โดย จูลี่ ฮอฟแมน, หัวหน้ากลยุทธ์ด้านการตลาดและการท่องเที่ยว, อะโดบี
การแพร่ระบาดของ COVID-19 ได้เปลี่ยนวิถีของการดำเนินธุรกิจการท่องเที่ยว การบริการ และร้านอาหาร อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน “การปรับตัว” (Resilience) ได้ถูกพิสูจน์แล้วว่าเป็นกุญแจสำคัญสำหรับธุรกิจในเวลานี้
เราเห็นความท้าทายมากมายที่อุตสาหกรรมกำลังเผชิญในการสื่อสารกับลูกค้าเพื่อปรับปรุงธุรกิจในภาวะชะงักงัน และเมื่อการล็อคดาวน์เริ่มคลายตัว มีวิธีที่แบรนด์จะได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าผ่านประสบการณ์ที่ดีจากการคิดนอกกรอบ และกระบวนการคิดอย่างสร้างสรรค์เพื่อช่วยให้ธุรกิจฟื้นตัว บทความนี้จะพูดถึงการปรับตัวของธุรกิจเพื่อให้แบรนด์เข้าถึงลูกค้า ทำความเข้าใจกับลูกค้าได้ดีขึ้น รวมถึงทำการสื่อสารเชิงรุกในภาวะที่การล็อคดาวน์เริ่มคลายตัว
ความสำคัญของธุรกิจท่องเที่ยว
ปฏิเสธไม่ได้ว่าอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเป็นอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดในสถานการณ์ COVID-19 การปิดพรมแดน หรือปิดประเทศ นอกจากจะเปลี่ยนวิถีชีวิตประจำวันของทุกคนแล้วยังเปลี่ยนการดำเนินธุรกิจที่สร้างประสบการณ์ใหม่แบบไม่มีวันลืม ข้อมูลจากสภาการเดินทางและการท่องเที่ยวโลก (Worldwide Travel & Tourism Council : WWTC) เผยว่าในปี 2561 อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการบริการมีการเติบโตอยู่ที่ 3.9% สูงเป็นอันดับสองจากอุตสาหกรรมทั้งหมด คิดเป็นมูลค่า 8.8 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ มีตำแหน่งงานในภาคเศรษฐกิจโลกถึง 319 ล้านตำแหน่งงาน แต่ตอนนี้สายการบิน, โรงแรม, รถเช่า, ตัวแทนการท่องเที่ยว และเรือสำราญ ได้เปลี่ยนไปเน้นและให้ความสำคัญกับ “การจัดการความปลอดภัย และสุขภาพของนักท่องเที่ยว” เป็นอันดับแรก และถือว่าเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในเวลานี้
เราต้องให้ความสำคัญทั้งกับบริษัทที่ดำเนินธุรกิจท่องเที่ยว และลูกค้าที่มีอยู่ทั่วโลกซึ่งพวกเขากำลังวางแผนการท่องเที่ยวอีกครั้ง “เทคโนโลยีดิจิทัล” ดูจะเป็นวิธีที่เร็วที่สุดในการจัดการกรณีฉุกเฉินต่างๆ ขณะที่แบรนด์เองก็ต้องหาวิธีใหม่ๆ ในการจัดการการยกเลิกการเดินทาง พร้อมเสนอทางเลือกอื่นๆเพื่อให้ลูกค้าได้รู้สึกถึงความรับผิดชอบของแบรนด์ และไม่ได้รู้สึกว่าตนเองถูกทอดทิ้ง
โดยทั่วไปลูกค้าจะเริ่มต้นด้วยการโทรติดต่อ Call Center และใช้ช่องทางโซเชียลมีเดียที่หลากหลายของแบรนด์เพื่อหาวิธีการจัดการการเดินทางของพวกเขา ด้วยความเร่งด่วนของเคส ซึ่งบางเคสก็เป็นเคสที่ซับซ้อน ดังนั้นความต้องการที่จะติดต่อแบรนด์ทาง Call Center จึงสูงอยู่ตลอดเวลา การทำความเข้าใจกับปริบทของแต่ละเคสเป็นสิ่งที่ Call Center ต้องให้ความสำคัญ แล้ว Call Center จะมีวิธีรับมืออย่างไร? วิธีที่หนึ่งที่เริ่มใช้กันมากคือ รับมือผ่าน AI ซึ่งกลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการรับมือกับลูกค้าที่ต้องการความช่วยเหลือ เช่น AI สามารถช่วยแบรนด์ค้นหาคำร้องจากลูกค้าจำนวนมากได้อย่างรวดเร็ว และจัดการ Travel Credit ได้ทันทีเมื่อมีการเปลี่ยนแปลง “แพลตฟอร์มดิจิทัล” ที่เหมาะสมในการจัดการประสบการณ์ของลูกค้าจะมี AI built-in และมี resources ที่ใช้ประโยชน์จาก AI ให้ได้มากที่สุด
ความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และร้านอาหาร
เพียงชั่วข้ามคืนร้านอาหารต้องเปลี่ยนรูปแบบการให้บริการเป็น Digital Self-Service จากรายงานผลกระทบทางเศรษฐกิจจาก COVID-19 จาก Yelp เผยว่า “บริการเดลิเวอรี่ได้รับความนิยมมากขึ้นถึง 300%”
