สทนช.เปิดเวทีครั้งที่ 2 แจงข้อมูลการสร้าง“เขื่อนหลวงพระบาง” เร่งรวบรวมข้อกังวลประชาชน 8 จว.ริมโขง เตรียมเสนอ สปป.ลาว

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

          สทนช. ลงพื้นที่อำนาจเจริญ เปิดเวทีเป็นครั้งที่ 2 ร่วมให้ข้อมูลโครงการไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนหลวงพระบาง ตามระเบียบปฏิบัติของคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง เรื่อง การแจ้ง การปรึกษาหารือล่วงหน้าและข้อตกลง เพื่อรวบรวมข้อกังวลด้านผลกระทบของประชาชน 8 จังหวัดริมแม่น้ำโขง กำหนดเป็นท่าทีของไทย สะท้อนผ่านกลไก PNPCA ไปยัง สปป.ลาว 
          ณ ห้องประชุมวิทยาลัยเทคนิคอำนาจเจริญ อำเภอเมืองอำนาจเจริญ จังหวัดอำนาจเจริญ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) จัดเวทีให้ข้อมูล โครงการไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนหลวงพระบาง สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ตามระเบียบปฏิบัติของคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง เรื่อง การแจ้ง การปรึกษาหารือล่วงหน้าและข้อตกลง ครั้งที่ 2 (Procedures for Notification, Prior Consultation and Agreement, PNPCA) โดยมี นายประดับ กลัดเข็มเพชร รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เป็นประธานพิธีเปิด และนายพิจิตร บุญทัน รองผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ กล่าวให้การต้อนรับ พร้อมด้วยผู้เข้าร่วมประชุมกว่า 150 คน ประกอบด้วย ดร.จันสะแหวง บุนยง อธิบดีกรมนโยบายและแผนพลังงาน สปป.ลาว ผู้แทนจากส่วนราชการที่เกี่ยวข้องจากส่วนกลางและพื้นที่ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียภาคประชาชนในพื้นที่จังหวัดอำนาจเจริญ จังหวัดมุกดาหาร และจังหวัดอุบลราชธานี ได้แก่ คณะกรรมการเครือข่ายภาคประชาสังคมลุ่มน้ำโขง สถาบันการศึกษา กลุ่มผู้ใช้น้ำ ด้านเกษตรกรรม และด้านประมง 
          นายประดับ กลัดเข็มเพชร รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) กล่าวว่า ประเทศไทยอยู่ในลุ่มแม่น้ำโขงตอนล่างรวม 4 ประเทศ คือ ราชอาณาจักรกัมพูชา สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ราชอาณาจักรไทย และสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ที่เป็นประเทศสมาชิกคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง (Mekong River Commission: MRC) ซึ่งรัฐบาล 4 ประเทศ ได้ลงนามความตกลงว่าด้วยความร่วมมือเพื่อการพัฒนาลุ่มแม่น้ำโขงอย่างยั่งยืน พ.ศ. 2538 โดยมีข้อตกลงที่จะใช้น้ำของระบบลุ่มน้ำโขงอย่างสมเหตุสมผลและเป็นธรรม หากมีการนำน้ำจากแม่น้ำโขงมาใช้ภายในลุ่มน้ำหรือผันน้ำข้ามลุ่มน้ำ จะต้องดำเนินการตามระเบียบปฏิบัติ เรื่อง การแจ้ง การปรึกษาหารือล่วงหน้า และข้อตกลง (Procedures for Notification, Prior Consultation and Agreement, หรือ PNPCA) ซึ่งเป็นกระบวนการที่กรอบระยะเวลาดำเนินการ 6 เดือน
          สำหรับการเปิดเวทีในวันนี้ เป็นครั้งที่ 2 โดยครั้งแรกจัดที่จังหวัดนครพนม เพื่อให้ประชาชนจังหวัดนครพนม หนองคาย และบึงกาฬ ซึ่งเป็นพื้นที่นำร่องของ 8 จังหวัดริมฝั่งแม่น้ำโขง ที่ประกอบด้วย เชียงราย เลย หนองคาย บึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี ได้รับทราบข้อมูลเบื้องต้นของโครงการไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนหลวงพระบาง และได้แสดงความคิดเห็นต่อข้อห่วงกังวลต่อผลกระทบที่จะเกิดขึ้น ส่งผ่านไปยัง สปป.