ยูนิเซฟเร่งการสนับสนุนเพื่อเตรียมความพร้อมให้เด็กปลอดภัยในช่วงเปิดเรียนใหม่ พร้อมเผยแพร่คำแนะนำสำหรับผู้ปกครอง ครู และเด็กๆ สำหรับการเปิดเรียน

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

องค์การยูนิเซฟเร่งสนับสนุนมาตรการต่าง ๆ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเปิดภาคเรียนใหม่ในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ โดยได้จัดทำแนวทางปฏิบัติสำหรับสถานศึกษา พร้อมจัดส่งสิ่งของที่จำเป็น ตลอดจนเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่ครอบครัว เพื่อช่วยให้เด็ก ๆ ปลอดภัยจากโรคโควิด-19 ในช่วงการเปิดโรงเรียน

ยูนิเซฟเร่งการสนับสนุนเพื่อเตรียมความพร้อมให้เด็กปลอดภัยในช่วงเปิดเรียนใหม่ พร้อมเผยแพร่คำแนะนำสำหรับผู้ปกครอง ครู และเด็กๆ สำหรับการเปิดเรียน

ทั้งนี้ มาตรการขยายระยะเวลาปิดโรงเรียนเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบต่อเด็กนักเรียนเกือบ 13 ล้านคนในประเทศไทย ในขณะที่ทั่วโลก ยูนิเซฟประมาณการณ์ว่า มีเด็กนักเรียนกว่า 1 พันล้านคนใน 130 ประเทศที่ยังไม่ได้กลับไปโรงเรียน เนื่องจากมาตรการล็อกดาวน์ที่ยังคงเกิดขึ้นในหลายประเทศ ยูนิเซฟเร่งการสนับสนุนเพื่อเตรียมความพร้อมให้เด็กปลอดภัยในช่วงเปิดเรียนใหม่ พร้อมเผยแพร่คำแนะนำสำหรับผู้ปกครอง ครู และเด็กๆ สำหรับการเปิดเรียน

นายโธมัส ดาวิน ผู้แทนองค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย กล่าวว่า “หลังจากที่โรงเรียนปิดมาเป็นเวลาหลายเดือน การเปิดภาคเรียนใหม่ในครั้งนี้จะมีวิถีใหม่ต่างจากที่ผ่านมา ยูนิเซฟยินดีที่ได้เห็นเด็ก ๆ กลับไปเรียนในโรงเรียนอีกครั้ง เพราะไม่มีอะไรจะมาทดแทนการเรียนรู้แบบปฏิสัมพันธ์ระหว่างครูและเพื่อนในชั้นเรียนได้” ยูนิเซฟเร่งการสนับสนุนเพื่อเตรียมความพร้อมให้เด็กปลอดภัยในช่วงเปิดเรียนใหม่ พร้อมเผยแพร่คำแนะนำสำหรับผู้ปกครอง ครู และเด็กๆ สำหรับการเปิดเรียน

ขณะที่เด็ก ๆ ส่วนใหญ่ โดยเฉพาะเด็กในครอบครัวที่ยากจนหรืออยู่ในพื้นที่ห่างไกล ต้องเผชิญความท้าทายต่าง ๆ ในการเรียนออนไลน์ระหว่างที่โรงเรียนปิด งานวิจัยหลายชิ้นต่างระบุว่า การไม่ได้ไปโรงเรียนเป็นเวลานาน อาจลดทอนความสามารถในการเรียนรู้ของเด็ก และส่งผลกระทบต่อผลการเรียน นอกจากนี้ ยังเป็นการสูญเสียกิจวัตรประจำวันของเด็ก อีกทั้งยังเพิ่มความเสี่ยงที่เด็ก ๆ ต้องเผชิญกับความรุนแรง และการถูกแสวงผลประโยชน์

“วิกฤตโควิด-19 ส่งผลให้ระบบการศึกษาและโรงเรียนทั่วประเทศต้องเผชิญกับความท้าทายในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน แต่ในขณะเดียวกัน มันก็ทำให้เราเห็นว่า เราต้องเร่งปรับปรุงและปฏิรูประบบการศึกษา เพื่อให้แน่ใจว่าเด็กทุกคน รวมถึงเด็กที่เปราะบางที่สุด จะสามารถเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพได้อย่างเท่าเทียมกัน ทั้งในแง่หลักสูตรและการเรียนการสอนที่ตอบสนองความต้องการของพวกเขา วิกฤตในครั้งนี้ถือเป็นโอกาสที่จะเร่งปฏิรูปทางการศึกษาและนำเทคโนโลยีมาใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างแท้จริงสำหรับเด็กทุกคน”

