สทนช. ติดตามสถานการณ์ในแม่น้ำเจ้าพระยารับมือภัยแล้ง

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

          "สทนช."นำสื่อมวลชนติดตามสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาในพื้นที่อยุธยา-ปทุมธานี พร้อมติดตามความก้าวหน้าโครงการคลองระบายน้ำหลากบางบาล-บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา มาตรการควบคุมน้ำเค็มและประเมินสถานการณ์น้ำดิบสำหรับผลิตน้ำประปาในช่วงฤดูแล้ง ขีดเส้นผลศึกษาจัดลำดับความเร่งด่วนพัฒนา 9 แผนหลักจัดการน้ำลุ่มเจ้าพระยาแล้วเสร็จภายในก.พ.นี้ เชื่อมั่นจะช่วยบริหารจัดการน้ำลุ่มเจ้าพระยาเกิดประสิทธิภาพในระยะยาว 
          วันนี้ (31 ม.ค.63) ดร.สมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ(สทนช.) ได้นำคณะสื่อมวลชนลงเรือเพื่อติดตามสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาและจังหวัดปทุมธานี และติดตามความก้าวหน้าโครงการคลองระบายน้ำหลากบางบาล-บางไทรจ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมทั้งได้ทำการตรวจคุณภาพน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณจุดบรรจบแม่น้ำน้อย– แม่น้ำเจ้าพระยา จ.พระนครศรีอยุธยาและเดินทางไปยังสถานีสูบน้ำสำแล(กปน.) ตำบลบ้านกระแชง อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี เพื่อประชุมหารือกับการประปานครหลวง เกี่ยวกับสถานการณ์น้ำดิบสำหรับผลิตน้ำประปา มาตรการควบคุมน้ำเค็มในแม่น้ำเจ้าพระยาในช่วงฤดูแล้งและแนวทางการแก้ไขปัญหาน้ำในพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยาภายใต้โครงการศึกษาจัดลำดับความสำคัญแผนงานเพื่อบรรเทาอุทกภัยในลุ่มน้ำเจ้าพระยา
          ดร.สมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) กล่าวว่า รัฐบาลมีความห่วงใยต่อภาวะน้ำแล้งที่เกิดขึ้นในปัจจุบันเป็นอย่างมาก และได้กำชับให้สทนช.เร่งหาแนวทางยับยั้ง บรรเทา และแก้ไขปัญหาภัยแล้งในพื้นที่เสี่ยงรวมถึงมาตรการเชิงป้องกันพื้นที่อื่น ๆ ไม่ให้ได้รับผลกระทบเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะประชาชนต้องไม่ประสบปัญหาการขาดแคลนน้ำเพื่อการอุปโภค-บริโภคที่รัฐบาลให้ความสำคัญ สำหรับสถานการณ์ปัญหาสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ขณะนี้สทนช.กำลังเร่งรัดติดตามความก้าวหน้า โครงการคลองระบายน้ำหลากบางบาล-บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งภายใต้โครงการศึกษาจัดลำดับความสำคัญ 9 แผนงานบรรเทาอุทกภัยลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่าง โดยความก้าวหน้าล่าสุดได้มีการดำเนินการตามแผน (road map) ในปี 2562 ได้ดำเนินการออกแบบรายละเอียดคลองระบายน้ำหลาก พร้อมศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม EIA การเวนคืนที่ดินและจัดเตรียมพื้นที่เพื่อการก่อสร้าง และได้เริ่มดำเนินการก่อสร้างตั้งแต่ ปี 2562 -2566 กรอบวงเงินรวมประมาณ 21,000 ล้านบาท ประกอบด้วย 1. ขุดคลองระบายน้ำสายใหม่จากบริเวณ อ.บางบาล – อ.บางไทรและอาคารประกอบตามแนวคลอง ระยะทาง 22.4 กม. ระบายน้ำได้สูงสุด 1,200 ลูกบาศก์เมตร/วินาที 2.ก่อสร้างถนนบนคันคลองทั้ง 2 ฝั่ง 
          รวมความกว้างเขตคลอง 245 ม. 3.ประตูระบายน้ำในลำน้ำสาขา 2 แห่ง และปลายคลองขุดใหม่ 1 แห่ง และ 4.ก่อสร้างเขื่อนพระนครศรีอยุธยาในแม่น้ำเจ้าพระยาซึ่งเมื่อโครงการแล้วเสร็จจะส่งให้แม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณจังหวัดพระนครศรีอยุธยาสามารถรองรับอัตราการระบายเพิ่มขึ้นได้รวม 2,000 ลบ.ม./วินาที