ลาว ซึ่งเป็นเจ้าของโครงการ รวมทั้งหน่วยงานในพื้นที่จะได้รับทราบข้อมูลองค์ประกอบและการพัฒนาโครงการ รวมถึงเสนอความคิดเห็นต่อข้อกังวลที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งการเปิดเวทีวันนี้จะมีการให้ข้อมูลโครงการไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนหลวงพระบาง ของ สปป.ลาว ภายหลังจากที่ สปป.ลาว ได้เสนอโครงการผ่านทางคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง โดยสาระสำคัญจะเน้นชี้แจงความเป็นมาของโครงการฯ ระเบียบปฏิบัติ PNPCA ให้ข้อมูลโครงการไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนหลวงพระบาง สปป. ลาว รวมทั้งชี้แจงสรุปผลรายงานทบทวนทางด้านเทคนิคของโครงการฯ ต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในพื้นที่ได้รับทราบข้อมูล การบรรยายสรุปความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญระดับประเทศต่อร่างรายงานทบทวนทางด้านเทคนิคของโครงการไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนหลวงพระบาง สปป. ลาว (Technical Review Report: TRR) รวมทั้งรายงานผลการประชุมเวทีการให้ข้อมูลที่ผ่านมา ตลอดจนรับฟังข้อห่วงกังวลต่อผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากทุกภาคส่วน และส่งให้ สปป.ลาวได้รับทราบผ่านกลไก PNPCA 
          สำหรับโครงการไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนหลวงพระบางนับเป็นโครงการลำดับที่ 5 ที่ สปป.ลาว มีแผนจะก่อสร้างบนแม่น้ำโขงสายประธาน ต่อจากโครงการไฟฟ้าพลังน้ำไซยะบุรี โครงการไฟฟ้าพลังน้ำดอนสะโฮง โครงการไฟฟ้าพลังน้ำปากแบงและโครงการไฟฟ้าพลังน้ำปากลาย ซึ่งการดำเนินงานดังกล่าวเป็นประเด็นที่ภาคประชาชนและประชาสังคมให้ความสนใจเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะจังหวัดที่มีพื้นที่ติดแม่น้ำโขงของไทยทั้ง 8 จังหวัด 
          ดังนั้น สทนช. ในฐานะสำนักเลขาธิการคณะกรรมการแม่น้ำโขงแห่งชาติไทย (Thai National Mekong Committee: TNMC) ทำหน้าที่เป็นหน่วยประสานงานภายใต้กรอบความร่วมมือ MRC ได้กำหนดจัดเวทีให้ข้อมูลโครงการไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนหลวงพระบาง สปป. ลาว ภายในประเทศ 3 ครั้ง (ครั้งที่ 1 จังหวัดนครพนม ครั้งที่ 2 จังหวัดอำนาจเจริญ และครั้งสุดท้ายที่จังหวัดเลย) ครอบคลุมพื้นที่ 8 จังหวัดริมแม่น้ำโขง เพื่อนำข้อมูลด้านเทคนิคเกี่ยวกับการก่อสร้างเขื่อนหลวงพระบางจากการประชุมกับ สปป.ลาว ในฐานะประเทศเจ้าของโครงการ และข้อคิดเห็นจากส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ถ่ายทอดสู่ประชาชนในพื้นที่ รวมถึงรับฟังประเด็นข้อห่วงกังวลต่อผลกระทบสะสมและข้ามพรมแดนของโครงการฯ ต่อพื้นที่ท้ายน้ำต่อคนในท้องถิ่น อาทิ ปัญหาภัยแล้ง น้ำท่วม รวมถึงระบบนิเวศลำน้ำโขง ที่อาจเกิดขึ้นจากการพัฒนาโครงการ นำไปสู่การกำหนดเป็นท่าทีประเทศไทยเสนอ สปป.ลาว พิจารณา ผ่านสำนักงานเลขาธิการคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง ตามลำดับ ทั้งนี้ สทนช. จะได้ติดตามและร่วมจัดทำแผนปฏิบัติการร่วม (Joint Action Plan) ของโครงการร่วมกับ 4 ประเทศ เพื่อให้การพัฒนาเขื่อนหลวงพระบางเกิดผลกระทบต่อพื้นที่ท้ายน้ำให้น้อยที่สุด อันก่อให้เกิดความร่วมมือในการกำหนดมาตรการที่เหมาะสมรองรับการพัฒนาโครงการฯ ต่อไป
สทนช.เปิดเวทีครั้งที่ 2 แจงข้อมูลการสร้าง“เขื่อนหลวงพระบาง” เร่งรวบรวมข้อกังวลประชาชน 8 จว.ริมโขง เตรียมเสนอ สปป.ลาว
 
สทนช.เปิดเวทีครั้งที่ 2 แจงข้อมูลการสร้าง“เขื่อนหลวงพระบาง” เร่งรวบรวมข้อกังวลประชาชน 8 จว.ริมโขง เตรียมเสนอ สปป.ลาว
 