ยูนิเซฟและกระทรวงศึกษาธิการ กำลังหาแนวทางในการใช้เทคโนโลยีเพื่อการส่งเสริมความเท่าเทียมในการศึกษา โดยยูนิเซฟร่วมกับหน่วยงานสหประชาชาติอื่น ๆ เช่น องค์การยูเนสโก และสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ไอทียู) ในการลดช่องว่างทางเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา และได้ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และโครงการมหาวิทยาลัยไซเบอร์ไทย ในการประเมินโครงการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาทางไกลในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด -19 พร้อมกับมุ่งเน้นการพัฒนาทักษะที่จำเป็นและส่งเสริมนักเรียนให้มีทักษะความเข้าใจในการใช้เทคโนโลยี ตลอดจนสนับสนุนครูในการใช้เทคโนโลยีเพื่อส่งเสริมประสิทธิภาพในการเรียนรู้ของเด็ก ๆ

ยูนิเซฟยังได้ร่วมกับองค์การเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐอเมริกา หรือ ยูเอสเอด (USAID) รัฐบาลญี่ปุ่น และพันธมิตรอื่น ๆ  รับมือกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยได้จัดส่งเครื่องสแกนอุณหภูมิซึ่งสนับสนุนโดยยูเอสเอด ไปยังศูนย์พัฒนาเด็กเล็กและโรงเรียนต่าง ๆ กว่า  2,531 แห่ง ในจังหวัดตาก ระนอง และจังหวัดชายแดนภาคใต้ นอกจากนี้ยังได้ร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงสาธารณสุข จัดทำแนวทางการปฏิบัติสำหรับสถานศึกษาและคู่มือครูเพื่อแจกจ่ายไปยังศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก 19,600 แห่ง และโรงเรียนอีก 38,000 ทั่วประเทศ

ดาวน์โหลดข้อมูลด้านสุขภาพและสุขอนามัยสำหรับพ่อแม่ คุณครู และเด็ก ๆ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเปิดภาคเรียนใหม่

  • วิดีโอชุด “การเตรียมความพร้อมให้ลูกในการเปิดเรียนใหม่ และ “แนวทางที่คุณครูจะช่วยให้เด็ก ๆ ปลอดภัยจากโรคโควิด-19”
  • อินโฟกราฟฟิก ชุด “คำแนะนำสำหรับคุณครูและสถานศึกษา เพื่อสร้างโรงเรียนให้ปลอดภัยห่างไกลโควิด”
  • แนวทางการปฏิบัติสำหรับสถานศึกษาเพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
  • ชุดการเรียนรู้ คู่มือครูสำหรับการจัดกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้เกี่ยวกับโรคโควิด-19

คำแนะนำสำหรับผู้ปกครอง ครู และเด็ก ๆ ในช่วงเปิดโรงเรียน

  • สำหรับผู้ปกครอง
    • สอนเด็ก ๆ และเป็นตัวอย่างที่ดีให้แก่พวกเขาในการรักษาสุขอนามัย เช่น การล้างมืออย่างถูกวิธี สอนให้เด็ก ๆ ปิดปากด้วยข้อศอกเมื่อไอหรือจาม และหลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้า
    • หมั่นเช็คสุขภาพของเด็ก สร้างบรรยากาศให้พวกเขาได้ซักถาม และแสดงความรู้สึกกับผู้ใหญ่
    • อธิบายให้เด็ก ๆ รู้ว่าเป็นเรื่องปกติหากเขาจะรู้สึกสับสนและวิตกกังวลในสถานการณ์แบบนี้ และแจ้งให้ครูทราบหากลูกมีปัญหาหรือวิตกกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาด
  • สำหรับโรงเรียนและครู
    • สร้างเสริมนิสัยการรักษาความสะอาดและสุขอนามัยที่ดี ให้ข้อมูลและสร้างความเข้าใจด้านมาตรการการป้องกันโควิด-19 ในโรงเรียนแก่เด็กและผู้ปกครองอย่างสม่ำเสมอ  
    • ตรวจวัดอาการและสังเกตสภาวะทางอารมณ์และจิตใจของนักเรียนทุกวัน
    • ป้องกันการตีตราและการกลั่นแกล้งที่มาจากโรคโควิด-19 และสอนให้เด็ก ๆ รู้สึกเห็นอกเห็นใจผู้อื่น
  • สำหรับเด็กนักเรียน
    • รักษาสุขอนามัยสำหรับตนเองและผู้อื่น ล้างมืออย่างถูกวิธีบ่อย ๆ  หลีกเลี่ยงการเอามือไปสัมผัสใบหน้า และอยู่ห่างกันอย่างน้อย 1 เมตร
    • รักษาสุขภาพอยู่เสมอ หากรู้สึกไม่สบายหรือมีไข้ ให้รีบบอกผู้ปกครองหรือครูและไปพบแพทย์ พูดคุยกับครอบครัวและครูหากรู้สึกกังวลหรือไม่สบายใจ
    • ไม่กลั่นแกล้งหรือเยาะเย้ยคนที่ป่วย แต่ให้กำลังใจและเห็นอกเห็นใจผู้อื่น