          ที่จะช่วยลดพื้นที่น้ำท่วมในเขตเศรษฐกิจ โบราณสถานสำคัญ และพื้นที่ชุมชนเมืองพระนครศรีอยุธยา เนื่องจากแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเป็นบริเวณที่ลำน้ำแคบที่สุด ซึ่งที่ผ่านมาการระบายน้ำมากกว่า 800 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ก็จะเกิดผลกระทบต่อชุมชนริมตลิ่งได้ อีกทั้งบริเวณเกาะเมืองอยุธยายังเป็นจุดบรรจบของแม่น้ำป่าสักรวมน้ำทั้งสองสายทำให้เกิดการชะลอน้ำบริเวณจุดบรรจบทำให้น้ำเอ่อล้นตลิ่งอยู่เป็นประจำ ซึ่งโครงการคลองระบายน้ำหลากบางบาล-บางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา (ปลายคลอง) จะเป็นการลดอัตราการไหลแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณจังหวัดพระนครศรีอยุธยาให้อยู่ในระดับที่ควบคุมได้ โดยบายพาสน้ำส่วนเกินผ่านช่องลัด
          ดร.สมเกียรติ กล่าวด้วยว่า ขณะนี้สทนช.ได้ดำเนินโครงการศึกษาจัดลำดับความสำคัญ 9 แผนงานบรรเทาอุทกภัยลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่างที่เป็นโครงการขนาดใหญ่ ได้แก่ 1.โครงการปรับปรุงระบบชลประทานเจ้าพระยาฝั่งตะวันออกตอนล่าง 2.โครงการคลองระบายน้ำหลากชัยนาท-ป่าสัก-อ่าวไทย 3.โครงการคลองระบายน้ำควบคู่ถนนวงแหวนรอบที่สาม 4.โครงการปรับปรุงโครงข่ายระบบชลประทานฝั่งตะวันตก 5.โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา 6.โครงการบริหารจัดการพื้นที่นอกคันกั้นน้ำ 7.โครงการคลองระบายน้ำหลากบางบาล-บางไทร 8.โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำแม่น้ำท่าจีน และ 9.โครงการพื้นที่รับน้ำนอง 
          "คาดว่าผลการศึกษาจะแล้วเสร็จตามแผนภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้ จากนั้นจะเข้าสู่กระบวนการนำผลการศึกษาไปใช้เป็นแผนแม่บทให้แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นแนวทางและแผนปฏิบัติการสำหรับการพัฒนาและบริหารจัดการน้ำ เพื่อให้การตัดสินใจดำเนินโครงการเป็นไปอย่างรอบคอบถูกต้องตามหลักวิชาการ นำไปสู่การแก้ปัญหาและการพัฒนาอย่างยั่งยืนทั้งในมิติของวิศวกรรม เศรษฐศาสตร์ เศรษฐกิจและสังคม สิ่งแวดล้อม และการบริหารจัดการน้ำต่อไปในอนาคต" ดร.สมเกียรติ กล่าว 
          อย่างไรก็ตาม เนื่องจากทั้ง 9 แผนงานเป็นโครงการขนาดใหญ่ และใช้งบประมาณดำเนินการค่อนข้างสูง ดังนั้น จึงจำเป็นต้องศึกษาการจัดลำดับความสำคัญในหลากหลายมิติ เพื่อให้แผนงานโครงการที่จะดำเนินการในแต่ละปีเกิดความคุ้มค่าและเกิดประสิทธิผลสูงสุด โดยผ่านกระบวนการ ทบทวน และวิเคราะห์สภาพปัญหาอุทกภัยในลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่างทั้งในอดีต ปัจจุบัน และในอนาคต รวมทั้งมีการเปิดเวทีรับฟังความเห็นจากภาคส่วนต่างๆ ที่มีผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อโครงการ การรวบรวมแผนงานโครงการของหน่วยงานต่างๆ ที่สัมพันธ์กันกับการระบายน้ำของ 9 แผนงานเพื่อให้ทราบถึงภาพรวมการดำเนินโครงการทั้งหมด การเพิ่มเติมรายละเอียดคันกั้นน้ำหรือการสร้างถนนหรือยกระดับถนนขึ้นมาใหม่ ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับสภาพการไหลเมื่อมีการไหลผ่านพื้นที่ลุ่มต่ำต่างๆ รวมถึงการจำลองเหตุการณ์น้ำท่วมปีต่างๆ ร่วมกับการจำลองโครงการของแผนบรรเทาอุทกภัยในลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่าง โดยกำหนดกรณีฐานและเพิ่มเติมกรณีศึกษาให้ครอบคลุมทุกความเป็นไปได้ที่เหมาะสม เพื่อให้ทราบถึงประสิทธิผลและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นได้ โดยในแต่ละกรณีต้องวิเคราะห์ทุกมิติบนหลักเกณฑ์เดียวกัน
สทนช. ติดตามสถานการณ์ในแม่น้ำเจ้าพระยารับมือภัยแล้ง
 