สทนช.เปิดเวทีครั้งที่ 2 แจงข้อมูลการสร้าง“เขื่อนหลวงพระบาง” เร่งรวบรวมข้อกังวลประชาชน 8 จว.ริมโขง เตรียมเสนอ สปป.ลาว
สทนช.เปิดเวทีครั้งที่ 2 แจงข้อมูลการสร้าง“เขื่อนหลวงพระบาง” เร่งรวบรวมข้อกังวลประชาชน 8 จว.ริมโขง เตรียมเสนอ สปป.ลาว
 
 
 
 

ข่าวสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ+สำนักงานทรัพยากรน้ำวันนี้

สกพอ. จัดประชุมคณะอนุฯ บริหารจัดการน้ำ เตรียมขับเคลื่อนบริหารสร้างความมั่นคงด้านน้ำ พื้นที่อีอีซี

เมื่อเร็วๆ นี้ ดร.จุฬา สุขมานพ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ สกพอ. เป็นประธาน จัดประชุมคณะอนุกรรมการส่งเสริมและกำกับการบริหารจัดการน้ำในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ครั้งที่ 2/2568 พร้อมด้วยคณะอนุกรรมการฯ จากผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ กรมชลประทาน กรมทรัพยากรน้ำ กรมทรัยากรน้ำบาดาล กรมธนารักษ์ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เข้าร่วมประชุมฯ ณ ห้องประชุม Conference 1 2 สกพอ. ทั้งนี้ ที่ประชุมฯ ได้รับทราบ

สทนช. ติดตามมาตรการรับมือฝนลุ่มน้ำโขงอีสาน ประสาน MRCS ติดตามระดับน้ำแม่น้ำโขงล้นตลิ่ง ก.ค.-ส.ค.นี้

เลขาธิการ สทนช. ลงพื้นที่สกลนคร-นครพนม ติดตามมาตรการรับมือฤดูฝน ปี 68 ในพื้นที่ลุ่มน้ำโขงตะวันออกเฉียงเหนือ พร้อมประสาน MRCS ติดตามระดับน้ำแม่น้ำโขงล้นตลิ่งช่วง ก.ค.-ส.ค.นี้ กำชับหน่วยงานเร่งปรับ...

สทนช. ติดตามการขุดลอกแม่น้ำกก แม่น้ำสาย แม่น้ำรวก พร้อมรับมืออุทกภัยปีนี้

สทนช. บูรณาการหน่วยงานประชุมศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้าชั่วคราวฯ ลุ่มน้ำโขงเหนือ เร่งติดตามความก้าวหน้าการขุดลอกแม่น้ำกก แม่น้ำสาย แม่น้ำรวก การก่อสร้างพนังกั้นน้ำ และการแก้ไขปัญหาคุณภาพน้ำ รับมืออุทกภัยปีนี้ พร้อมชู "จ....

เลขาธิการ สทนช. ลงพื้นที่ จ.พะเยา ติดตามค... สทนช. ติดตามการบริหารจัดการน้ำกว๊านพะเยา พร้อมรับมืออุทกภัยตลอดฤดูฝนปีนี้ — เลขาธิการ สทนช. ลงพื้นที่ จ.พะเยา ติดตามความก้าวหน้ามาตรการรับมือฤดูฝน ปี 68 แ...

เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2568 คณะผู้แทนไทย... ประเทศไทยแสดงบทบาทผู้นำด้านทรัพยากรน้ำ ในเวทีระดับสูงของยูเนสโก ณ กรุงปารีส — เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2568 คณะผู้แทนไทย นำโดย ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิก...

ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรั... สทนช. ขับเคลื่อนบทบาทไทยบนเวทีนานาชาติ ร่วมผลักดันการอนุรักษ์ธารน้ำแข็งและความมั่นคงด้านน้ำ — ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (ส...

กทม. เฝ้าระวังน้ำทะเลหนุน 27 พ.ค.-1 มิ.ย.นี้ ตรวจสอบแนวคันกั้นน้ำ-เสริมกระสอบทรายแนวฟันหลอ

นายเจษฎา จันทรประภา ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ (สนน.) กทม. กล่าวกรณีสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ประกาศแจ้งเตือนสถานการณ์น้ำทะเลหนุนสูงระหว่างวันที่ 27 พ.ค. 1 มิ.ย. 68 ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดน้ำเอ่อล้น...

ด้วยสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ไ... สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ฉบับที่ 4/๒๕๖8 เรื่อง เฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูงและน้ำเค็มรุกล้ำ — ด้วยสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้ติดตามข้อมูลสถานการ...