บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ เดินหน้าเชิงรุกตามแผนการพัฒนาอย่างยั่งยืนปี 2568-2573 เน้นลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกผ่านโครงการพลังงานหมุนเวียนและการลดบรรจุภัณฑ์พลาสติกต่อเนื่อง เพื่อบรรเทาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและการใช้ทรัพยากรให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ตามแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) สู่องค์กรที่เติบโตอย่างยั่งยืน
นายวุฒิชัย สิทธิปรีดานันท์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซีพีเอฟ กล่าวว่า บริษัทฯ สามารถดำเนินงานตามเป้าหมายความยั่งยืนปี 2563 ได้อย่างเข้มแข็งและต่อเนื่องตามแผน ทำให้เกิดผลสำเร็จในหลายด้าน เช่น การยกระดับคุณภาพและความปลอดภัย ซึ่ง 30% ของผลิตภัณฑ์ใหม่ของบริษัทฯเป็นผลิตภัณฑ์ที่มุ่งเน้นสุขโภชนาการ สุขภาพและสุขภาวะที่ดี การพัฒนาเจ้าหน้าที่สวัสดิภาพสัตว์ (Poultry Welfare Officer : PWO) ของฟาร์มไก่เนื้อในกิจการทุกประเทศ 100% การตรวจประเมินด้านความยั่งยืนคู่ค้าธุรกิจหลักในกลุ่มวัตถุดิบอาหารสัตว์ เครื่องปรุงและบรรจุภัณฑ์ 100% และสนับสนุนคู่ค้าธุรกิจให้มีการตรวจประเมินตนเองด้านยั่งยืน
ซีพีเอฟ เดินหน้าตามแผนงานการพัฒนาอย่างยั่งยืนสู่เป้าหมายโดยเฉพาะการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยในปี 2568 เป็นการดำเนินการต่อเนื่องด้านบรรจุภัณฑ์พลาสติกที่นำมาใช้สำหรับกิจการในประเทศไทย จะต้องนำกลับมาใช้ซ้ำ (Reusable) หรือ นำมาใช้ใหม่ (Recyclable) หรือ นำไปผลิตเป็นสินค้าใหม่ได้ (Upcyclable) หรือ ย่อยสลายได้ (Compostable) 100% ส่วนกิจการในต่างประเทศจะดำเนินการในทิศทางเดียวกันให้บุรลุเป้าหมายในปี 2573 ซึ่งปัจจุบันบรรจุภัณฑ์พลาสติกของบริษัทฯในประเทศไทยสามารถนำกลับมาใช้ซ้ำและนำมาใช้ใหม่ได้แล้ว 100%
นอกจากนี้ เป้าหมายดังกล่าวยังครอบคลุมการยกเลิกการใช้บรรจุภัณพ์พลาสติกที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมหรือบรรจุภัณฑ์พลาสติกที่ไม่จำเป็น สำหรับกิจการในประเทศไทยในปี 2568 และกิจการในต่างประเทศปี 2573
สำหรับเป้าหมายปี 2568 ด้านอื่นประกอบด้วย การลดปริมาณของเสียที่กำจัดโดยการฝังกลบและเผาต่อหน่วยการผลิต 35% การลดปริมาณการดึงน้ำมาใช้ต่อหน่วยการผลิต 30% และการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกขอบเขตที่ 1 (การปล่อยโดยตรงจากการใช้ถ่านหินและพลังงานชีวมวล) และขอบเขตที่ 2 (จากการซื้อพลังงานจากการไฟฟ้า) ต่อหน่วยการผลิต 25% ซึ่งทั้งหมดเป็นการลดโดยการเปรียบเทียบกับปีฐาน 2558
บริษัทฯยังให้ความสำคัญกับทำฟาร์มปศุสัตว์ตามหลักสวัสดิภาพสัตว์สากล หรือ อิสระ 5 ประการ รวมถึงการลดการใช้ยาปฏิชีวนะตลอดการเลี้ยง โดยธุรกิจสุกรในประเทศไทยมุ่งสู่ระบบการเลี้ยงแบบคอกขังรวมสำหรับฟาร์มสุกรแม่พันธุ์อุ้มท้อง 100% ในปี 2568 ส่วนกิจการในต่างประเทศจะปรับเปลี่ยนแล้วเสร็จในปี 2571และเดินหน้าพัฒนาฟาร์มไก่ไข่ไปสู่การเลี้ยงแบบปล่อยอิสระในโรงเรือน (cage free)
“ซีพีเอฟ มีการกำกับดูแลกิจการเพื่อความยั่งยืนตามโครงสร้างการกำกับดูแลด้านความยั่งยืน เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปในทิศทางเดียวกันทั่วทั้งองค์กร เกิดการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าควบคู่ไปกับการลดการเกิดของเสียตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน และจัดการทรัพยากรตามาตรฐานสากลและสร้างคุณค่าจากของเสียที่เกิดในกระบวนการผลิต” นายวุฒิชัย กล่าว
ซีพีเอฟ ยังได้ส่งเสริมการทำการเกษตรอย่างยั่งยืนตามหลักวิชาการ สู่การจัดวัตถุดิบทางการเกษตรด้วยความรับผิดชอบโดยเฉพาะ ข้าวโพด ปลาป่น กากถั่วเหลือง น้ำมันปาล์มและมันสำปะหลัง ต้องมาจากแหล่งผลิตที่รับผิดชอบและสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ 100% ภายในปี 2563 ตลอดจนเดินหน้าโครงการอนุรักษ์ ปกป้อง และฟื้นฟูพื้นที่ป่าชายแลนและป่าต้นน้ำรวมกว่า 10,000 ไร่ เพื่อความหลากหลายทางชีวภาพของระบบนิเวศทั้งทางบกและทางทะเล
