นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ตามที่ได้สั่งการให้ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน) หรือ SACICT เร่งดำเนินงานเก็บรวบรวม งานอนุรักษ์ภูมิปัญญาและองค์ความรู้ด้านหัตถศิลป์ไทย เพื่อต่อยอดนำความคิดสร้างสรรค์มาผสมผสานกับนวัตกรรมและเทคโนโลยีในปัจจุบัน เพื่อเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์งานหัตถศิลป์ไทยนั้น ล่าสุดทาง SACICT เตรียมจัดกิจกรรมประชุมสมาชิก SACICT Craft Network ครั้งที่ 3 ในกลุ่มผู้ประกอบการงานศิลปหัตถกรรม ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในวันพฤหัสบดีที่ 28 พฤศจิกายน 2562 ณ โรงแรมอวานี เพื่อเป็นการเชื่อมโยงเครือข่ายงานหัตถศิลป์ในกลุ่มผู้ประกอบการงานศิลปหัตถกรรมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ต้องเร่งดำเนินงานทั้งสิ้น 424 ราย แบ่งเป็นประเภท งานผ้า งานจักสาน งานโลหะ เครื่องกระดาษ และอื่นๆ ในจำนวนนี้มีผู้ประกอบการงานผ้ามากที่สุด ซึ่งงานผ้าทอของภาคตะวันออกเฉียงเหนือถือว่าเป็นศิลปหัตถกรรมไทยที่สร้างชื่อเชียงให้กับประเทศไทยมากที่สุด ทั้งนี้นอกเหนือจากกิจกรรมประชุมเครือข่ายผู้ประกอบการงานศิลปหัตถกรรมภาคตะวันออกเฉียงเหนือแล้ว ตนยังจะลงพื้นที่งานหัตถกรรมผ้าไหมมัดหมี่ชนบท ไปเยี่ยมชมผลงานของครูสงคราม งามยิ่ง ครูศิลป์ของแผ่นดิน ที่กวาดรางวัลจากการประกวดทั้งในและต่างประเทศมาแล้วนับไม่ถ้วน รวมถึงยังจะเดินทางไปเยี่ยมชมนวัตกรรมเส้นไหมอินทรีย์ นวัตกรรมผ้าไหมแต้มหมี่ และจะไปพบปะครูช่าง และทายาทในชุมชนเพื่อร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการผลักดันต่อยอดงานศิลปหัตถกรรมภาคตะวันออกเฉียงเหนือด้วย
"การลงพื้นที่ครั้งนี้ ผมจะเน้นประเด็นสร้างความตระหนักและเห็นคุณค่าของการจดทะเบียนลิขสิทธิ์ทางการค้าให้กับผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรม มุ่งยกระดับความสามารถในการแข่งขันเพื่อเพิ่มโอกาสทางการตลาด ทั้งยังเป็นการติดอาวุธทางปัญญาด้วยองค์ความรู้ทางเทคนิค ตลอดจนการพัฒนารูปแบบของผลิตภัณฑ์ เพื่อสร้างสรรค์งานหัตถศิลป์ที่ผสานอัตลักษณ์แห่งภูมิปัญญา ซึ่งจะช่วยให้เกิดการแปรรูปสินค้าให้ตรงกับยุคสมัยและความนิยมของผู้บริโภค มีการเชื่อมประสานไปยังผู้ซื้อ ตลอดจนสร้างเครือข่ายทางการตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงตลาดออนไลน์ เพื่อจะสร้างพันธมิตรด้านการค้าใหม่ๆ ต่อไป ได้อย่างไม่จำกัดอีกด้วย" นายวีรศักดิ์ กล่าว
นายวีรศักดิ์ กล่าวย้ำว่า กระทรวงพาณิชย์ตั้งเป้าที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากให้เติบโตอย่างยั่งยืน โดยเร่งเชื่อมกลไกการสร้างงาน สร้างรายได้ให้แก่พี่น้องประชาชนในท้องถิ่น เพื่อสร้างความเข้มแข็งจากเศรษฐกิจภายในประเทศรองรับความผันผวนของการค้าโลก ซึ่งขณะนี้ทุกองคาพยพของกระทรวงพาณิชย์มุ่งเน้นไปที่การปลุกเศรษฐกิจชุมชนหรือเศรษฐกิจท้องถิ่น (Local Economy)เพื่อให้เกิดการขยายตัวทางเศรษฐกิจและสังคมที่แข็งแกร่ง ทำให้พี่น้องประชาชนในทุกภูมิภาคได้มีความกินดีอยู่ดีอย่างยั่งยืน ซึ่งสอดคล้องกับการดำเนินงานของ SACICT ที่ให้ความสำคัญในการพัฒนาบุคลากร และเน้นการปรับกระบวนการคิด สร้างมุมมองใหม่ให้กับช่างผู้ผลิตให้สามารถผลิตงานศิลปหัตถกรรมที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค รวมถึงสามารถต่อยอดเกิดเป็นอาชีพและขายได้จริงในตลาด ประเทศไทยนับว่าโชคดีที่มีความมั่งคั่งด้านทรัพยากรทางธรรมชาติ มีเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม ประเพณี และศิลปะอันโดดเด่น สามารถสร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทยเป็นที่รู้จักในระดับสากล นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติให้ความสนใจเดินทางมาท่องเที่ยวและจับจ่ายซื้อสินค้าไทยกลับไปเป็นของที่ระลึก สร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจให้กับประเทศไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อนึ่ง สินค้าที่นักท่องเที่ยวที่ซื้อติดไม้ติดมือกลับไปเป็นของที่ระลึกนั้น นอกจากจะสร้างความภาคภูมิใจให้กับผู้ผลิตสินค้าผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมแล้ว ยังเป็นการสืบสาน ต่อยอด เพื่อการอนุรักษ์และพัฒนาเพื่อให้ผลงานอันทรงคุณค่าจากฝีมืออันประณีตยังคงอยู่สืบไปด้วย
"วีรศักดิ์" ลุยปลุกตลาดหัตถศิลป์ถิ่นอีสาน
รมว. กระทรวงพาณิชย์ เปิดงานครบรอบ "SACICT ก้าวสู่ปีที่ 18"
จุรินทร์เตรียมดันไทยเป็น Art & Crafts Hub ของอาเซียนเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
SACICT ก้าวสู่ปีที่ 18 สืบสาน รักษา และต่อยอดคุณค่าในงานศิลปาชีพและหัตถกรรมไทย
SACICT เปิดรันเวย์โชว์ 50 ผลงาน รอบชิงชนะเลิศ SACICT AWARD 2020
คัดเลือก 50 ผลงาน “ผ้าไทยใส่ได้ทุก GEN”สู่รันเวย์รอบชิงชนะเลิศ
SACICT เดินหน้าสืบสานพระราชณิธาน ส่งเสริม คุณค่าความเป็นไทย จัด กิจกรรมเสวนาและประชุมวิชาการด้านศิลปหัตถกรรม วิทยากรคนดังตบเท้าร่วมเสวนาคับคั่ง
เซ็นทรัลพัฒนา เชิดชูหัตถศิลป์ไทยร่วมสมัยสุดเลอค่า จับมือศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน) หรือ SACICT จัดงาน “SACICT เพลินคราฟต์”