สามารถเข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่

Facebook: องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย: https://www.facebook.com/unicefthailand/

เว็บไซต์ https://www.unicef.org/thailand/th/coronavirus/covid-19

สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่:

องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย

ณัฐฐา กีนะพันธ์ 086 616 7555, [email protected]

วรวุฒิ ชูมณี 093 442 8289, [email protected]


ข่าวองค์การยูนิเซฟ+ประเทศไทยวันนี้

สคส. จับมือภาคีเครือข่ายกว่า 50 องค์กร เดินหน้าปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลในงาน Safer Internet Day Thailand 2025

สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) นำโดย พ.ต.อ.สุรพงศ์ เปล่งขำ เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พร้อมคณะเจ้าหน้าที่ ร่วมจัดนิทรรศการและพิธีเปิดงาน Safer Internet Day Thailand 2025 (SIDTH 2025) ร่วมกับมูลนิธิอินเตอร์เน็ตร่วมพัฒนาไทย, สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.), องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย (UNICEF Thailand), จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และหน่วยงานพันธมิตร รวมกว่า 50 องค์กร เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมดิจิทัลที่ปลอดภัยและส่งเสริมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเชิงรุก เนื่อง

5 เทคนิคการ "เสิร์ฟและโต้กลับ" กับลูก ช่วยสร้างพัฒนาการตลอดชีวิต

การเล่นสนุกกับเด็กเป็นของคู่กัน พ่อแม่หลายคนอาจนิยมเลือกหาของเล่นเสริมพัฒนาการหรือกิจกรรมต่าง ๆ ให้ลูกเล่น แต่สิ่งสำคัญที่พ่อแม่ส่วนใหญ่มักมองข้ามคือ การตอบโต้และมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างที่ลูกกำลังเล่น ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของการเติบโตในวัย...

เลี้ยงลูกเชิงบวกวัย 0-6 ปี นาทีทองสำหรับพ่อแม่ยุคใหม่

ปัจจุบันพ่อแม่ยุคใหม่มักต้องทำงานนอกบ้านทั้งคู่ ส่งผลให้ไม่สามารถเลี้ยงดูลูกได้อย่างเต็มที่เนื่องจากมีเวลาจำกัด โดยเฉพาะเด็กในช่วงวัย 0-6 ปี ที่จำเป็นต้องได้รับการเลี้ยงดูอย่างเหมาะสม ทั้งทางด้านร่างกาย อารมณ์ และจิตใจ ซึ่งถือเป็นช่วง...

ปัจจุบันพ่อแม่ยุคใหม่มักต้องทำงานนอกบ้านท... เลี้ยงลูกเชิงบวกวัย 0-6 ปี นาทีทองสำหรับพ่อแม่ยุคใหม่ — ปัจจุบันพ่อแม่ยุคใหม่มักต้องทำงานนอกบ้านทั้งคู่ ส่งผลให้ไม่สามารถเลี้ยงดูลูกได้อย่างเต็มที่เนื่องจ...

ยูนิเซฟประกาศแต่งตั้งนางนวลพรรณ ล่ำซำ หรื... ยูนิเซฟแต่งตั้งนวลพรรณ ล่ำซำ เป็นทูตองค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย — ยูนิเซฟประกาศแต่งตั้งนางนวลพรรณ ล่ำซำ หรือ มาดามแป้ง เป็นทูตองค์การยูนิเซฟประจำประเทศไทย โด...