สทนช. ติดตามสถานการณ์ในแม่น้ำเจ้าพระยารับมือภัยแล้ง
 
สทนช. ติดตามสถานการณ์ในแม่น้ำเจ้าพระยารับมือภัยแล้ง
สทนช. ติดตามสถานการณ์ในแม่น้ำเจ้าพระยารับมือภัยแล้ง
 
 
 

ข่าวสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ+สำนักงานทรัพยากรน้ำวันนี้

สทนช. จับมือเขื่อนภูมิพล ปรับลดการระบายน้ำบรรเทาท่วมภาคกลาง

สทนช. ประชุมด่วนวางแผนปรับลดการระบายน้ำจากเขื่อนภูมิพล หลังคาดฝนภาคเหนือจะลดลงอย่างต่อเนื่อง เริ่มต้นวันพรุ่งนี้ จาก 55 ล้าน ลบ.ม. ต่อวัน เหลือ 50 ล้าน ลบ.ม. ต่อวัน และวันถัดไปปรับลดอีกเหลือ 45 ล้าน ลบ.ม. ต่อวัน เพื่อลดมวลน้ำที่ไหลลงสู่ภาคกลาง วันนี้ (15 พฤศจิกายน 2568) นายไพฑูรย์ เก่งการช่าง รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์น้ำและวางแผนการบริหารจัดการน้ำเขื่อนภูมิพล โดยมีผู้ทรงคุณวุฒิและผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมการประชุม ณ

สทนช. ระดมทุกหน่วยเดินหน้าคลี่คลายพื้นที่ท่วมขังหลังฝนตอนบนลดลง

เตรียมปรับลดการระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยา พร้อมจับตาฝนตกหนักต่อเนื่องภาคใต้ สทนช. หารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เห็นชอบปรับลดการระบายน้ำเขื่อนสิริกิติ์ เหลือ 10 ล้าน ลบ.ม. ต่อวัน พร้อมเตรียมทยอยปรับลดการระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยา เพื่อช่วย...

สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้ติ... เฝ้าระวังน้ำหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขัง น้ำล้นตลิ่ง และระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา — สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้ติดตามการคาดการณ์สภาพอากาศพบว่า จะ...

สทนช. เปิดศูนย์ส่วนหน้าฯ "ลุ่มน้ำยม-น่าน" จับมือทุกหน่วย คุมจราจรน้ำจากเหนือสู่เจ้าพระยา เพื่อลดผลกระทบต่อประชาชน

สทนช. เปิดศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้า (ชั่วคราว) ในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยลุ่มน้ำยม-น่าน ระดมทุกหน่วยจัดการจราจรน้ำที่ไหลจากภาคเหนือก่อนลงสู่อ่าวไทย โดยไม่ให้ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ ...

สทนช. ติดตามการขุดลอกแม่น้ำกก แม่น้ำสาย แม่น้ำรวก พร้อมรับมืออุทกภัยปีนี้

สทนช. บูรณาการหน่วยงานประชุมศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้าชั่วคราวฯ ลุ่มน้ำโขงเหนือ เร่งติดตามความก้าวหน้าการขุดลอกแม่น้ำกก แม่น้ำสาย แม่น้ำรวก การก่อสร้างพนังกั้นน้ำ และการแก้ไขปัญหาคุณภาพน้ำ รับมืออุทกภัยปีนี้ พร้อมชู "จ....