ช่วงล็อคดาวน์ร้านอาหารเปลี่ยนการให้บริการเป็นเดลิเวอรี่ 100% เช่นเดียวกับอีโคซิสเต็มอื่นๆ เช่น ระบบการจัดส่งของก็เปิดและสนับสนุนร้านอาหารด้วยการให้ส่วนลดค่าคอมมิชชั่น ให้ข้อเสนอต่างๆกับลูกค้า การเข้าถึงข้อมูลดิจิทัลทั้งหมดมีความจำเป็นอย่างมาก และได้เป็นแนวโน้มใหม่ของธุรกิจร้านอาหารในปัจจุบัน
เมื่อร้านอาหารส่วนใหญ่ก้าวสู่แพลตฟอร์มออนไลน์ ความต้องการโซลูชั่นที่เชื่อมต่อกับลูกค้าก็มีเพิ่มมากขึ้น เพราะผู้บริโภคส่วนใหญ่สั่งอาหารผ่านช่องทางออนไลน์ และต้องการ engage “ทุกขั้นตอน” ของการสั่งอาหารจากแพลตฟอร์มนั้น ปัจจุบันเจ้าของร้านอาหาร และพนักงานหน้าร้าน ควรพิจารณาว่าจะจัดการ Customer Journey นี้อย่างไรต่อไปในอนาคตให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด
“การฟื้นฟู” เป็นสิ่งที่ธุรกิจต้องทำ ณ ขณะนี้
ไม่ว่าจะเป็นบริษัทท่องเที่ยวขนาดเล็ก สายการบินขนาดใหญ่ ร้านอาหาร หรือการให้บริการเดลิเวอรี่ จำเป็นต้องมี “การปรับตัวทางธุรกิจ” (business resilience) อะโดบีขอแนะนำ 3 กลยุทธ์ในการฟื้นฟูอุตสาหกรรมท่องเที่ยว และร้านอาหารดังนี้:
สำหรับธุรกิจร้านอาหาร การกลับมาเปิดอีกครั้งอาจทำให้การบริการลูกค้าล่าช้า ดังนั้นการสื่อสาร เช่น การขอโทษลูกค้าล่วงหน้าที่ทางร้านอาจยังให้การบริการลูกค้าที่ไม่สมบูรณ์ หรือเกิดความล่าช้าในการให้บริการ เช่น พนักงานเสิร์ฟอาหารไม่ทันเวลาที่กำหนด เนื่องจากความท้าทายต่างๆ เช่น พนักงานยังกลับมาทำงานไม่ครบ ซัพพลายเออร์ที่ยังมีข้อจำกัดในการขนส่ง ฯลฯ การสื่อสารที่ตรงไปตรงมาและจริงใจจะช่วยบริหารความพอใจของลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมใดๆ การสื่อสารเชิงรุกเฉพาะบุคคลมีความสำคัญอย่างมากที่จะช่วยให้ลูกค้าเข้าใจในสถานการณ์ของผู้ประกอบการ
ออริจิ้น โฮเทล โชว์ผลงานสวนกระแสท่ามกลางสภาวะธุรกิจท่องเที่ยวหดตัว สะท้อนผ่านยอด Occupancy Rateโรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ แอนด์ สวีทส์ ศรีราชา แหลมฉบัง สูงถึง 70% ต่อวัน และมีอัตรา Room Rate ต่อคืนสูงกว่าตลาดในย่านเดียวกัน ตอกย้ำความสำเร็จจาก 3 ปัจจัย "แบรนด์คุณภาพ-บริการมาตรฐาน-ทำเลศักยภาพใจกลาง EEC" มั่นใจแนวโน้มธุรกิจการท่องเที่ยวจะกลับมาเติบโต นายปิติพงษ์ ไตรนุรักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น โฮเทล จำกัด (มหาชน) ผู้ดำเนินธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income) ในเครือบริษัท
สัมผัสเรื่องราวของศรีลังกา ผ่านประสบการณ์การท่องเที่ยวสุดประทับใจกับไมเนอร์ โฮเทลส์
—
เริ่มต้นจากโคลัมโบ เมืองหลวงอันคึกคัก ก่อนมุ่งหน้าสู่คาลูทารา ต่อด้ว...
วิทยาลัยดุสิตธานี เซ็น MoU กับ 5 สถานประกอบการชื่อดัง มุ่งเป้าพัฒนาทักษะนักศึกษาเพื่อการทำงานในอนาคต
—
เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา วิทยาลัยดุสิตธ...
ลาซาด้า จับมือ ททท. ติดปีกท่องเที่ยวไทยสู่ 5 ประเทศอาเซียนผ่าน LazTravel
—
ลาซาด้า ประเทศไทย ร่วมมือกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ภายใต้โครงการ Am...
วีซ่า และ ททท. รวมพลังเดินหน้ากระตุ้นการท่องเที่ยวและการใช้จ่ายของชาวต่างชาติมาเที่ยวไทย ปล่อยแคมเปญ "วีซ่าไทยแลนด์แกรนด์เซลล์ 2568"
—
วีซ่า ผู้นำการให้บร...
JARTON ร่วมกับแพลตฟอร์ม Zoodio โดยองค์การส่วนสัตว์ฯ นำเสนอเทคเทคโนโลยี AI ด้านความปลอดภัยให้ผู้บริหารสวนสัตว์จากทั่วประเทศ
—
สำนักดิจิทัลและสารสนเทศ องค์ก...
มาสเตอร์การ์ด และ CrescentRating เผยผลสำรวจดัชนีการท่องเที่ยวมุสลิมทั่วโลกปี 2025 พบเทรนด์น่าสนใจช่วยขับเคลื่อนอนาคตการท่องเที่ยวฮาลาล
—
รายงานประจำปีครั้...
GCAP ยกทัพเปิดข้อมูลเด็ดในงาน mai Forum 2025
—
ข่าวดีสำหรับแฟนคลับ "บมจ.จี แคปปิตอล หรือ GCAP" ผู้ให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อเครื่องจักรกลการเกษตร แ...