กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) โดยสถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ (NEA) เร่งกระตุ้นผู้ประกอบการรายใหม่ในธุรกิจการส่งออก ผ่านโครงการความรู้เบื้องต้นในการประกอบธุรกิจส่งออกให้กับผู้ประกอบการ 100 ราย ด้วยกิจกรรมต่าง ๆ อาทิ การพัฒนาผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์สำหรับการส่งออก สิทธิประโยชน์ด้านภาษีและพิธีการศุลกากร ฯลฯ หวังเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจและเพิ่มโอกาสในการส่งออกสินค้าไปสู่ผู้ประกอบการรายภูมิภาคเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ ในปี 2563 (เดือนตุลาคม 2562 – มีนาคม 2563)ที่สถาบันฯ ได้จัดกิจกรรมอบรมและสัมมนาหลักสูตรออนไลน์ พบว่ามีผู้ประกอบการเข้าร่วมเกือบ 6,000 ราย และสามารถนำเทคนิคและองค์ความรู้ ที่ได้จากกสถาบัน ฯ ไปใช้ในทางธุรกิจ ก่อให้เกิดมูลค่าส่งออกรวม 776,219,810 บาท พร้อมโชว์ 5 อันดับหลักสูตรยอดนิยมที่ผู้ประกอบการให้ความสนใจในการเรียน กับสถาบัน NEA ได้แก่ อันดับ 1 หลักสูตรความรู้เบื้องต้นในการประกอบธุรกิจส่งออก อันดับ 2 หลักสูตรการขายสินค้าออนไลน์แบบข้ามพรมแดน อันดับ 3 หลักสูตรการตลาดดิจิทัลเพื่อเน้นผลลัพธ์ทางธุรกิจ อันดับ 4 หลักสูตรการตลาดดิจิทัล และ อันดับ 5 หลักสูตรสตาร์ทอัพเบื้องต้น
นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า ที่ผ่านมาการส่งออกของประเทศไทยมีอัตราการขยายตัวที่ดีอย่างต่อเนื่อง ผู้ประกอบการหลายสาขาให้ความสนใจในการทำธุรกิจการค้าระหว่างประเทศเพิ่มมากขึ้น จนเป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้เศรษฐกิจของประเทศไทยมีอัตราการขยายตัวในแต่ละปี แต่ในขณะเดียวกันก็ยังมีผู้ประกอบการจำนวนไม่น้อยที่มีศักยภาพในการทำธุรกิจเพื่อการส่งออก แต่ยังขาดทั้งความรู้ โอกาสในการเข้าถึง การสนับสนุนจากภาคส่วนต่าง ๆ ขาดความเข้าใจในกระบวนการทำการค้าระหว่างประเทศที่มีความซับซ้อน รวมถึงขาดข้อมูลเกี่ยวกับตลาดปลายทางและนโยบายส่งออกระดับมหภาค จนทำให้ไม่สามารถเข้าสู่กระบวนการการส่งออกสินค้า เหมือนผู้ประกอบการรายอื่น ๆ ได้ ดังนั้น กรมฯ จึงได้เห็นความจำเป็นที่จะต้องผลักดันให้เกิดผู้ประกอบการส่งออก หน้าใหม่ ๆ ให้เพิ่มขึ้นเพื่อเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในระดับภูมิภาค รวมถึงส่งเสริมให้รายเก่าสามารถทำธุรกิจได้อย่างแข็งแกร่ง เพื่อให้สามารถขยายไปสู่ตลาดที่มีศักยภาพและดำเนินธุรกิจให้เป็นไปอย่างยั่งยืน
เพื่อให้กิจกรรมการส่งออกไทยมีศักยภาพ และกระจายโอกาสการค้าระหว่างประเทศให้เพิ่มอย่างต่อเนื่อง กรมฯ โดยสถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่(NEA) จึงได้จัดโครงการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ “ความรู้เบื้องต้น ในการประกอบธุรกิจส่งออก” หลักสูตรเพื่อสนับสนุนการส่งออกต้นฉบับของไทยที่ครอบคลุมทุกเนื้อหามาอย่างยาวนาน จากรุ่นที่ 1 จนถึงปัจจุบัน รุ่น 137 (ในรูปแบบออฟไลน์)ประกอบด้วยหัวข้อ เตรียมธุรกิจอย่างไรให้เป็นผู้ส่งออก การสร้างโมเดลธุรกิจเพื่อพิชิตตลาดโลก ขั้นตอนการดำเนินธุรกิจส่งออก –นำเข้า และระบบ Logistics การพัฒนาผลิตภัณฑ์ และบรรจุภัณฑ์สำหรับการส่งออก เอกสารและการเงินเพื่อธุรกิจระหว่างประเทศ Workshop : ครบเครื่องเรื่องส่งออก สิทธิประโยชน์ด้านภาษีและพิธีการศุลกากร ข้อควรระวังสำหรับการส่งสินค้าสู่ตลาดสากล ซึ่งที่ผ่านมาสามารถสร้างทักษะด้านการส่งออกรอบด้าน ช่วยให้ผู้ประกอบการประสบความสำเร็จในการนำสินค้าไทยไปเติบโตในตลาดต่างประเทศ และสามารถต่อยอดการทำธุรกิจให้สามารถส่งสินค้าออกไปต่างประเทศ และได้รับการยอมรับมากขึ้นอีกด้วย
นางอารดา เฟื่องทอง ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ กล่าวว่า การฝึกอบรม เชิงปฏิบัติการ “ความรู้เบื้องต้นในการประกอบธุรกิจส่งออก” รุ่นที่ 137 รุ่นล่าสุดมีผู้เข้าร่วมจำนวน 100 ราย ส่วนใหญ่ อยู่ในกลุ่มธุรกิจอาหาร สิ่งทอเสื้อผ้าและเครื่องประดับแฟชั่น ของขวัญ และเครื่องประดับตกแต่งบ้าน การจัดหลักสูตรนี้สถาบันมีความมุ่งหวังเพื่อให้ผู้ประกอบการเตรียมความพร้อมก่อนเข้าสู่กระบวนการการค้าระหว่างประเทศ รวมถึงพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการไทยให้สามารถดำเนินธุรกิจการค้าระหว่างประเทศในเศรษฐกิจยุคใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตามหลักสูตรนี้ยังถือเป็นหลักสูตรแรกเริ่มที่ผู้ประกอบการจำเป็นจะต้องเรียนรู้ ขั้นตอนการส่งออกตั้งแต่พื้นฐาน ศึกษากฏระเบียบด้านภาษีและพิธีการศุลกากร รวมถึงเข้าร่วมกิจกรรม Workshop ร่วมกับผู้ประกอบการมากมาย เพื่อเป็นการสร้างความแข็งแรงของเครือข่ายผู้ประกอบการ อีกทั้งวิทยากรผู้เชี่ยวชาญจากโครงการดังกล่าว จะมาร่วมแบ่งปันเทคนิคการทำการค้าระหว่างประเทศให้ครอบคลุมทุกรอบด้าน และแนะนำข้อควรระวังจากการส่งออก เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมให้กับผู้ประกอบการสามารถทำการค้าระหว่างประเทศได้อย่างประสบความสำเร็จ
นอกเหนือจากหลักสูตรดังกล่าว สถาบัน NEA ยังได้มีการจัดทำหลักสูตรอื่น ๆ ควบคู่ไปพร้อมกันกับหลักสูตรความรู้เบื้องต้นในการประกอบธุรกิจส่งออก ผ่านการเรียนรู้รูปแบบ E-Learning ภายใต้ชื่อ “E-Academy” เพื่อเป็นการเพิ่มศักยภาพและปูพื้นฐานผู้ประกอบการก่อนการส่งออก และให้สามารถเข้าสู่กระบวนการค้าระหว่างประเทศที่มีบรรทัดฐานเดียวกัน ส่วนในช่วงครึ่งปีหลัง 2563 ได้เตรียมเพิ่มอีกประมาณ 20 โครงการ เพื่อผลักดันให้ผู้ประกอบการสามารถทำการค้า รูปแบบใหม่ รวมถึงการส่งออกได้เพิ่มมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามหลักสูตรสัมมนาต่าง ๆ นั้นจะถูกปรับรูปแบบไปสู่ออนไลน์ เนื่องด้วยสถานการณ์ในบริบทโลก และเป็นการเตรียมความพร้อมให้ผู้ประกอบการคุ้นชินกับระบบดังกล่าวให้มากขึ้น ซึ่งอยากให้ผู้ประกอบการติดตามโครงการของสถาบันอย่างใกล้ชิดและใช้ความรู้ ให้เป็นประโยชน์
นางอารดา กล่าวเพิ่มเติมว่า และสำหรับในปี 2563 ช่วงเวลาตั้งแต่ (เดือนตุลาคม 2562 – มีนาคม 2563)สถาบันได้จัดกิจกรรมอบรมและสัมมนาออนไลน์ทั้งสิ้น 44 ครั้ง จากทั้งหมด 61 หลักสูตร มีผู้ประกอบการเข้าร่วม กว่า 6,000 ราย และสามารถนำเทคนิคและองค์ความรู้ที่ได้จากกรมฯ และสถาบัน ไปใช้ในทางธุรกิจก่อให้เกิด มูลค่าส่งออกจำนวน 776,219,810 บาท ดังนั้นจะเห็นได้ว่าผู้ประกอบการได้รับความรู้ทักษะพื้นฐานจากโครงการของสถาบันและสามารถต่อยอดธุรกิจให้ก้าวเข้าสู่ระดับโลกได้ และทำให้เห็นว่าการเรียนผ่านระบบออนไลน์เป็นสิ่งสำคัญ และไม่เป็นอุปสรรค ซึ่งในระยะต่อไปภาครัฐหรือหน่วยงานสนับสนุนจำเป็นต้องผลิตหลักสูตรที่สามารถอำนวย ความสะดวกให้ผู้ประกอบการสามารถเรียนรู้ได้ทุกที่ ทุกเวลา เพื่อให้ทุก ๆ กิจกรรมดำเนินไปอย่างคล่องตัว
จากการก่อตั้งสถาบันตั้งแต่แรกเริ่มจนถึงปัจจุบัน พบว่าผู้ประกอบการไทยให้ความสนใจในการเข้าสู่ช่องทางออนไลน์ อาทิ การอบรมผ่านหลักสูตรออนไลน์ การใช้ออนไลน์เป็นช่องทางในการค้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในส่วนของจำนวนผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการกับสถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่นั้น พบว่า 5 อันดับหลักสูตรที่ได้รับความนิยมผ่านช่องทางการเรียนรู้ของ E-Learning นั้น ได้แก่ อันดับ 1 หลักสูตรความรู้เบื้องต้นในการประกอบธุรกิจส่งออก อันดับ 2 หลักสูตรการขายสินค้าออนไลน์แบบข้ามพรมแดน อันดับ 3 หลักสูตรการตลาดดิจิทัลเพื่อเน้นผลลัพธ์ทางธุรกิจ อันดับ 4 หลักสูตรการตลาดดิจิทัล และ อันดับ 5 หลักสูตรสตาร์ทอัพเบื้องต้น
หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ สถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ (NEA) ได้ที่ nea.ditp.go.th หรือ www.ditp.go.th และ www.facebook.com/nea.ditp หรือ 1169 กด 1
DITP แถลงข่าวตอกย้ำความสำเร็จ E-Academy ภายใต้แนวคิด "Beyond Boundaries Transform Knowledge into Impact"
ทิศทางของสถาบัน NEA กับกลยุทธ์ดันผู้ประกอบการไทยพิชิตตลาดโลก ในปี 2567
ทิศทางของสถาบัน NEA กับกลยุทธ์ดันผู้ประกอบการไทยพิชิตตลาดโลก ในปี 2567
NEA Open House 2023 เปิดความสำเร็จ! ดันผู้ประกอบการไทยผงาดตลาดโลก
NEA เปิดบ้านโชว์ความสำเร็จ! ดันผู้ประกอบการไทยสู่เวทีการค้าโลก ในงาน NEA Open House 2023
ไทยพาณิชย์ จัดโครงการ SCB ITP รุ่นที่ 5 : Sustainable Growth for Exporter เสริมส่งออก SME ไทย เติบโตอย่างยั่งยืน
พาณิชย์-DITP ผนึกกำลังภาคเอกชน เปิดประตูสู่แดนมังกร ติดอาวุธผู้ประกอบการไทยลุยขยายฐานตลาดจีน
NEA เปิดภาพความสำเร็จ! ดันผู้ประกอบการสินค้าเกษตร และอาหารไทยในกิจกรรม "เกษตรทันสมัย พาณิชย์ขายให้ ออนไลน์ทั่วโลก" รุ่นที่ 4
พาณิชย์-DITP เปิดเวที The Next Chapter ครั้งที่ 2 อัปเดตเทรนด์การค้า ขับเคลื่อนเกษตรไทยก้าวไกลสู่ตลาดโลก