กรณีการตายและการเกยตื้นของสัตว์ทะเลหายากในช่วง 2 – 3 ปี ที่ผ่านมา หลายหน่วยงานได้พยายามศึกษาและหาสาเหตุการตาย รวมถึงกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ที่เป็นหน่วยงานหลักในการรวบรวมข้อมูลและสถิติต่าง ๆ และในวันนี้ (23 มิถุนายน 2563) กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้ร่วมมือกับสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ลงนามความร่วมมือด้านวิชาการในการศึกษา วิจัย และชันสูตรการตายของสัตว์ทะเลหายาก ซึ่งอาจจะเป็นครั้งแรกของโลกที่มนุษย์จะศึกษาเพื่อหาความยุติธรรมให้แก่สัตว์ทะเล นายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวย้ำ ความร่วมมือครั้งนี้ เพื่อการอนุรักษ์และฟื้นฟูสัตว์ทะเลหายาก พร้อมวอนขอความร่วมมือหยุดพฤติกรรมทำร้ายสัตว์ทะเลเพื่อคงความสมบูรณ์คืนสู่ลูกหลานต่อไป
นายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวภายหลังการลงนามความร่วมมือด้านวิชาการว่า จากรายงานสถิติสถานการณ์สัตว์ทะเลหายากที่พบการเกยตื้น ช่วงปี 2562 – 2563 พบสัตว์ทะเลหายากจำพวกเต่าทะเล พะยูน โลมาและวาฬ เกยตื้นชนิดพบเป็นซากสะสมกว่า 970 ตัว สามารถช่วยรอดชีวิตกว่า 473 ตัว และสามารถปล่อยกลับลงสู่ทะเลกว่า 200 ตัว ซึ่งสาเหตุการตายหรือการเกยตื้นส่วนใหญ่ก็มีสาเหตุจากกิจกรรมมนุษย์ ทั้งจากเครื่องมือประมง กลืนกินขยะทะเล ปัญหามลพิษปนเปื้อนในน้ำทะเล การเสียชีวิตเนื่องจากโรคตามธรรมชาติ นอกจากนี้ หลายกรณียังไม่ทราบสาเหตุการตายที่แน่ชัด ด้วยเหตุนี้ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้มีนโยบายในการศึกษาและสืบหาสาเหตุการตายของสัตว์ทะเลหายากต่าง ๆ เพื่อกำหนดแนวทางและมาตรการในการรักษา คุ้มครอง และฟื้นฟูสัตว์ทะเลหายากที่นับวันจะลดจำนวนลง จึงเป็นเหตุให้กรมฯ ได้หาพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญ และมีความพร้อมทั้งบุคลากร รวมถึงเครื่องมือในการพิสูจน์และชันสูตรการเสียชีวิต การลงนามข้อตกลงทางวิชาการในวันนี้ (23 มิถุนายน 2563) กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้จับมือกับสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อสนธิกำลังบุคลากร ระดมความรู้และเครื่องมือในการศึกษา วิจัย และช่วยชีวิตสัตว์ทะเลหายาก สุดท้ายตนอยากฝากทิ้งท้ายไว้ “ในช่วงวิกฤติสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 มีการประกาศปิดอุทยานกว่า 140 แห่ง มนุษย์ได้อยู่ห่างจากธรรมชาติ ปล่อยให้ธรรมชาติได้ฟื้นตัว มีการรายงานการพบเห็นสัตว์ทะเลหายากบ่อยครั้งในหลาย ๆ พื้นที่ ในเดือนกรกฎาคมจะเริ่มเปิดแหล่งท่องเที่ยวทางทะเล การท่องเที่ยวอย่างมีจิตสำนึก การทำประมงอย่างถูกหลักวิธี การลดการปล่อยของเสียและขยะลงทะเล เราคงต้องดำเนินการสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้อย่างจริงจัง บทเรียนที่ผ่านมาสะท้อนให้เห็นถึงผลจากการกระทำของมนุษย์ต่อสัตว์ทะเลหายาก หากเราไม่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เราอาจจะสูญเสียสัตว์ทะเลหายากไปทั้งหมด และลูกหลานเราคงได้เห็นเฉพาะเพียงภาพถ่าย หน้าที่ของเราคือรักษาทรัพยากรทางทะเลให้คงอยู่และยั่งยืน เพื่อคืนให้ลูกหลานเราได้ชื่นชมและอนุรักษ์ ต่อไป”
พ.ต.ท. วรรณพงษ์ คชรักษ์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงยุติธรรม โดยสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เป็นหน่วยงานที่จะดำเนินการใด ๆ เพื่อความยุติธรรม ไม่ใช่เฉพาะต่อมนุษย์ แต่เรายังคำนึงถึงความยุติธรรมต่อสัตว์ที่อยู่ร่วมโลก ซึ่งครั้งนี้ อาจจะเป็นครั้งแรกของโลกที่จะใช้นิติวิทยาศาสตร์กับสัตว์ ซึ่งทางสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ก็มีความพร้อมและยินดีที่จะร่วมมือกับกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในการพิสูจน์และชันสูตรหาสาเหตุการตายของสัตว์ทะเลหายาก ทั้งเพื่อการศึกษาวิจัย และสืบหาความยุติธรรมให้แก่สัตว์ทะเลหายาก