นายวุฒิชัย กล่าวต่อไปว่า ซีพีเอฟ ยังมุ่งมั่นในการเพิ่มสัดส่วนรายได้สีเขียว (CPF Green Revenue) ที่มาจากผลิตภัณฑ์อาหารที่ยั่งยืน จากโครงการต่างๆ เช่น ส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียนโดยเฉพาะโซล่าร์ รูฟท็อปสนับสนุนการนำของเสียกลับมาใช้ประโยชน์จากโครงการไบโอแก๊สในฟาร์มสุกร เป็นต้น โดยในปีที่ผ่านมาธุรกิจอาหารสัตว์ ฟาร์มปศุสัตว์และอาหารสำเร็จรูป ของ ซีพีเอฟ มีการใช้พลังงานหมุนเวียน (renewable energy) 25% ของการใช้พลังงานทั้งหมดขององค์กร และมีโครงการในเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากรน้ำตลอดกระบวนการผลิต การบริหารจัดการแหล่งน้ำร่วมกับชุมชนและโครงการอื่นๆ
ซีพีเอฟ ดำเนินธุรกิจภายใต้กลยุทธ์ความยั่งยืน 3 เสาหลัก ได้แก่ อาหารมั่นคง สังคมพึ่งตน และดินน้ำป่าคงอยู่ สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนแห่งสหประชาชาติ (Sustainable Development Goals : SDGs) ในทางตรง 11 เป้าหมาย จาก 17 เป้าหมาย ซึ่งมีส่วนสนับสนุนขีดความสามารถและศักยภาพของบริษัทฯในการเดินหน้าสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนด้วยความรับผิดชอบและคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม ภายใต้หลักบรรษัทภิบาล หรือ ESG (Environmental, Social and Governance)
เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม ของทุกปี ตรงกับวันอาหารโลก (World Food Day) เป็นวันสำคัญที่กระตุ้นให้ทุกภาคส่วนร่วมกันตระหนักถึงความสำคัญของความมั่นคงทางอาหาร ขจัดความอดอยาก หิวโหย ซึ่งในปี 2022 (พ.ศ. 2565) องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (Food and Agriculture Organization of the United Nations :FAO) ตอกย้ำ แนวคิด "Leave NO ONE behind"หรือ"ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง" นายวุฒิชัย สิทธิปรีดานันท์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและการพัฒนาความยั่งยืนองค์กร ซีพีเอฟ เปิดเผยว่า ซีพีเอฟ
CPF ชวนพนักงานปลูกต้นไม้ ลดโลกร้อน เดินหน้าโครงการ "กล้าจากป่า พนาในเมือง" ปีที่2
—
บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ สานต่อโครงการ "กล้...
CPF ร่วมยกระดับแหล่งท่องเที่ยววิสาหกิจชุมชนตราด-ระยอง สร้างรายได้สู่ชุมชนยั่งยืน
—
บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ สนับสนุน"วิสาหกิจช...
ซีพีเอฟ ผนึกกำลัง ผู้บริหาร-พนักงาน รวมพลังปราบโกง ต่อต้านคอร์รัปชันทุกรูปแบบ ปี 2565
—
บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ นำโดย นางสาววิ...
CPF ปลุกพลังพนักงาน บูรณาการโครงการเพื่อสังคม-ชุมชน เฟ้นรางวัล CSR Pitching Contest
—
บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ สร้างแรงบันดาลใ...
กรมอุทยานแห่งชาติฯ เครือเจริญโภคภัณฑ์ และบริษัทในเครือฯ ชวนคนรักธรรมชาติกดชัดเตอร์ ส่งภาพเข้าประกวดโครงการ 'สัตว์มีค่า ป่ามีคุณ' ครั้งที่ 28
—
กรมอุทยานแห...
CPF สานต่อ Circular Meal ..มื้อนี้เปลี่ยนโลก ปีที่ 2 จัดการอาหารส่วนเกิน สร้างความมั่นคงทางอาหาร
—
บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ...
12 เม.ย. วันป่าชุมชนชายเลนไทย ซีพีเอฟ หนุนชุมชนร่วมดูแลป่าชายเลน รักษาสมดุลระบบนิเวศทางทะเล
—
บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ มุ่งมั่...
CPF โชว์นวัตกรรมอาหารเพื่อสุขภาพที่ดี ย้ำกลยุทธ์ "CPF Sustainabilinity in Action" งาน TSX 2021
—
บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ สน...
ซีพีเอฟ ประกาศกลยุทธ์ 2030 "Sustainability in Action" เดินหน้าภารกิจ 9 ความมุ่งมั่น สู่องค์กรยั่งยืน
—
บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอ...