เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2562 สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้ว่าจ้างสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) ทำการศึกษากฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการกำกับดูแลสำนักงานสอบบัญชีและผู้สอบบัญชีในตลาดทุนของต่างประเทศ เพื่อนำมาใช้ประกอบการพิจารณาแก้ไข พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ ให้สามารถกำกับดูแลสำนักงานสอบบัญชีและผู้สอบบัญชีในตลาดทุนไทยได้ อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากยิ่งขึ้น
นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า "ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ ก.ล.ต. ว่าจ้างผู้เชี่ยวชาญภายนอกมาทำการศึกษากฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการกำกับดูแลสำนักงานสอบบัญชีและผู้สอบบัญชีในตลาดทุนของไทยเปรียบเทียบกับของต่างประเทศ ในขณะนี้ ทีดีอาร์ไออยู่ระหว่างศึกษากฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อจัดทำข้อเสนอแนะและแนวทางในการพิจารณาแก้ไข พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ โดยปัจจุบันมีความคืบหน้าในการเริ่มศึกษากฎหมายของประเทศที่สำคัญไปแล้ว 5 ประเทศ ซึ่งเบื้องต้นพบว่าประเทศส่วนใหญ่มีกฎหมายรองรับให้หน่วยงานกำกับดูแลสามารถกำกับดูแลสำนักงานสอบบัญชีได้ รวมถึงการจัดให้มีการประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากผู้เกี่ยวข้องต่อการแก้ไข พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ ด้วยในลำดับต่อไป ซึ่งผลการศึกษาและข้อเสนอแนะ ในเรื่องดังกล่าว คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนพฤษภาคม 2563
จากนั้น ก.ล.ต. จะเร่งดำเนินการเสนอแก้ไข พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ ต่อไป โดยมุ่งหวังให้การบังคับใช้กฎหมายและยกระดับการคุ้มครองผู้ลงทุนในตลาดทุนมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และสอดคล้องกับคำแนะนำที่ได้รับจากการประเมินภาคการเงิน (Financial Sector Assessment Program: FSAP) ครั้งล่าสุดในปี 2562 ที่ให้ ก.ล.ต. แก้ไขกฎหมายหลักทรัพย์เพื่อให้มีอำนาจลงโทษสำนักงานสอบบัญชีในตลาดทุนได้
นอกจากนี้ ก.ล.ต. จะแจ้งผลการศึกษาดังกล่าวให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ทราบเพื่อเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาแก้ไขพระราชบัญญัติวิชาชีพบัญชี พ.ศ. 2547 ในส่วนที่เกี่ยวข้อง อันจะนำไปสู่การยกระดับการกำกับดูแลคุณภาพการสอบบัญชีทั้งระบบต่อไป"
ทั้งนี้ ก.ล.ต. ให้ความสำคัญกับคุณภาพงานสอบบัญชี ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยยกระดับความน่าเชื่อถือของระบบรายงานทางการเงินของบริษัทในตลาดทุน และระบบการควบคุมคุณภาพของสำนักงานสอบบัญชีมีส่วนช่วยอย่างมากในการทำให้งานของผู้สอบบัญชีมีคุณภาพ
PRTR คว้า CGR ระดับ "ดีเลิศ" 5 ดาว ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 สะท้อนธรรมาภิบาลองค์กรและความยั่งยืนทางธุรกิจ
CH คว้าคะแนน CGR 4 ดาว ระดับ "ดีมาก" ต่อเนื่องปีที่ 2
WICE คว้า CGR ระดับ "ดีเลิศ" 7 ปีซ้อน ในระดับ "Top Quartile" สะท้อนผลงานธรรมาภิบาลสูงสุด
COM7 คว้าคะแนน "ดีเลิศ (Excellent)" ระดับ 5 ดาว ต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 พร้อมติดกลุ่ม Top Quartile ตอกย้ำธรรมาภิบาลแกร่ง - การเติบโตอย่างยั่งยืน
ORN คว้า CGR 2568 ระดับ "ดีเลิศ" 5 ดาว ย้ำมาตรฐานบรรษัทภิบาล มุ่งสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน
CHAO ได้รับการประเมิน CGR ในเกณฑ์ "ดี" ระดับ 3 ดาว ประจำปี 2568 สะท้อนความมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจตามหลักธรรมาภิบาล เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน
'MALEE' ยืนหนึ่งด้านธรรมาภิบาล คว้า CGR ระดับ "ดีเลิศ" 7 ปีติดต่อกัน ตอกย้ำการกำกับดูแลกิจการที่ดี โปร่งใส สร้างสมดุลแห่งชีวิตเติบโตอย่างยั่งยืน