ศ. น.สพ. ดร. รุ่งโรจน์ ธนาวงษ์นุเวช คณบดีคณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ในด้านวิชาการเราจะยึดหลัก Prevention better than cure หรือการป้องกันดีกว่าการรักษา ซึ่งกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งเป็นหน่วยงานที่มีฐานข้อมูลที่สำคัญจำเป็น การพิสูจน์ทราบสาเหตุการตายหรือการเกยตื้นจะเป็นประโยชน์สำคัญอย่างยิ่งในอนาคต ทางทีมสัตวแพทย์จะใช้องค์ความรู้ทางวิชาการเพื่อช่วยลดโอกาสการเกยตื้นและการตาย ในทางกลับกัน ทางทีมสัตวแพทย์ก็ยังได้ศึกษา วิจัย และเรียนรู้เพิ่มเติมจากความร่วมมือครั้งนี้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศไทยและชาวโลกต่อไปในอนาคต ดร. รุ่งโรจน์ กล่าวในที่สุด
มิสทิน ร่วมกับ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) เดินหน้าโครงการยกเลิกการใช้สารที่เป็นอันตรายต่อปะการังในผลิตภัณฑ์กันแดดปลูกจิตสำนึก อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมทางทะเลและชายฝั่งอย่างยั่งยืน มิสทิน ร่วมกับ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) นำโดย ดร.ปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (อทช.) พร้อมด้วยคณะให้การต้อนรับคุณปราการ สท้านโยธิน กรรมการผู้จัดการ และคณะผู้บริหาร บริษัท เบทเตอร์เวย์ (ประเทศไทย) จำกัด และ และ บริษัท เบทเตอร์เวย์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ในนามผู้จัดจำหน่าย
ครั้งแรก! มิสทินปฏิวัติวงการเปิดตัวกันแดดเวอร์ชั่น 2025 MISTINE Aqua V ไร้สารกันเสีย กล้าท้าแดดตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์
—
ใหม่!!! MISTINE Aqua V Ultra Light &...
ความร่วมมือครั้งสำคัญ MOU ต่อเนื่อง มิสทิน จับมือ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เดินหน้าโครงการ CSR ยกระดับผลิตภัณฑ์กันแดดที่เป็นมิตรต่อทะเลและปะการัง
—
มิสทินเดินห...
DCCE ร่วมกับ ทช. และ UNDP ปิดโครงการ "การเสริมสร้างภูมิคุ้มกันต่อผลกระทบ จากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในพื้นที่ทางทะเลและชายฝั่งตามแนวอ่าวไทย"
—
DCCE ร่วมกั...
ซีพีเอฟ ร่วมอนุรักษ์ท้องทะเลไทย เสริมสร้างความมั่นคงทางอาหารชุมชนอย่างยั่งยืนปล่อยปูม้า 20 ล้านตัว ปลูกต้นโกงกาง เก็บขยะชายหาดบางสน จ.ชุมพร
—
กรมทรัพยากรท...
OR และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ร่วมพัฒนาคุณภาพชีวิตเกษตรกรในพื้นที่ป่าอนุรักษ์อย่างยั่งยืน
—
นายดิษทัต ปันยารชุน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริ...
LET จัดอบรม e-Service การบริหารจัดการสัตว์ป่าตามพ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าฯ
—
นายอรรถพล เจริญชันษา (ที่2จากซ้าย) อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รัก...
ไทยยูเนี่ยน ทุ่ม 3 ล้าน จับมือมูลนิธิ Earth Agenda สนับสนุน "โครงการรักษ์ทะเล" ผ่านนวัตกรรมบ้านปะการังจาก CPAC Green Solution โดยเอสซีจี
—
บริษัท ไทยยูเนี...
ททท. จับมือจังหวัดภูเก็ต และกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง จัดโครงการ "THE ONE FOR NATURE" ยิ่งเที่ยวยิ่งรักษ์ ครั้งที่ 2
—
ชูแนวคิด "Travel with Responsibi...