการตามแผนป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2563 ที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไปแล้ว เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2562 ภายใต้ 7 มาตรการหลัก ได้แก่ มาตรการลดปัจจัยเสี่ยงด้านคน มาตรการการลดปัจจัยเสี่ยงด้านถนนและสภาพแวดล้อม มาตรการการลดปัจจัยเสี่ยงด้านยานพาหนะ มาตรการด้านการช่วยเหลือหลังเกิดอุบัติเหตุ มาตรการความปลอดภัยทางน้ำ มาตรการดูแลความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยว และมาตรการด้านการบริหารจัดการ นอกจากนี้ ให้ทุกพื้นที่นำมาตรการเสริม 3 ด้าน เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและลดอุบัติเหตุทางถนน ได้แก่ 1.ด่านครอบครัว โดยให้สมาชิกครอบครัวเฝ้าระวัง ป้องปราม ตักเตือนสมาชิกในครอบครัวที่มีพฤติกรรมเสี่ยงอุบัติเหตุทางถนน โดยนำหลัก 3 ร.ประกอบด้วย รักตัวเอง รักครอบครัว และรักคนอื่น ไปปฏิบัติ เพื่อให้เกิดความปลอดภัย 2.ซักซ้อมการปฏิบัติตามแผนการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในทุกระดับ เพื่อเตรียมพร้อมในการช่วยเหลือประชาชนที่อาจประสบอุบัติเหตุทางถนน 3.ตรวจสอบป้ายเตือน บริเวณจุดเสี่ยง จุดอันตราย เส้นทางที่ไม่ปลอดภัย และจุดตัดทางรถไฟ เพื่อให้ผู้ใช้รถใช้ถนนมองเห็นได้อย่างชัดเจน ที่สำคัญ ได้กำชับให้จุดบริการ ด่านตรวจ และด่านชุมชน กำหนดมาตรการเชิงรุกในการตรวจสอบความพร้อมของผู้ขับขี่และยานพาหนะ โดยเฉพาะการคุมเข้มการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์และการขอความร่วมมือผู้ประกอบการหรือสถานที่จัดงานส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่กวดขันการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด
          ด้าน พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะประธานกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) เปิดเผยว่า จากข้อมูลสถิติอุบัติเหตุทางถนนในช่วงที่ผ่านมา พบว่า กว่า 40% มีปัจจัยมาจากสภาพทางกายภาพของถนนที่ไม่ปลอดภัย จึงได้เน้นย้ำให้ทุกจังหวัดขับเคลื่อนแผนการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนนอย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง โดยเฉพาะในอำเภอที่เป็นพื้นที่เสี่ยงให้เน้นการบริหารจัดการในรูปแบบการบูรณาการมาตรการ ทั้งด้านคน รถ ถนน และสิ่งแวดล้อม โดยให้ทุกพื้นที่ให้ความสำคัญกับการเตรียมความพร้อมของถนน ทั้งการปรับสภาพแวดล้อมริมทาง แสงสว่าง ป้ายเตือน ซึ่งได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยเส้นทางสายต่างๆ ทั่วประเทศ นอกจากนี้ ในส่วนของมาตรการบริหารจัดการทุกจังหวัดได้จัดตั้งศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนทั้งระดับจังหวัดและระดับอำเภอ เพื่อขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการที่สอดคล้องกับสถานการณ์อุบัติเหตุทางถนนในพื้นที่ และได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดบูรณาการการทำงานร่วมกับจิตอาสาในทุกระดับเพื่อเป็นกำลังเสริมในการปฏิบัติงานสร้างความปลอดภัยทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2563 ของรัฐบาล ทั้งนี้ เพื่อเสริมประสิทธิภาพในการลดอุบัติเหตุทางถนน
          พล.ร.อ.ปวิตร รุจิเทศ ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทาน เปิดเผยว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงห่วงใยความเป็นอยู่และการเดินทางของประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2563 เพื่อเป็นการสนับสนุนภารกิจป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนของรัฐบาล ศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทานจึงได้มอบหมายให้จิตอาสาที่มีจำนวนกว่า 6 ล้านคนทั่วประเทศเข้าร่วมสนับสนุนการปฏิบัติงานด้านความปลอดภัยทางถนนกับภาครัฐ อาทิ การพัฒนาศาสนสถาน การส่งเสริมวินัยจราจร การประชาสัมพันธ์สร้างความตระหนักรู้ด้านความปลอดภัยทางถนน การส่งเสริมการบังคับใช้มาตรการทางกฎหมาย การให้บริการประชาชน โดยได้ประสานหน่วยงานต่างๆ ทั้งกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 76 จังหวัด ในการกำหนดแนวทาง และแบ่งมอบภารกิจการปฏิบัติงานของจิตอาสาเพื่อสร้างความปลอดภัยในการเดินทางแก่ประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2563
 

ข่าวกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย+พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัววันนี้

SME D Bank ออกมาตรการด่วนช่วยเอสเอ็มอีได้รับผลกระทบพายุ "บัวลอย" 'พักชำระหนี้-เติมทุนฉุกเฉิน' ลดภาระทางการเงิน ฟื้นฟูธุรกิจกลับมาเดินหน้าเร็ววัน

SME D Bank ออกมาตรการเร่งด่วน ช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีได้รับผลกระทบจากอิทธิพลพายุ "บัวลอย" ในพื้นที่ 18 จังหวัด ตามรายงานกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ให้สิทธิ์พักชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ย สูงสุดไม่เกิน 12 เดือน ช่วยลดภาระทางการเงิน ควบคู่เติมทุนฉุกเฉิน ซ่อมแซมฟื้นฟูให้กิจการกลับมาเดินหน้าได้โดยเร็ว นายพิชิต มิทราวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank เปิดเผยว่า ธนาคารห่วงใยลูกค้าและผู้ประกอบการเอสเอ็มอีได้รับผลกระทบจากพายุ "บัวลอย"

บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หร... NT หนุนพัฒนาระบบแจ้งเตือนภัยแห่งชาติ "T-Alert" ยกระดับความปลอดภัยประชาชนทั่วประเทศ — บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT เดินหน้าสนับสนุนการยกร...

สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้ติ... เฝ้าระวังน้ำหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขัง น้ำล้นตลิ่ง และระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา — สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้ติดตามการคาดการณ์สภาพอากาศพบว่า จะ...

ทรู ร่วม ปภ. พร้อมทดสอบระบบแจ้งเตือนภัย C... ชาวเชียงใหม่ อยุธยา อุดรฯ นครศรีฯ และกรุงเทพฯ เตรียมตัวให้พร้อม! — ทรู ร่วม ปภ. พร้อมทดสอบระบบแจ้งเตือนภัย Cell Broadcast ระดับจังหวัด 13 พ.ค. นี้ พร้อมย้...

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ร่วมกั... NT ยืนยันความพร้อม ร่วมทดสอบระบบแจ้งเตือนภัย Cell Broadcast ในพื้นที่จริง — กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้...

ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ผู้นำด้านดิจิทัลทรานส... ชไนเดอร์ อิเล็คทริค แนะ 7 วิธี เช็กระบบไฟฟ้า เพิ่มความปลอดภัย รับมือหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ — ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ผู้นำด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น ในการจัดก...